ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 440

บทที่440 หัวใจแห่งความมืด

หยางเย่ถูกคนดึงผมของเขาไว้ และตบไปที่ใบหน้าของเขาโดยตรง

และในขณะนี้ก็เห็นลูกน้องคนหนึ่งควักมีดออกมาโดยตรง

หยางเย่จึงรู้สึกปลอดดโปร่งขึ้นมาเล็กน้อย

“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ อย่าทำ!มีอะไรเราคุยกันดี ๆคุณชายหลง!”

หยางเย่กล่าวด้วยความกลัว

หลงช่าวเหลยยิ้มอย่างเย็นชา:“คุณชายหยาง ถ้าเป็นแบบนี้แต่แรก ก็ไม่ต้องทำอะไรขนาดนี้แล้ว ที่จริง ที่ฉันมาหาคุณวันนี้ นั่นก็เพื่อคุณทั้งนั้น เหอะๆ ใครก็คาดไม่ถึงว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของหยางเสี่ยวเป้ยจะเป็นพี่น้องของตระกูลเฉิน และตอนนี้ หยางเสี่ยวเป้ยก็กลายเป็นผู้นำหลักของเยี่ยนจิง ไม่เพียงแต่ตระกูลเราได้รับความเสียหาย แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็คงต้องเป็นคุณชายหยางอย่างคุณใช่หรือเปล่า?จุ๊จุ๊จุ๊ ยังไงก็ผู้สืบทอดคนหนึ่งของตระกูลหยาง แต่ตอนนี้ กลับไม่มีอะไรสักอย่างแล้ว!”

หยางเย่กำหมัดแน่นอย่างโหดเหี้ยม

“คุณชายหลง คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”

“ฉันได้ยินมาว่า คุณหญิงหยางได้เผยออกมาว่า ในอนาคตข้างหน้า หยางเสี่ยวเป้ยจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหยาง น่าสงสารคุณชายหยางนะ สุดท้ายคุณก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง และหยางเสี่ยวเป้ยก็คงไม่ปล่อยครอบครัวของคุณไว้หรอกมั้ง?”

หลงช่าวเหลยเห็นว่าสีหน้าของหยางเย่มืดมนมากยิ่งขึ้น จึงพูดต่อ:

“ตอนนี้ คุณชายหยางคุณไม่มีทางเลือก มีเพียงแต่ร่วมมือกับตระกูลหลงของเรา และพวกเราต้องต่อสู้ครั้งสุดท้าย!และเมื่อถึงเวลา ตระกูลหลงของเราไม่ถือว่าได้รับความเสียหายหนักมาก ส่วนคุณ คุณชายหยาง ก็ได้ครอบครองตระกูลหยาง และเป็นไปได้ว่าอาจจะได้เป็นเจ้าของของตระกูลคุณก่อนล่วงหน้าก็เป็นได้!”

“คุณ……คุณมีวิธีเหรอ?”

ส่วนหยางเย่หลังจากที่เขาครุ่นคิดไปสักพัก ในที่สุดเขาก็รู้สึกหวั่นไหว

“มา เรามาปรึกษาหารือกันหน่อย!”

หลงช่าวเหลยพยักหน้าและยิ้มอย่างเย็นชา

……

สามวันผ่านไป

ขบวนรถที่ลึกลับขบวนหนึ่ง ได้ขับออกไปจากตระกูลหยางแต่เช้าตรู่

“เสี่ยวเกอ ตระกูลของคุณโดดเด่น ไม่แปลกใจเลย ที่รู้จักตระกูลโม่แห่งเยี่ยนจิง เพียงแต่ว่าคุณย่ากับตระกูลโม่นั้น เมื่อก่อนเคยมีความสัมพันธ์กันจริง ๆ และตระกูลโม่ก็เคยรับปากกับย่าไว้ว่า พวกเขาสามารถช่วยคุณย่าทำอะไรก็ได้หนึ่งเรื่อง!”

“แต่เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ย่าเองก็ไม่มั่นใจว่าพวกเขายังให้ความสนใจกับตระกูลอย่างพวกเราหรือเปล่า!”

บนรถ คุณหญิงจับมือของเฉินเกอไว้และกล่าว

จากการใกล้ชิดกันในช่วงไม่กี่วันมานี้ คุณหญิงชื่นชอบหลานชายที่อบอุ่นคนนี้มาก

และหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ว่าน้องชายของเฉินจิ้นตง และแฟนสาวของเฉินเกอได้หายตัวไป

คุณหญิงก็ตอบตกลงที่จะช่วยเฉินเกอออกหน้า และขอความช่วยเหลือจากตระกูลโม่

ส่วนคุณหญิงก็รู้สึกเบื่อหน่าย จึงได้เล่าเรื่องสั้นๆเกี่ยวกับประสบการณ์บางอย่างที่ได้ทำความรู้จักกับตระกูลโม่ในเมื่อก่อนให้เฉินเกอฟัง

จะว่าไปก็บังเอิญจริง ๆ

เมื่อก่อนสมาชิกของตระกูลโม่คนหนึ่ง ถูกคนอื่นไล่ล่าลอบสังหาร ขณะที่เขาปฏิบัติภารกิจ

ตอนนั้นเขาวิ่งเข้ามาแอบซ่อนตัวไว้ในสวนหลังบ้านของตระกูลหยาง

สมัยนั้น คุณหญิงอายุประมาณ40กว่าปี

ยังไม่ถึงขั้นหัวโบราณเหมือนในภายหลัง

และเห็นเด็กคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสคนนี้ อายุของเขาประมาณ15-16ปีได้ จึงเกิดความสงสารเห็นอกเห็นใจ เลยได้ช่วยเหลือเขาไว้

เดิมที ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรแล้ว

จนกระทั่งวันหนึ่งต่อมา

เมื่อคุณหญิงได้รับอำนาจควบคุมตระกูลหยาง และพาลูกสาวกับลูกชายของตัวเองออกไปร่วมงานเลี้ยง

ระหว่างทางถูกลอบสังหารโดยศัตรูทางธุรกิจ

แต่ในช่วงที่วิกฤตนั้น มีคนออกหน้าและช่วยเหลือครอบครัวของคุณหญิงไว้

จึงได้รู้ว่า เป็นเด็กหนุ่มที่เมื่อก่อนได้รับความช่วยเหลือจากตัวเองคนนั้นกลับมาทดแทนบุญคุณ

อีกทั้งบอกกับคุณหญิงว่า ต่อไปนี้ถ้ามีเรื่องอะไร เขายินดีที่จะช่วยเหลือ และได้เอาที่อยู่ของเขาไว้ให้กับคุณหญิง

แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่หลังจากนั้น ก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย

เพียงชั่วพริบตา ก็ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ซึ่งคุณหญิงเองก็ไม่มั่นใจว่า เด็กคนเมื่อก่อนนั้นยังจำเรื่องนี้ได้อยู่อีกหรือเปล่า!

ความเป็นมาของเรื่องนี้ ก็เป็นเช่นนี้

รถยนต์ขับไปตลอดทาง

สุดท้ายก็มาถึงที่ระหว่างหุบเขาในเยี่ยนจิง

ภูเขาทั้งลูก ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกมลพิษ และยิ่งไปกว่านั้นคือมีป่าไม้ที่กว้างขวางมาก

“ภูเขาใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีร่องรอยของคนเลยสักคน เป็นไปได้อย่างไร?”

เฉินเกอลงจากรถเพื่อดูลาดเลา แต่กลับยิ่งทำให้เขาตะลึงยิ่งขึ้น

และพยุงคุณหญิงแล้วถามขึ้น

“ เด็กคนนี้ไม่โกหกฉันแน่นอน เขาเคยบอกไว้ ถ้ามีเรื่องอะไร ก็สามารถมาหาเขาได้ที่นี่ ที่อยู่ไม่ผิดแน่นอน!”

คุณหญิงกล่าวอย่างหนักแน่น

เฉินเกอเดินวนไปรอบ ๆ

จึงพบว่า มีบ้านไม้หลังหนึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง ระดับน้ำทะเลประมาณ100เมตร

ดูแล้ว เหมือนกับว่ามีคนอาศัยอยู่

และขับมาตามถนนท่ามกลางป่าไม้……

ในเวลาเดียวกัน

ตระกูลหยาง

“คุณหนูเสี่ยวเป้ย ทั้งหมดนี้เป็นเงินกู้ของตระกูลหยางเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ และฉันก็ได้รวบรวมข้อมูลและสรุปให้แล้ว!โปรดดู!”

“ขอบคุณค่ะลุงเชิง!”

หยางเสี่ยวเป้ยยิ้มและกล่าว

สามวันก่อนหน้านี้ตอนที่คุณหญิงออกไปพร้อมกับเฉินเกอ ได้สั่งการไว้โดยเฉพาะว่า หลังจากที่เธอไปแล้ว เรื่องทั้งหมดของตระกูลหยางไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ให้หยางเสี่ยวเป้ยเป็นคนรับผิดชอบและจัดการ และความหมายในนี้คงไม่ต้องอธิบายแล้ว

และในเวลานี้เอง

หยางเย่รีบวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

“ลุงเชิง ลุงเชิง ไม่ดีแล้วๆ เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว!”

หยางเย่กล่าว

“คุณชาย เกิดอะไรขึ้น?”

อะเชิงรีบถาม

“เป็นเรื่องของที่ดินของพ่อแม่ฉันก่อนหน้านี้ พ่อและแม่ของฉันเพราะไม่พอใจที่ถูกหลงช่าวเหลยหาเรื่อง ดังนั้นเมื่อตอนที่ส่งมอบให้พวกเขา พ่อและแม่ของฉันก็เกิดความบาดหมางกับพวกเขา แล้วหลงช่าวเหลยก็สั่งการให้ลูกน้องของเขาจับพ่อแม่ของฉันไว้!”

หยางเย่กล่าว

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?หลงช่าวเหลยมันกินหัวใจของหมีเข้าไปหรือยังไง ก่อนหน้าที่คุณหนูเฉินเสี่ยวจะไปก็ได้ตักเตือนเขาแล้วหลายรอบ ไม่คิดว่าคุณหนูเฉินเสี่ยวเพิ่งไป เขาก็เริ่มก่อเรื่องอีกแล้ว!”

อะเชิงกล่าวด้วยความโกรธ

“แต่ว่าคุณชาย ตอนนี้อำนาจของตระกูลหยางทั้งหมดมีคุณหนูเสี่ยวเป้ยเป็นคนตัดสินใจและจัดการ จะทำอย่างไร คุณถามคุณหนูเสี่ยวเป้ยดีกว่า?”

อะเชิงกล่าว

หนังตาของหยางเย่กระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างกล่าวขอโทษว่า:“น้อง แม้ว่าจะเป็นแม่ของพี่วู่วามเอง แต่ว่า จะส่งพ่อและแม่ของพี่ให้ตระกูลหลงแบบนี้ ก็ไม่ได้นะ และพวกเขาต่างก็เป็นลุงกับป้าของน้องด้วย เสี่ยวเป้ย น้องช่วยพี่หน่อยนะ ช่วยลุงของน้องหน่อย!”

หยางเสี่ยวเป้ยหายใจเข้าลึกๆ

และไม่ได้พูดอะไร

“น้อง ถ้าน้องยังไม่ไป พ่อแม่ของพี่ต้องเกิดเรื่องจริง ๆแน่ หลงช่าวเหลยคนนั้นอยากจะเอาอารมณ์ความโกรธของตัวเองมาลงที่ตัวพ่อแม่ของพี่!”

“ก็ได้ ลุงเชิง คุณเตรียมกำลังคนจำนวนหนึ่งเข้าไป และเดี๋ยวฉันจะไปดูก่อนว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร!”

หยางเสี่ยวเป้ยรู้สึกว่าในใจของเธอโหดร้ายไม่ลงจริง ๆ

จึงเดินออกไปพร้อมกับหยางเย่……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน