บทที่ 422 ไปเยี่ยมคุณยาย
“ทะเลหนานหยางใหญ่มากขนาดนี้ เวลานานขนาดนี้แล้วด้วย มู่หานเธอ......?”
ฉินหยาฟังคำบรรยายของเฉินเกอเสร็จ
ในขณะที่ตกตะลึง ก็พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินเกอหมองลง เธอถึงไม่ได้พูดต่อ
อารมณ์ในตอนนี้ของฉินหยา ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
แม้ว่าเคยได้แข่งขันกับซูมู่หาน แต่ฉินหยาก็ต้องยอมรับว่าซูมู่หาน เป็นผู้หญิงที่ดีมากเป็นพิเศษ และรักเฉินเกอมากด้วย
เมื่อเธอเกิดเรื่องขึ้น ในใจฉินหยาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
แต่นอกเหนือจากอารมณ์เศร้าเหล่านี้แล้ว ฉินหยาก็ยังคงมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
เธอรู้ว่าตัวเองมีความคิดอื่นไม่ถูกต้อง แต่แล้วก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เฉินเกอก็ไม่ได้อยู่กับฉินหยาเป็นเวลานาน
ก็เป็นเพราะพูดถึงซูมู่หานทำอารมณ์ของเฉินเกอรู้สึกตกต่ำลงอีกครั้ง
จากนั้นก็กลับมาถึงที่ห้องแล้ว
พรุ่งนี้เที่ยง ก็จะไปที่ตระกลูหยางเยี่ยมคุณยายแล้ว
วันรุ่งขึ้น ห้องประชุมตระกลูหยางแห่งเยี่ยนจิง
ทุกคนในตระกลูหยางอยู่ที่นี่หมด
บริษัทตระกูลหยางกรุ้ปเป็นธุรกิจของครอบครัว ผู้บริหารของกลุ่มบริษัท ล้วนเกิดจากสมาชิกในครอบครัวทั้งนั้น
ดังนั้นการประชุมทางธุรกิจทางครอบครัวในลักษณะนี้ จึงมีขึ้นเป็นประจำ
“ตระกลูหยางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตกต่ำลงเรื่อยๆ ตระกลูหยางในเมื่อก่อน เป็นหัวหน้าของสี่ตระกูลใหญ่ ตอนนี้ล่ะ? พวกเธอลองดูสถิติรายได้ของตระกลูหยาง ให้ดี บอกว่าเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ จริงๆแล้ว ยังถือว่าเป็นสามตระกูลใหญ่อยู่หรือเปล่า?”
เสียงของหญิงชราอายุแปดสิบปีกึกก้องทรงพลัง
ดวงตาที่ชราภาพของเธอ กวาดมองไปที่รุ่นลูกหลานอย่างเย็นชา
เคาะไม้ค้ำในมืออย่างแรง
“ฉันอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่อาจจะจากไปในวันใดวันหนึ่ง ฝากตระกูลให้กับพวกเธอ ฉันจะมั่นใจได้อย่างไร ทุกคนลองพูดสิ!”
คุณนายท่านกล่าว
เธอก็คือผู้ปกครองใหญ่ของตระกลูหยาง และเป็นท่านประธานของบริษัทตระกูลหยางกรุ้ปในตอนนี้ คุณนายหยาง
คุณนายหยาง เคยเป็นหญิงแกร่งที่ชื่อเสียงโด่งดังในเยี่ยนจิง แต่เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ถอยห่างออกไปอยู่เบื้องหลัง ยกเว้นการตัดสินใจครั้งสำคัญของบริษัท ไม่ได้ลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองเหมือนก่อนแล้ว
ซึ่งก็เป็นเพราะเหตุนี้ เลยทำให้ผู้บริหารระดับสูงในรุ่นลูกหลานของตระกูล มีการแย่งชิงต่อสู้ภายในอย่างรุนแรง แบ่งพรรคแบ่งพวก สถานภาพของตระกลูหยาง กำลังตกต่ำอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ ลูกหลานคนรุ่นหลัง ต่างก็ก้มหน้าลงหมด
“ทั้งหมดพูดเลย!”
คุณนายท่านตบโต๊ะด้วยความโกรธ ใบหน้าโกรธจัดจนหน้าแดง
“แม่ แม่อย่าโกรธเลยนะ!” ลูกชายคนโตหยางยู่ถิง พูดขึ้น “เรื่องของตระกูล เราก็กำลังพยายามไล่ตาม ตระกูลหลง ตระกูลฉิน สองตระกูลใหญ่ แต่เมื่อพูดถึง ความสัมพันธ์ส่วนตัวโดยรวมแล้ว ตระกลูหยางของเราด้อยกว่าตระกูลหลงและตระกูลฉินทั้งสองจริงๆ”
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งสามแห่งของเรา ประมูลไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ทำให้หลงฉินสองตระกูลใหญ่ แซงหน้าอย่างรวดเร็ว!”
หยางยู่ถิงพูด
“ประมูลราคา ประมูลราคา! ในเมื่อพวกเธอต่างก็รู้จุดอ่อนของเรา ทำไมไม่ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปทำ ไปขยายเครือข่ายทางมนุษยสัมพันธ์! ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา หลงฉินสองตระกูล ผ่านการประจบสอพลอ บริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ป ได้รับผลประโยชน์มากมายจาก บริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ป ทำไมเราทำไม่ได้? นายเคยส่งคนไปทำหรือไม่?”
คุณนายท่านชี้ที่ไปหัวของหยางยู่ถิงโดยตรง แล้วพูดขึ้น
ทำให้ลูกชายและลูกสาวที่เหลือ ต่างปิดปากแอบหัวเราะ
“หัวเราะอะไรกัน! ดูสิพวกเธอแต่ละคน ผู้ใหญ่ไม่เป็นตัวอย่างเหมือนผู้ใหญ่ เด็กไม่เป็นตัวอย่างเหมือนเด็ก!”
เหลือบมองไปที่หยางเย่ ที่พันผ้าก๊อซบนศีรษะ
คุณนายหยางพูดอย่างโมโห “ดูท่าทางของพวกเธอ ทำให้ฉันโกรธจนสงสัยว่า พรุ่งนี้ฉันสามารถผ่านงานฉลองวันเกิดไปได้ไหม?”
และในขณะนี้
ประตูของห้องประชุมได้เปิดออก
คนรับใช้วัยกลางคนเดินเข้ามาด้วยความเคารพ
“ท่านประธาน อาหารกลางวันเตรียมพร้อมแล้ว!”
คุณนายท่านหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ลดเสียงต่ำลง แล้วพูดว่า “ไม่มีวิธีก็ไปคิดวิธีเถอะ บ่นไม่มีประโยชน์หรอก เอาล่ะ พวกเราไปกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตามื้อหนึ่งเถอะ!”
ตามกฎแล้ว หลังการประชุมในตระกูลเสร็จสิ้นทุกครั้ง ต้องรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวทุกครั้ง
ทุกคนพูดคุณเรื่อยเปื่อย ก็ได้เดินกันมาถึงห้องโถงแล้ว
ทันทีที่เข้ามา
ก็ได้เห็นว่า มีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่ง กำลังนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องโถง
คุณนายท่านหันไปมองเฉินเกอทันที
และตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรก ที่เฉินเกอได้เห็นยายของตัวเอง
อันที่จริงในใจก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
“คุณยาย!”
เฉินเกอเรียกขึ้น
เมื่อคุณนายท่านได้ยินคำว่าคุณยายนี้ มืออดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย ไม่ได้ส่งเสียงในทันที แค่พยักหน้าเบาๆ
“นายชื่อเฉินเกอใช่ไหม พี่สาวคนนั้นของคุณล่ะ?”
คุณนายท่านหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็นั่งลง
“ตอนนี้พี่สาวอยู่ต่างประเทศ ยังไม่ได้กลับมา!”
เฉินเกอพูด
“หืม แล้วนายมาทำอะไร? นานหลายปีขนาดนี้แล้ว ยังรู้ว่านายมียายอยู่เหรอ?”
คุณนายท่านขมวดคิ้ว
แม้ว่าคำพูดจะเย็นชา แต่ก็เหมือนอย่างที่แม่ของเฉินเกอบอกไว้ก่อนจะมา คุณนายท่านจะไม่เคร่งครัดต่อเฉินเกอมากนัก
เมื่อเห็นเฉินเกอก้มหน้าไม่พูดอะไร
คุณนายท่านก็ไม่อยากที่จะโผงผางเกินไป จนทำให้เด็กกลัว
ก็เลยได้พูดผ่อนคลายเล็กน้อย “แต่นายยังถือว่ากตัญญูหน่อย รู้ที่จะมาเยี่ยมฉันบ้าง!”
และเมื่อเห็นว่าคุณนายท่านไม่ได้พูดโจมตีเฉินเกอ อันที่จริงทั้งลุงใหญ่และป้าใหญ่ต่างก็ประหลาดใจไม่น้อย
โดยเฉพาะหยางเย่ เพราะเมื่อคืนเขารู้สึกอับอายขายหน้าที่ถูกทุบตี เมื่อพูดถึง มันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินเกอ
เวลานี้ ยังรู้สึกโกรธแค้นในใจ เลยแตะที่แขนของแม่ที่อยู่ใต้โต๊ะ
ป้าใหญ่พูดเยาะเย้ยในทันที
“เหอะๆ แม่ แม่คิดดีเกินไปแล้วมั้ง แม่คิดดูสิ ยี่สิบกว่าปี พวกเขาไม่เคยที่จะมาเยี่ยมเราเลย แล้วตอนนี้มาเพราะอะไรล่ะ ยังมาก่อนวันเกิดของแม่ด้วย พูดตามความจริงแล้ว ก็เป็นเพราะว่า เพื่อที่จะสามารถมาแบ่งสมบัติของตระกูลหยางเราได้ส่วนหนึ่ง มิฉะนั้น พวกเขาจะมองแม่อยู่ในสายตาหรือ!”
และคุณนายท่านหลังจากการยั่วยุของป้าใหญ่แบบนี้แล้ว ดูเหมือนกลิ่นอายความรักในครอบครัวที่เคยมีอยู่บ้าง ก็ได้หายไปในทันที
“เฉินเกอ นายต้องการอยากจะมาแบ่งทรัพย์สมบัติของตระกูลหยางหรือ?”
ในตอนนี้ คุณนายท่านพูดอย่างไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...