ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 167

“เฉินเกอ ตอนบ่ายนายยุ่งหรือเปล่า”

เมื่อต่อสายได้ หม่าเสี่ยวหนานจึงถาม

“ฉันหรอ ไม่ยุ่งนี่”

เวลานี้ไปส่งซูเเฉียงเวยเข้าเรียน เธอไปเรียนแล้ว เขาก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว

“อ้อ อ้อ ฉันหางานพิเศษให้นาย วันเดียวก็ได้เงินห้าหันหยวนเลยนะ งานก็ง่าย แค่ขับรถให้เฟยเอ๋อ ฉันรู้ว่านายไม่ได้ขาดเงินแล้ว แต่เก็บเงินหน่อยก็ดี เฉินเกอนายคิดว่าไง”

หม่าเสี่ยวหนานถามอย่างใส่ใจ

แน่นอนเธอรู้ว่าเฉินเกอไม่มีเงินแล้ว จึงพูดออกไปแบบนั้น เพราะหม่าเสี่ยวหนานรู้ว่าตอนนี้เฉินเกอรักศักดิ์ศรีมาก จึงชอบแสร้งทำ

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น นี่ก็เป็นเพื่อนตัวเองนะ มิตรภาพของทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง

ความจริง เพียงเฉินเกอได้ยินชื่อของหานเฟยเอ๋อ แวบแรกเขาก็อยากปฏิเสธ

โดยเฉพาะคนติดตามของหานเฟยเอ๋อวันนี้มีตู้เยว่และเมิ่งไฉ่หรู

ผู้หญิงเจี๊ยวจ๊าวสองคนน่ารำคาญมากจริงๆ

แต่จะทำยังไงได้นี่เป็นความหวังดีของหม่าเสี่ยวหนานนะ

นิ่งไปสักพัก เฉินเกอพยักหน้าตอบรับในที่สุด 

ทุกอย่างก็เพื่อหม่าเสี่ยวหนานหรอก

“โอเค งั้นนายเรียกแท็กซี่กลับมาที่นี่ก่อน เดี๋ยวต้องซื้อเสื้อผ้าแต่งตัวให้นายก่อน”

หม่าเสี่ยวหนานหัวเราะด้วยความดีใจ

เฉินเกอยิ้มด้วยความขมขื่น เรียกแท็กซี่กลับไปอีกครั้ง

พวกเขาพาเฉินเกอไปด้วย ซื้อชุดให้เฉินเกอสองพันบวกกับรองเท้าหนังอีก

แล้วให้เฉินเกอสวมทันที

ไม่ต้องบอก ขนาดหานเฟยเอ๋อผู้เย็นชาได้เห็นเฉินเกอ ยังคิดว่าเมื่อสวมชุดสูทเข้าไปแล้ว เฉินเกอก็หล่อเหมือนกันนะ

กำลังเตรียมจะชื่นชมเฉินเกอสักกี่ประโยค

พลันเห็นเฉินเกอเอาชุดเก่าของตัวเองใส่ถุง และกำลังจะหยิบหิ้วขึ้นมา

เฮ้อ น่าเสียดายยังไงก็เปลี่ยนความกระจอกงอกง่อยของเขาไม่ได้อยู่ดี

“เสื้อผ้าแพงขนาดนี้เฉินเกอนายใส่ประหยัดหน่อย ค่าเสื้อผ้าทั้งตัววันนี้ บวกกับค่าขับรถ เจ็ดพันเลยนะ”

เมิ่งไฉ่หรูกอดไหล่พูด

“อืมอืม รู้แล้ว” เฉินเกอทำเพียงยิ้มขืนพยักหน้า

“เอ๋ เฉินเกอ นี่โทรศัพท์นายซื้อใหม่หรอ”

ตอนนั้นเอง หม่าเสี่ยวหนานมองเห็นโทรศัพท์ในมือเฉินเกอ จึงถามอย่างแปลกใจ

“อืม พึ่งซื้อเมื่อไม่กี่วันก่อน”

เฉินเกอพยักหน้า

“ว้าว ดูมีระดับนี่ เอามาฉันดูหน่อย”

ตู้เยว่เองก็เหลือสายตาไปมองโทรศัพท์ของเฉินเกอ เกิดความสนใจขึ้นมา

ไม่สนว่าเฉินเกอจะยอมหรือไม่ ทว่ายื่นมือออกไปแย่งมา

“โอ้ พี่เฟยเอ๋อ โค้ช พวกคุณรีบมาดู นี่เป็นโทรศัพท์**ด้วยแหละ พึ่งออกมาใหม่ ราคาเกือบ28888เลย เฉินเกอ นายใช้โทรศัพท์แบบนี้หรอ”

พอตู้เยว่ดูแล้วก็เสียงดังขึ้นมา

ก็ใช่น่ะสิ โทรศัพท์ที่เธอใช้แพงที่สุด ยังต้องผ่อนจ่ายอีก แค่เจ็ดพันกว่าเอง

แต่คนจนในห้องเรียนอย่างเฉินเกอกลับซื้อราคาเป็นสี่เท่าของเธอได้

“แบบนี้นี่เอง”

หานเฟยเอ๋อก็เหลือบตามองเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป

“เฉินเกอ ฉันไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้นายถึงชอบโอ้อวด แต่นายคิดว่าแบบนาย ใช้โทรศัพท์แพงขนาดนี้ทำไม ตอนนี้เฟยเอ๋อประสบความสำเร็จมาก ก็ใช้แค่หมื่นกว่า นายต้องรู้ นายไม่มีอาชีพ ยังไม่ทำงาน นายใช้สุรุ่ยสุร่ายได้ยังไง ปกติฉันไม่เปลืองแรงมาว่านายหรอกนะ”

ประโยคนี้เป็นของโค้ชเมิ่งไฉ่หรู

เธอพูดราวกับโดนเหยียบหาง

ใช่ เมื่อสักครู่ยังสั่งสอนเฉินเกอเพราะของราคาสองพันกว่า

สุดท้ายเฉินเกอกลับหยิบโทรศัพท์ราคาสามหมื่นออกมา เหมือนกับตบหน้าเมิ่งไฉ่หรูน่ะสิ

“ใช่ นายซื้อแพงขนาดนี้ทำไม อยากเลียนแบบคนรวยพวกนั้นหรือไง เหอะ บางคนเป็นคนจนขี้อวด เฉินเกอนายรู้ไหม มีแค่พวกไม่มีเงินเท่านั้นแหละถึงใช้แพงแบบนี้ คนที่มีเงินจริงๆ เขาใช้ของถูกๆกันทั้งนั้น”

เมื่อมาถึงห้องทำงานของจ้าวจื่อซิ่ง เขากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์พอดี

เมื่อมองเห็นเฉินเกอ จึงรีบลุกขึ้น แปลกใจอย่างเห็นได้ชัด

แต่ไม่นาน หลี่เจิ้นกั๋วก็รีบตามมา

เฉินเกอเล่าเรื่องช่วงนี้ให้ฟังแล้ว พวกเขาจึงเล่าเรื่องที่รู้เกี่ยวกับบริษัทไห่ชาน กรุ้ปบ้าง

ประเด็นหลักก็คือ บริษัทไห่ชาน กรุ้ปตั้งแต่ก่อนที่จะก่อตั้งกรุ๊ป พูดได้ว่าเป็นอำนาจอย่างสมบูรณ์แบบของตระกูลที่มีการพัวพันของอิทธิพลทางมืด มีชื่อเสียงกึกก้องอยู่ที่จินหลิง

ต่อมา เงินยิ่งสะสมยิ่งมาก สวี่ไห่ชานจึงได้ก่อตั้งกรุ๊ปขึ้น ล้างมลทินให้ตัวเอง

แต่ไม่ว่าจะล้างยังไง ฝีมือของพวกเขา เฉินเกอก็นับว่าเคยเห็นมาแล้ว

อย่างเช่นสวี่ชาวสวี่ตงสองพี่น้องมีเรื่องกับสวี่เว้ย ตระกูลสวี่ก็ถูกล้มล้าง

ยังมีสวี่ต้าหยวนคนนั้น มีลูกน้องในมือเยอะขนาดนี้

เมื่อก่อนหลี่เจิ้นกั๋วก็เคยต้อนรับพวกเขาบ้าง ก็เป็นเพราะเบื้องหลังของบริษัทไห่ชาน กรุ้ป ยังไงพวกเขาก็เลี้ยงพวกนักเลงเอาไว้ รวมทั้งความสัมพันธ์อิทธิพลกับจินหลังก็ยุ่งยากวุ่นวายเกินไป

ที่เรียกว่าทะเลาะกันแล้วดีกันจะเกิดเรื่องดีๆน่ะหรอ

มาถึงตรงนี้ เฉินเกอก็นับว่าพอเข้าใจไม่น้อยแล้ว

และในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเฉินเกอก็ดังขึ้น

เหม่อมอง เป็นเฉินเสี่ยวพี่สาวที่ไม่ได้ติดต่อกันมากว่าครึ่งเดือนโทรเข้ามา

“ทำอะไรอยู่เสี่ยวเกอ”

เฉินเสี่ยวถาม

“ไม่ได้ทำอะไร ทานข้าวกับหลี่เจิ้นกั๋วและจ้าวจื่อซิ่งครับ” เฉินเกอหัวเราะ คิดแล้วคิดอีก เรื่องนี้ไม่บอกพี่สาวดีกว่า

จะยังไงพี่สาวก็จะยกธุรกิจที่จินหลิงให้ตนอยู่แล้ว ถือว่าฝึกฝนตนเอง

พอเกิดเรื่องก็หาแต่พี่สาว นี่จะเรียกว่าฝึกฝนได้ยังไง

“ไม่เลวนี่ วันนี้ที่ฉันโทรมาแค่อยากบอกนายว่า อีกสามวัน ฉันจะไปจินหลิง ถึงตอนนั้นจะไปดูน้องชายที่รักของฉัน ฮ่าๆ”

“ห๊า พี่จะมาจินหลิงหรอ”

“ใช่น่ะสิ และฉันก็มีข่าวใหญ่มาบอกด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน