บทที่291 เพื่อนมัธยมต้น
“ลี่เสี่ยวหลิง?”
หลังจากเห็นผู้หญิงคนนั้นเฉินเกอก็ยิ้มออกมาแล้วพูด
ลี่เสี่ยวหลิงก็นับเป็นเพื่อนอีกคนที่โตมาพร้อมกับกับเฉินเกอลี่เสี้ยว ว่าไปแล้ว ยังเป็นน้องสาวร่วมเชื้อชาติของลี่เสี้ยวด้วยนะ
ก็แค่ว่าสภาพแวดล้อมของครอบครัวลี่เสี่ยวหลิงค่อนข้างดี พวกเขามีร้านขายของในหมู่บ้าน ทำกิจการเกี่ยวกับการขายขนมเค้ก ของหวานอะไรประมาณนั้นปกติแล้วเธอจะไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน
น้อยมากที่จะกลับบ้าน
แถมในตอนนั้นเฉินเกอ ลี่เสี้ยว ทั้งสองคนเป็นแค่คนจนไม่มีอะไรเลย
แต่งตัวก็ไม่ดี
เพราะฉะนั้นลี่เสี่ยวหลิงเลยเล่นกับลี่เสี้ยวกับเฉินเกอไม่ค่อยบ่อยนะ
ต่อให้เป็นเพื่อนร่วมห้องกันสมัยเรียนอนุบาล แต่ก็ไม่ค่อยจะคุยกัน สรุปก็คือไม่ได้สนิทกับทั้งสองคนมากยัง ไม่สู้หวูเชี่ยนด้วยซ้ำ
ถ้าจะให้บอกว่าความสัมพันธ์กลับมาดีกัน นั่นก็คงจะเป็นตอนมัธยมต้นละมั้ง
เป็นความบังเอิญที่ไม่บังเอิญ หลังจากที่เรียนมัธยมต้นลี่เสี่ยวหลิงยังคงเรียนห้องเดียวกันกับลี่เสี้ยว เฉินเกอ
ตอนม.หนึ่งม.สองก็ยังไม่ค่อยจะคุยกับเฉินเกอลี่เสี้ยวเท่าไหร่
จนถึงม.สาม เกิดเรื่องขึ้นเรื่องหนึ่ง
ก็คือลี่เสี่ยวหลิงทะเลาะกับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ทะเลาะกันรุนแรงมาก
เสร็จแล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เรียกพวกนักเลงที่อยู่ปีเดียวกันมาหาเรื่องเดือดร้อนให้ลี่เสี่ยวหลิง
ตอนที่เลิกเรียนมาดักทางลี่เสี่ยวหลิงเอาไว้ ตั้งใจจะสั่งสอนเธอ
เสร็จแล้วลี่เสี้ยวกับเฉินเกอก็เห็นเข้าแล้วดึงลี่เสี่ยวหลิงเดินไป
เฉินเกอก็ไม่ได้อะไร
กลับเป็นลี่เสี้ยวที่มีเรื่องชกต่อยในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อน
คนกลุ่มนั้นก็เลยไม่กล้าลงมือ
นับว่าครั้งนั้นเป็นการช่วยลี่เสี่ยวหลิงแล้วกัน
ตั้งแต่นั้นลี่เสี่ยวหลิงก็ดีกับเฉินเกอและลี่เสี้ยวมากๆ จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกัน
แอบซื้อบุหรี่ให้ลี่เสี้ยวอยู่บ่อยๆ แล้วก็เอาสปันจ์เค้กมาให้เฉินเกอกิน
จากนั้นตอนมัธยมปลายเธอนั้นไปสอบที่โรงเรียนมัธยมปลายซานจงนับว่าเป็นโรงเรียนระดับล่างสุดของทั้งเขตแล้ว
บวกกับตอนมัธยมปลายก็ไม่มีโทรศัพท์ แถมยังไม่ค่อยจะติดต่อกัน ก็มีแค่ตอนปีใหม่ที่ทุกคนจะมารวมตัวพูดคุยกัน
“กลับมาตั้งแต่ตอนไหน ทำไมถึงไม่ส่งqqมาบอกฉันล่ะ!”
ลี่เสี่ยวหลิงถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
“กลับมาหลายวันแล้ว แต่ว่าก็เที่ยวไปเรื่อยๆรอบๆเขตที่แหละ ฉันเองก็กำลังจะขอเบอรืโทรของเธอจากลี่เสี้ยวอยู่พอดี!”
เฉินเกอยิ้ม
นี่เป็นเรื่องจริง วันเกิดของตัวเองไหมล่ะ ก็มีแค่คนพวกนี้แหละ
“หึ นับว่านายยังไม่ลืมฉัน อ๋อใช่แล้ว นายไม่เห็นในกลุ่มม.ต้นของเราเหรอ? อ๋อๆ ฉันลืมไป เหมือนกลุ่มตอนม.ต้นฉันยังไม่ได้ลากนายเข้าไป วันนี้นะเป็นวันเกิดเฉินเชาที่อยู่ห้องเรา เขาตั้งใจว่าพวกเพื่อนๆไม่ได้รวมตัวกันมาตั้งนานแล้ว อยากจะใช้โอกาสวันเกิดนี้ ขอให้ทุกคนมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่เธอ ยังมีครูที่ปรึกษาตอนมัธยมต้นของราอีก รวมถึงครูภาษาอังกฤษก็จะไป นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยไหมล่ะ?”
ลี่เสี่ยวหลิงบอก
“คุณครูหวังก็ไปเหรอ? ปีนี้เขาเกษียณแล้วนี่!”
ตอนแรกที่พูดถึงเฉินเชา เฉินเกอแทบจะลืมชื่อไปแล้ว
แต่ว่าครูที่ปรึกษาหวังจ่างกุ้ย เฉินเกอยังคงจำได้เหมือนวันแรก
เขาเป็นคุณครูที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา สอนวิชาภาษาจีน
ในเวลานั้นครอบครัวของเฉินเกอลำบาก ค่าหนังสือก็ไม่มีปัญญาจ่าย สองครั้งเป็นคุณครูหวังที่ช่วยจ่ายให้ตัวเอง
ยังมีอีกครั้งที่ฝนตกหนัก ตัวขาเองไม่มีร่ม คุณครูหวังก็ปั่นจักรยานไปส่งตัวเองกลับบ้าน
ภาพพวกนี้ ยังคงจำได้อย่างชัดเจน
สองปีก่อนหน้านั้นตอนมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่พ่อแม่ส่งเงินมาให้ เฉินเกอก็ใช้อย่างประหยัดแล้วเก็บเงินไว้ รอจนถึงปีใหม่ต้องกลับบ้าน ไม่สนใจว่าจะแพงแค่ไหน ก็ซื้อของไปเยี่ยมคุณครูหวัง
ก็แค่สองปีมานี้ แม้แต่ค่าเรียนหนังสือของเฉินเกอยังเป็นปัญหา ยากจนแร้นแค้น ไม่มีปัญญาไปแล้ว
“ได้ยินมาว่าปีที่แล้วคุณครูหวังป่วยหนัก? หายแล้วเหรอ?”
เฉินเกอถามขึ้น
“หายตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นครั้งนี้จะมาร่วมงานวันเกิดของเฉินเชาเหรอ!”
ลี่เสี่ยวหลิงพูด “ไม่ต้องถามแล้ว รอพอนายไปแล้วได้เจอก็รู้แล้ว! ตอนนั้นคุณครูหวังมองนายกับลี่เสี้ยวเอาไว้ในแง่ดีมากนะ ถ้านายไป เขาจะต้องดีใจแน่ๆ! แถมวันนี้นัดรวมตัวกันตอนแปดโมงด้วย คุณครูหวังจะต้องไปแต่เช้าแน่ๆ อยากคุยกับพวกเราเยอะ!”
มีนักเรียนชี้มาที่เฉินเกอกับลี่เสี่ยวหลิง
“เอ๊ะ? นั่นเป็นเฉินเกอใช่หรือเปล่า? โอ้โห วันนี้เฉินเกอก็มาด้วยเหรอเนี่ย?”
“ฮ่าๆๆๆ นั่นน่ะสิ ฉันก็นึกว่าเฉินเกอหายตัวไปแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่างานรวมรุ่นวันนี้จะได้เจอเขา!”
“เห้อ ฉันได้ยินคนพูดว่าในมหาวิทยาลัยชีวิตเฉินเกอไม่ค่อยเป็นไปตามที่หวังเท่าไหร่ แม้แต่ค่าเทอมยังไม่มีเงินจ่ายเลย! ใครมาบอกฉันแล้วนะ บอกว่ามีครั้งนึงไปกินข้าวกับเพื่อนที่จินหลิง ไปเจอเฉินเกอนั่งล้างจานอยู่ที่หลังครัวโน่นแหละ! ไม่กล้าแม้แต่จะทักเขาด้วยซ้ำ!”
“เหอะๆ ก็ไม่มีเงินนี่ ไม่ว่างานอะไรก็ต้องทำแล้ว!”
กลุ่มคนมองมาที่เฉินเกอ หัวเราะแล้วพูดคุยกัน
หนึ่งในนั้นยังมีผู้หญิงที่ดูสวยโดดเด่นมากกว่าคนอื่นกำลังพูดคุยอยู่กับพวกสาวๆอยู่ด้วย
พอเห็นว่ามีคนพูดถึงเฉินเกอ
ร่างบางก็เธอก็สั่นไปเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าของเธอแดงระเรื่อแล้วหันไปมองทางเฉินเกอ
“ฮิๆ หวังเสว่ แต่ก่อนเธอกับเฉินเกอเคยคบกันไม่ใช่เหรอ? ฉันจำได้ว่าพวกเธอเคยคบกัน!”
มีผู้หญิงเอามือปิดปากแล้วหัวเราะออกมา
“อย่าพูดมั่วๆนะ ฉันเคยคบกับใครตั้งแต่ไหน?” หน้าของหวังเสว่แดงขึ้นกว่าเดิมแล้ว
“แน่นอนว่าเคยคบ ฉันจำได้ว่าพวกเธอเขียนจดหมายหากันบ่อยๆ แถมเธอยังสนิทกับเฉินเกออีกด้วย!”
มีผู้หญิงพูดขึ้นอีก
“ไม่มี!” หวังเสว่พูดขึ้นเสียงเบา
“อย่าปฏิเสธเลยน่า เธอลืมแล้วเหรอ เรื่องที่ลี่เสี้ยวแทงคนตอนนั้น ไม่ใช่เพราะว่า......เหอะๆ ไม่พูดแล้วไม่พูดแล้ว!”
ผู้หญิงคนนั้นเหมือนพูดเรื่องไม่ดีออกมา เสร็จแล้วก็รู้ตัวได้โดยเร็วแล้วแลบลิ้นออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก
หวังเสว่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“จริงสิหวังเสว่ ตอนนี้เธอกับผู้ชายที่ชื่อเฉินเกอคนนั้นยังคบกันอยู่ไหม?”
ก็ยังมีผู้หญิงถามขึ้น
“ไม่ได้คบกันมาตั้งนานแล้ว......” หวังเสว่พูดขึ้นหน้าแดง
หลังจากนั้น ก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆหวังเสว่ก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปทางเฉินเกอที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบจะหกปีแล้ว.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...