ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 419

บทที่ 419 เขาจนขนาดนั้น จะมาล้อเล่นอะไรล่ะ

“เฉินเกอ นายดูดบุหรี่ชนิดนี้หรอ”

สีหน้าของทุกคนดูรู้สึกถึงความเสียดาย

โดยเฉพาะหยางเย่

ที่จริงแล้ว บุหรี่วันนี้ที่หยางเย่นั้นนำมาด้วย เป็นบุหรี่ที่เขาฝากเพื่อนซื้อมาจากอเมริกา ราคาแพงมาก และเขากำลังเตรียมจะยื่นให้ทุก ๆ คนที่ดูด เพื่อที่จะต้องการได้ยินคำกล่าวสรรเสริญต่าง ๆ

เพราะว่า ผู้ชายหากเมื่อออกจากบ้านแล้วนั้น สิ่งแรกที่สำคัญคือ การแต่งตัวและเสื้อผ้าที่ใส่ สิ่งที่สองคือ สวมนาฬิกาข้อมือชนิดไหน สิ่งที่สาม หากเป็นคนดูดบุหรี่ ก็จะให้ความสำคัญตรงที่ยี่ห้อของบุหรี่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะวัดระดับ สถานะทางสังคมทางจากสิ่งเหล่านี้

แต่คิดไม่ถึงว่า บุหรี่ที่เฉินเกอนำมาด้วยนั้น จะหักหน้าของหยางเย่ได้ขนาดนี้

“ปกติแล้วฉันไม่ดูดหรอก แต่พอออกมางานเลี้ยงต่าง ๆ ฉันก็จะพกมาด้วย”

เฉินเกอได้อธิบาย

และคิดไม่ถึงว่า ตัวเองแค่หยิบ ๆ บุหรี่โดยที่ไม่ได้เลือกมาด้วย จะทำให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ๆ มากขนาดนี้ เฉินเกอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไนเหมือนกัน

“ฮืม คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกมั้ง ถ้าหากเป็นอย่างที่นายพูด แล้วจากสถานะของเขาจะมีบุหรี่ชนิดนี้ได้อย่างไร”

เมิ่งช่านเองก็รู้สึกไม่เชื่อกับคำพูดของผู้ชายคนนั้นที่พูดไว้

“เป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นของปลอมอยู่แล้วล่ะ เฉินเกอโดนคนอื่นหลอกมา ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ จริง ๆ เลย เฉินเกอ นายว่าไง ออกมาแค่ข้างนอกพกบุหรี่ยี่ห้อหนางจิงลี่ฉุนราคาสิบหยวนมาด้วยก็พอแล้ว นายเอาบุหรี่แบบนี้มา ไม่ใช่มันจะเป็นการทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาง่าย ๆ หรอ”

ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วโยนบุหรี่ทิ้งไป และตอนที่เรียกเฉินเกอนั้น สรรพนามที่ใช้เรียกว่า พี่ ก็ไม่มี

ส่วนหยางเย่นั้น ก็ทำไปเพื่อต้องการที่จะเอาอกเอาใจฉินหยา

และก็ได้พูดขึ้นว่า “เฉินเกอ ไม่ใช่ว่าฉันจะว่านายหรอกนะ สภาพนายเป็นอย่างไร นายเองก็รู้ดี และพวกเราทุกคนต่างก็รู้ว่านายมีสถานะแบบไหน ไม่มีความจำเป็นหรอกที่นายจะเสแสร้งแบบนี้ ตอนนี้นายเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วใช่ไหม มีงานทำหรือยัง”

หยางเย่พูดขึ้นอย่างกับว่าตัวเองนั้นรู้จักสังคมมาดี

เขาทั้งพูดไปด้วย และก็มอง ๆ ฉินหยาที่อยู่ด้านข้าง

“ยังไม่มีนะ”

เฉินเกอส่ายหน้า

“เรียนจบแล้วไม่ทำงาน นายคิดอะไรของนายอยู่ คนเราต้องอยู่กับความจริงหน่อยนะ ไม่ต้องไปคิดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ทำวันนี้ให้ดี ตั้งใจทำงาน เฉินเกอ ถึงแม้ว่าตอนนี้นายจะจน แต่ว่าหากขยันให้มาก ๆ วันข้างหน้าอาจจะสบายขึ้นก็ได้ งานเลี้ยงต่าง ๆ ก็ควรไปร่วมให้น้อย ๆ หน่อย”

หยางเย่พูดด้วยอาการที่ดูจริงจัง

“ว้าว พี่เย่ยังไงก็เป็นพี่เย่ เฉินเกอนายได้ยินไหม นายดูสิ ที่หยางเย่พูดมานั้นล้วนแต่มีเหตุมีผล นายควรจะใส่ใจหน่อย”

เมิ่งช่านก็ได้ใช้นิ้วมือจิ้ม ๆ ไปที่หัวของเฉินเกออีกครั้ง

แม่ง ถ้าหากเป็นงานเลี้ยงทั่ว ๆ ไป ป่านนี้เฉินเกอคงตบปากเมิ่งช่านไปหลายครั้งแล้ว

“ฉันหมายความว่าอย่างไร นายเองก็คงจะเข้าใจนะ ไม่ต้องฝันเฟื่องให้มันมาก ตอนนี้ตระกูลหยางวุ่นวายกว่าที่นายจะเข้าใจ นายอยู่กับความจริงหน่อยล่ะดีแล้ว”

หยางเย่เข้าใจว่า ที่เฉินเกอมานั้นก็เพื่อจะมารับส่วนแบ่งมรดก

และการใช้คำพูดในเชิงอบรมอย่างนี้ พูดกับเฉินเกอ ก็เหมือนเป็นการดูถูกเขามาก และจะได้ทำให้ฉินหยานั้นได้รู้ว่าเขาเก่งและดีกว่าเฉินเกอแค่ไหน

ในเวลานี้ ประตูของห้องอาหารก็ได้ถูกเปิดออก

และคนที่เดินเข้ามานั้น เป็นผู้หญิงชาวต่างชาติ ผมลอนสีทอง

และกำลังถือไวน์แดงชั้นเลิศหนึ่งขวดไว้ในมือ

“คุณชายหยาง คุณพากันมาสนับสนุนร้านฉันเยอะมาก เหล้าขวดนี้ถือว่าดิฉันมอบให้แล้วกันค่ะ”

ผู้หญิงชาวต่างชาติคนนั้น ใช้ภาษาจีนพูดด้วยสำเนียงที่ไม่ค่อยชัดเท่าไร

“งั้นก็ต้องขอบคุณพี่ตู้ชาร์แล้วครับ”

หยางเย่ลุกขึ้นแล้วพูด

“โอ้วโห๋ คุณชายใหญ่ตระกูลหยางยังไงก็เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลหยางอยู่ดี ไม่ว่าจะไปที่ไหนต่างก็มีคนรู้จัก”

เมิ่งช่านพูดขึ้นด้วยอาการตื่นเต้น

จากนั้น ก็สั่นที่แขนของฉินหยา แล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวหยา เธอรู้ไหมว่า ที่นี่คือร้านเหล้าที่เลิศหรูที่สุดในเยี่ยนจิง พี่ตู้ชาร์คนนี้ เธอเป็นเจ้าของร้านเหล้าที่นี่เอง แขกต่างชาติหรือว่าคนมีหน้ามีตาในสังคมมาเที่ยวที่นี่ก็เยอะ และพี่ตู้ชาร์เองก็ยังมอบเหล้าให้แก่คุณชายหยาง ดูเอาว่าเขามีหน้ามีตาขนาดไหน”

เมื่อได้ยินเมิ่งช่านพูดแบบนี้แล้ว

บรรดาญาติผู้หญิงในตระกูลเดียวกันต่างก็พลอยได้รับเกียรติไปด้วย

จากนั้นเลยพูดขึ้นว่า “ฮืม คงจะเป็นเพราะว่าชื่อเสียงของตระกูลหยาง และบวกกับความสามารถของพี่เย่ด้วยแหละ”

ใคร ๆ ก็ดูออกว่า หยางเย่นั้นรู้สึกดีกับฉินหยา

ดังนั้น เหล่าบรรดาพี่น้องทั้งหลายจึงได้ช่วยกันยกยอหยางเย่ต่อหน้าฉินหยา

“เดี๋ยวฉันจะบอกความจริงกับทุกคนให้นะ สามีคนก่อนของฉัน เมื่อก่อนเขาเป็นหัวหน้าทีมวิเคราะห์และคิดค้นบุหรี่ยี่ห้อนี้ เฮอะ ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีในท้องตลาด แต่ว่า ฉันคงไม่สามารถแยกของจริงของปลอมออกหรอกมั้งคะ บุหรี่ซองนี้ เป็นของจริงแน่นอนค่ะ”

ตู้ชาร์พูดพร้อมกับยิ้ม

“จริง……จริงหรอ”

ทุกคนเหมือนกับว่าถูกใครหลอกเข้าแล้ว

คำพูดของตู้ชาร์ สามารถเชื่อถือได้ คงไม่โกหกแน่นอน

แต่ว่า ทำไมเฉินเกอถึงมีปัญญาซื้อบุหรี่ยี่ห้อนี้ได้ล่ะ

“เฉินเกอ บุหรี่นี้ ซื้อมาจากที่ไหนหรอ”

ผู้ชายคนนั้นได้ถามขึ้น

“บุหรี่นี้ เหมือนว่าไม่ได้ซื้อมานะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าซื้อมาจากไหนหรอก เพราะว่าหยิบเอามาจากบ้าน”

เฉินเกอได้พูดตอบกลับไป

“ฮืม ฐานะของบ้านนายแบบนั้นน่ะหรือ ยังจะซื้อบุหรี่นี่”

เมิ่งช่านพูดขึ้นด้วยวาจาที่ดูถูกเขา

“คุณชายเฉินคะ หากฉันจะขอสูบสักมวน คงไม่เป็นไรนะคะ”

ส่วนตู้ชาร์นั้น ก็ได้ใช้คำพูดที่อ่อนหวานฟังแล้วนุ่มหู พูดกับเฉินเกอ

“เชิญครับ”

เฉินเกอตอบกลับ

“คุณตู้ชาร์ คุณเรียกเขาว่า คุณชาย ทำไม บุหรี่นี้ไม่รู้ว่าเขาเอามาจากไหนด้วยซ้ำ ครอบครัวเขาจนจะตาย จนชนิดที่ว่า ไม่มีข้าวจะกินเลยนะ”

และเมื่อเห็นตู้ชาร์ดูมีทีท่าเกรงใจเฉินเกอ และก็ไม่ได้สนใจตัวเองแล้วนั้น

หยางเย่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชันขึ้น

“เขาจนหรอ คุณพูดล้อเล่นอะไรกันคะ คุณชายหยางเย่ คงไม่ต้องพูดถึงว่าราคาบุหรี่ยี่ห้อนี้หรอก ดูจากเสื้อผ้าที่คุณเฉินที่สวมใส่นั้น เป็นฝีมือของช่างเย็บผ้าระดับแนวหน้าที่ตัดเย็บเสื้อผ้าสไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิคแล้ว คุณชายใหญ่เองก็คงจะเทียบไม่ติดเหมือนกัน”

ในขณะที่ตู้ชาร์พูดอยู่นั้น ก็ได้เดินไปนั่งใกล้ ๆ กับเฉินเกอ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณว่า ฉันพูดถูกไหมคะ คุณเฉิน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน