ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 211

บทที่ 211 เฉินเกอเป็นคนเรียกพวกเขามา

“อะไรนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

พอเจียงหรานหรานและคนอื่น ๆ ที่หลบอยู่ข้าง ๆ ถนนมองเห็นยังที่เกิดเหตุ และก็รู้สึกตกใจไปตาม ๆ กัน

เพราะว่าที่หน้าประตูของ KTV นั้น มีรถหรูจอดอยู่มากมาย

และก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมากมาย

“เชี่ย ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ๆ หรือว่าเฉินเกอก่อเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

หลินตงวิเคราะห์ออกมา

“แน่นอนแหละ ไม่อย่างนั้นในอำเภอผิงอันจะมีใครที่สามารถทำให้มีการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่อย่างนี้ได้หรอ หากรู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก คงไม่เอาไอ้เฉินเกอมาด้วยหรอก ดูตอนนี้สิ ก่อเรื่องใหญ่เชียว และมันคงจะเกี่ยวข้องกับพวกเราแน่ ๆ เพราะคุณชายหลิวก็รู้ว่าพวกเรามาด้วยกันกับเขา”

และสีหน้าท่าทางของพวกผู้ชายเหล่านั้น ต่างก็ดูกังวลและรู้สึกกลัวกันยกใหญ่

และเมื่อสวี่ซินได้ยินคำพูดดังนั้นของพวกเขา ก็ตกใจจนหน้าถอดสี

หากว่าเป็นจริงดั่งคำพูดเหล่านั้น แล้วเฉินเกอจะยังมีชีวิตรอดอยู่ไหม

ไม่ได้ ฉันต้องเข้าไปดูให้ได้ ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ ก็จะแจ้งความ

สวี่ซินคิดในใจ จากนั้นก็เปิดประตูรถออก แล้ววิ่งเข้าไปในร้าน KTV

สวี่ซินเองก็ประทับใจเฉินเกออยู่เหมือนกัน ถึงจะเป็นการเจอกันครั้งแรกก็เถอะ ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับการชอบกันแต่อย่างใด

แค่มีความรู้สึกว่าเฉินเกอนั้นเป็นคนดี และดูจริงใจ อีกทั้งเมื่อครู่ เขาเองทำเพื่อช่วยทุกคนเอาไว้ จนต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับอันตราย เพื่อให้ทุกคนนั้นปลอดภัย

หากถ้าจะทำเหมือนเจียงหรานหรานและคนอื่น ๆ ที่ทำไม่สนใจเฉินเกออย่างนั้น สวี่ซินเองคงทำไม่ได้หรอก

ดังนั้น สวี่ซินเลยรู้สึกตื่นเต้นอย่างนี้

“สวี่ซินเธอบ้าไปแล้วหรอ เธอรีบกลับมาเดี๋ยวนี้”

เจียงหรานหรานเองก็รีบวิ่งตามลงรถไป แล้วตะโกนเรียก

สวี่ซินถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอแล้ว และเธอเองก็ไม่ทนที่จะเห็นสวี่ซินเป็นอย่างนี้ เจียงหรานหรานเองก็ร็สึกกลัว และจากนั้นก็ได้วิ่งตามสวี่ซินไป

เพื่อที่จะคอยห้ามไม่ให้เธอทำอะไรที่มุทะลุ

สำหรับหลินตงและคนอื่น ๆ กลับนั่งดูดบุหรี่อยู่ในรถอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และก็ไม่กล้าที่จะลงจากรถด้วย ได้แค่ดูสถานการณ์อยู่ไกล ๆ

“แม่ง ข้างในช่างดูหดหู่จริง ๆ หลิวต้าเช่าคนนั้น ไม่รู้ว่าไปทำให้ใครไม่พอใจเอาไว้ ถึงโดนเขาตีสะขนาดนั้น”

“นั่นน่ะสิ ฉันเองก็แทบไม่อยากจะดู นึกว่ามีแต่ในละคร หลิวต้าเช่าคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตองอูมั้ง และคงคิดไม่ถึงล่ะสิว่า คนอื่นที่เก่งกว่าตัวเองนั้นก็มีเยอะ ฮ่า ๆ ๆ ”

ในเวลานี้ มีผู้หญิงและผู้ชายสี่ห้าคนก็ได้เดินผ่านหน้าของสวี่ซินไป

และกำลังพูดคุยกันดังจอแจ

หลังจากที่สวี่ซินได้ยินเข้า ก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน

ที่หลิวต้าเช่านั้นโดนคนอื่นตี

แล้วเฉินเกอล่ะ

และจากนั้นก็รีบ ๆ ขวางพวกเขาเอาไว้พร้อมถามว่าข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้น

จังหวะนั้นพอดีกับที่ เจียงหรานหรานนั้นวิ่งตามมา

เมื่อผู้ชายเหล่านั้นเห็นสาวสวยสองคนวิ่งมา ก็รู้สึกตื่นเต้น จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน KTV ให้ฟัง

“คนสวย พวกเธอไม่ได้เข้าไปก็ไม่เห็นหรอก พวกเธอคงรู้จักหลิวต้าเช่านะ ในอำเภอผิงอันนี้เขาถือว่าเป็นคนหนึ่งที่รวยที่สุด และเมื่อครู่เขาเองก็โดนบอดี้การ์ดชุดดำกลุ่มหนึ่งจัดการเสียอยู่หมัดเลย ลงมือโหดเหี้ยมมาก ได้ยินมาว่าเป็นคนจากจินหลิง เธอดูสิ ขนาดรถที่พวกเขาขับ ต่างก็เป็นรถหรู ๆ เหล่านี้ สุดยอดจริง ๆ ”

ผู้ชายคนหนึ่งได้พูดขึ้น

“หลิงลี้ก็พอได้ ตอนแรกฉันก็นึกว่าเขาเรียกพี่ต้าเฟยมา เหตุการณ์มันจะเปลี่ยนไป และหลิงลี้เองก็คงจะมีโอกาสเอาคืนพวกบอดี้การ์ดชุดดำนั่น แต่ไหนเลย พอเมื่อพี่ต้าเฟยมาถึง กลับดูเกรงอกเกรงใจสองคนนั้น แถมยังยื่นบุหรี่ รินเหล้าให้ ในเวลานั้นหลิวต้าเช่าเองหมดแล้วซึ่งความหวัง”

“และยังมีขาใหญ่ที่เหลืออยู่ในห้องนั้นอีก ต่างก็ยอมจำนนโดยดี”

ผู้ชายทั้งสองคนได้พูดขึ้น

“ฉันไม่ได้ถามว่าพวกนายว่าหลิงลี้และพวกเป็นอย่างไร ที่ฉันถามคือ เห็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บบ้างไหม หลิงลี้ได้ทำอะไรเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นไหม”

สวี่ซินรีบถามขึ้น

“อะไรนะ เด็กหนุ่มวัยรุ่นหรอ นอกจากหลิงลี้และคนที่ชื่อซื้อเย๋ได้รับการสั่งสอนแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่เห็นใครได้รับบาดเจ็บนะ โอ้ว สำหรับบอดี้การ์ดที่หลิงลี้นำมา พอพวกเขาบุกเข้าไป ก็ถูกจัดการสลบเหมือดทุกคน และก็ไม่เห็นจะมีเด็กวัยรุ่นอะไรอยู่ข้างในนะ”

“เป็นอย่างไรบ้าง เฉินเกอล่ะ พวกเธอคงมองผิดคนแล้วใช่ไหม คนที่โดนตีนั้นไม่ใช่หลิงลี้หรอกมั้ง”

เจียงหรานหรานเองก็ยากที่เชื่อจึงได้ถามขึ้น

“ถูกแล้ว หลิงลี้ใครกันล่ะที่ไม่เคยเห็นรูปเขา”

คนเหล่านั้นต่างก็ได้เดินไปพร้อมกับพูดไป

“อย่างนั้น เฉินเกอก็ปลอดภัยสิ”

สวี่ซินจึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

“แต่ว่า แล้วทำไมกลุ่มคนเหล่านี้ถึงต้องมาจัดการหลิงลี้ล่ะ อีกอย่างพวกเขาต่างก็มีเงินกันทั้งนั้น หรานหราน เธอคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่เฉินเกอเรียกมาไหม”

สวี่ซินพูดขึ้นอย่างไม่ทันได้คิดอะไร

ช่างเป็นการหักหน้าตัวเองจริง ๆ

“ได้สิ พวกเราต้องเข้าไปดูหน่อย เสี่ยวหลี่ นายพาคนอื่น ๆ ที่ดื่มจนเมาแล้วกลับไปก่อน”

หลินตงเองก็ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะมีอาการเมาอยู่ไหม เขาจึงบอกกับเสี่ยวหลี่ไป

เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้ ผู้ชายทั้งหมดต่างก็ได้ดื่มเหล้าขาวกันไปคนละขวด

พอมีอาการเมา บางคนทรมานจนแทบจะรู้สึกไม่ไหว

หลินตงยังดีที่คอแข็งหน่อย แต่เหตุการณ์สำคัญ ๆ อย่างนี้ เขาเองจะพลาดได้อย่างไร จึงได้ฮึดอีกสักตั้งเพื่อจะได้รู้ความจริง

จากนั้นก็พาเจียงหรานหรานและ สวี่ซิน ไปยังร้านอาหารฝรั่งร้านนั้น

“เฉินเกอ ฉันคิดว่า ฉันตาฝาดไปเสียอีก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนายจริง ๆ มาที่นี่ทำไมยังไม่สั่งอาหารอีก จะมานั่งเฉย ๆ หรอ นายอย่าบอกฉันนะว่า นายแอบออกมา แล้วไม่มีที่นั่งที่อื่นหรอ”

เจียงหรานหรานถามขึ้นอาการที่เหนื่อยหอบ เพราะวิ่งมา

ตอนแรกเธอก็เป็นกังวลอยู่นิด ๆ กังวลว่าเฉินเกอนั้นจะเป็นคนรวยเข้าจริง ๆ

แต่เมื่อมาเจอโต๊ะอาหารของเฉินเกอแล้ว เจียงหรานหรานเองก็รู้สึกโล่งอกไป

ที่ไหนได้เขาแค่เข้ามาหลบภัยต่างหาก

“หรานหรานเธออาจจะยังไม่รู้ ร้านอาหารฝรั่งร้านนี้แพงมาก เป็นร้านชั้นนำเลยนะ และร้านใหญ่สาขาแรกก็อยู่ที่จินหลิงด้วย คนธรรมดาคงไม่กล้าเข้ามาหรอก และที่นี่ คงจะเป็นที่ที่เฉินเกอเอาไว้หลบภัยแหละ ฮา ๆ”

หลินตงพูดด้วยคำพูดที่ดูเหมือนดูถูก

ส่วนเฉินเกอนั้น ยังคงรู้สึกงงอยู่

เมื่อครู่ในห้องเพลงที่ร้าน KTV บอดี้การ์ดของตัวเองกำลังจัดการกับหลิงลี้และพวก ๆ อยู่ เฉินเกอเองก็ไม่อยากจะดูเท่าไร เพราะคิดว่ามันไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

สั่งสอนพวกนั้นไปก็สมควรแล้ว

ดังนั้น ตัวเองเลยไม่อยากจะอยู่ข้างในนั้น

เพราะว่าการเสแสร้งนั้นก็ไม่ใช่นิสัยของเฉินเกออยู่แล้ว อีกอย่างตอนเที่ยงเขาก็ไม่ค่อยได้กินอะไรด้วย จึงรู้สึกหิว ๆ หน่อย เฉินเกอก็เลยออกมาหาอะไรกินที่ข้างนอก

แต่เมื่อพอสั่งอาหารเสร็จ และกำลังนั่งจะวางแผนในวันข้างหน้าอยู่

และคิดไม่ถึงว่า เจียงหรานหรานและพวกเขาจะตามมาเร็วขนาดนี้

เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่บอกให้พวกเขากลับไปหมดแล้วหรอ

แล้วตอนนี้ เฉินเกอเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเหมือนกัน

ในเวลานั้น ก็เห็นพนักงานบริการในห้องอาหารจำนวนหกคนต่างก็ยืนเข้าแถว และเดินมายังเฉินเกอด้วยท่าทีที่มีมารยาท และพร้อมที่จะเสิร์ฟอาหาร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน