บทที่479 ที่ตั้งตัว
“นึกไม่ถึงเลยว่าคุณไม่เพียงจะมีทักษะฝีมียอดเยี่ยมแล้ว แม้แต่ทักษะทางด้านการแพทย์ก็สูงส่งมากเช่นกัน ว่านชานขอนับถือ!”
เฉินว่านชานเอ่ยขึ้นด้วยความเคารพ
เฉินเกอส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา
แต่เวลานี้เองเฉินว่านชานจึงหันไปมองยังลูกน้องเหล่านั้น
หลังจากนั้นเฉินว่านชานก็เอ่ยขึ้นมาอย่างนอบน้อม : “ไม่ทราบว่าคุณอยากจะทำอะไร สามารถใช้งานพวกเราได้หรือเปล่า? คุณเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพวกเราไว้ พวกเรายอมติดตามคุณไป เพื่อคอยรับใช้”
ใช่แล้ว ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณนี้ยากที่จะสามารถบรรยายออมากได้ แต่พวกเฉินว่านชานนั้นให้ความสำคัญกับความรู้สึกที่มีต่อกันมาก
อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้เฉินว่านชานและคนอื่นๆเองก็ไม่มีที่จะไปแล้วด้วย ถ้าหากสามารถติดตามชายหนุ่มผู้นี้ ผู้ที่มีความสามารถแข็งแกร่ง ไม่แน่ว่าอาจจะมีหนทางข้างหน้าที่ดีก็ได้
เห็นได้ชัดว่าคนอื่นๆก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
“ผม? หลังจากนี้กลัวว่าจะต้องอยู่ในเขตพื้นที่สามเหลี่ยมนี่แหล่ะ ผมก็ไม่มีที่ไปที่อื่นแล้ว!”
เฉินเกอยิ้มเจื่อนๆ
“คุณเองก็ไม่มีที่ไปแล้วหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พวกเราคุ้นเคยกับเขตสามเหลี่ยมเทียนเฉิงเป็นอย่างดี อยู่กับคุณ ไม่แน่ว่าอาจจะพอช่วยอะไรได้บ้าง คุณรับเลี้ยงพวกเราด้วยเถอะ?”
เฉินว่านชานกล่าว
เฉินเกอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
ตอนนี้สิ่งที่ตัวเองขาดมากที่สุด ก็คือกำลังคน คืออำนาจของตัวเอง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ถึงจะสามารถสร้างอำนาจของตัวเองได้ เพื่อช่วยตัวเองต่อสู้กับโม่ฉางคง
และพวกเฉินว่านชานพวกเขาเองก็มีพื้นฐานที่ดี และให้ความสำคัญกับเรื่องความรู้สึกที่มีต่อกัน ถ้าหากต่อไปใช้วิธีบางส่วนของศาสตราจารย์ฉินโป๋ฝึกฝนล่ะก็ สามารถจัดการกับคนแบบโม่ชิง โม่เทียนได้อย่างสบายมาก
“จะบอกว่ารับเลี้ยงก็คงจะดูเกินไป ผมเองก็มีบ้านอยู่ไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ถ้าหากเป็นไปได้ พวกเราเร่ร่อนไปด้วยกันก็คงจะดี!”
เฉินเกอยิ้มพลางเอ่ยออกมา
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลยครับ!”
พวกเฉินว่านชานต่างก็พากันดีใจ
เฉินเกอพยักหน้า
“ครืน ครืน!”
เวลานี้ เมฆดำปกคลุม เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ
แล้วหลังจากนั้น ฝนก็ตกหนักลงมา
พวกเฉินเกอพักอยู่ในถ้ำ
ทุกคนต่างพากันมองออกไปทางด้านนอกถ้ำด้วยความสบายใจที่พบเห็นได้ยากยิ่งนัก
“เป็นเช่นนี้ต่อไปก็คงจะไม่ดีแน่ ต้องการจะมีชีวิตอยู่รอดในเขตสามเหลี่ยมเทียนเฉิง พวกเราจะต้องมีทรัพย์สมบัติและอำนาจเป็นของตัวเอง!”
เฉินว่านชานเอ่ยขึ้น
เฉินเกอพยักหน้า
ตอนนี้ ทุกคนไม่มีที่ซุกหัวนอน ฝนตกหนัก ก็ยังต้องพากันหลบอยู่ในถ้ำ
เช่นนี้แล้วหากต้องการจะใช้ชีวิตให้รอดอยู่ที่เทียนเฉิงนั้น คงยาก!
“พวกคุณมีวิธีอะไรดีๆไหม?”
เฉินเกอหันกลับมาพร้อมกับเอ่ยถาม
“พื้นที่สามเหลี่ยมนี้เมืองที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่าเทียนเฉิง ที่นั่นเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองมาก เป็นที่ตั้งตัวได้ แต่จะทำอย่างไร เพราะที่นั่นมีกำลังคนและอำนาจ ปะปนกันเยอะเต็มไปหมด พวกเราเข้าไปแบบนี้ คงจะหยุดอยู่ตรงนั้นได้ยาก!”
“ส่วนด้านหน้าระยะทางอีกสิบกิโลนั้น มีเมืองเล็กๆที่อยู่นอกเมืองเทียนเฉิง ชื่อว่าหมู่บ้านถาโกว ที่นั่นค่อนข้างเจริญรุ่งเรือง พวกเราสามารถเริ่มกันได้จากที่นั่น! ท่าน ผมยังมีเงินเหลืออยู่ก้อนหนึ่ง สามารถทำธุรกิจเล็กๆได้! เพื่อสร้างตัวกันก่อน!”
เฉินว่านชานกล่าว
เฉินเกอโบกมือ : “ธุรกิจเล็กๆก็ไม่ต้องหรอก ผมสามารถเอาเงินให้คุณ แล้วคุณก็ไปจัดการธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ใช่แล้ว ที่หมู่บ้านถาโกวมีอะไรบ้าง?”
“ที่เด่นๆ ก็คือโรงงานยา เป็นโรงงานที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าต้องการจะได้มา จำเป็นจะต้องใช้เงินไม่น้อยเลย!”
เฉินว่านชานกล่าว
“โรงงานวัตถุดิบยา?”
เฉินเกอได้ยินแล้ว ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาในทันใด พอดีเลย ต่อไปตัวเองก็ไม่ต้องไปหาโสมพันปี โดยปกติก็ใช้วัตถุดิบของยาในการฝึกฝนตัวเองด้วย นี่ก็ถือเป็นความสะดวกประจวบเหมาะพอดี!
เขาคิดในใจ
“ผมสามารถยืมเงินได้ รอหลังจากที่ฝนหยุดแล้ว พวกเราย้ายไปกันเลย!”
เฉินเกอกล่าว
หลังจากนั้นหนึ่งวัน
ณ หมู่บ้านถาโกว ภายในโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง
“คุณครับ จัดการแล้วนะครับ!”
เฉินว่านชานผลักประตูเข้ามา
เพียงแค่พวกที่ทำลายข้าวของในร้าน เฉินเกอแค่ผ่านไปก็เห็นทั่วไปหมดแล้ว
ยุ่งวุ่นวายจริงๆ!
เฉินเกอส่ายหน้าเล็กน้อย
และไม่นาน ก็มาถึงยังคฤหาสน์ที่เฉินว่านชานซื้อเอาไว้
สถานที่ไม่เล็กเลย
เพียงแต่ เฉินเกอยังไม่ทันได้เข้าไปด้านใน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาจากทางด้านในคฤหาสน์
“ทำตัวดีๆกันหน่อย ร้องไห้อะไรกัน เดี๋ยวนายคนใหม่มาแล้ว ต้องยิ้มให้ฉันนะ ถ้าหากทำให้เจ้านายคนใหม่ไม่พอใจ ฉันจะเล่นงานพวกแก!”
เสียงวัยกลางคนดังขึ้น ขณะกำลังอบรมคนอื่นอยู่
เฉินว่านชานผลักประตูเข้ามา
“โอ้ ประธานเฉิน คุณมาแล้ว ท่านนี้......”
“คนนี้เป็นไปได้ว่าเป็นเจ้านายคนใหม่ของพวกเรา? ดูจิตใจดีขนาดนี้ จะต้องใช่แน่ๆ เหลียงซาน ขอเข้าพบเจ้านาย!”
ชื่อเหลียงซาน แต่ดูท่าทางเหมือนพวกขโมยวัยกลางคนเวลานี้เองก็ได้โค้งตัวให้กับเฉินเกอ
“เจ้า....เจ้านายสวัสดีค่ะ!”
ทางด้านหลังของเหลียงซานนั้น มีสาวใช้น้อยใหญ่กว่ายี่สิบคน หน้าตาสวยงาม แต่ตอนนี้กลับดูพูดจาออกมาอย่างเก้ๆกังๆ
“คุณครับ สาวใช้พวกนี้ล้วนแต่เป็นของเจ้าของกิจการยาคนก่อนหน้านี้ทั้งนั้น ส่วนนี่คือเหลียงซาน พ่อบ้านครับ ผมเห็นว่าพวกเธอดูไม่เลว ก็เลยเก็บเอาไว้ให้คุณ!”
เฉินว่านชานเอ่ย
“ใช่ครับเจ้านาย คุณวางใจได้ สาวใช้พวกนี้ผมล้วนแต่อบรมมาเป็นอย่างดีแล้ว คุณให้เธอทำอะไรพวกเธอก็จะไม่ขัดคำสั่งอย่างแน่นอน!”
เหลียงซานยิ้มพลางเอ่ยขึ้น
“พวกเธอ.....ล้วนแต่ถูกลักพาตัวมาทั้งนั้น?”
เฉินเกอค่อยๆเดินไปข้างๆผู้หญิงคนหนึ่ง
แล้วยกแขนเธอขึ้นมา เลิกแขนเสื้อออกดู ด้านบนมีลอยสีม่วงๆปรากฏเหมือนสักพักหนึ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอถูกเฆี่ยนมาแล้วไม่น้อย
“แหะๆ ตอนนั้นผมซื้อตัวมาเองครับ ถูกมาก สาวใช้หนึ่งคนยังไม่เท่ากับบุหรี่ซองนึงที่ผมสูบเลย ที่สำคัญก็คือสวยด้วยนะครับ แล้วก็เจ้านายวางใจได้ครับ ที่ผมเอาไว้ยี่สิบกว่าคนนี้ ล้วนแต่เพิ่งจะซื้อมาไม่นานทั้งนั้น ยังไม่มีตำหนิเลยด้วย ที่มีตำหนิแล้วผมไล่ไปหมดแล้ว! เจ้านายพอใจไหมครับ?”
เฉินเกอขมวดคิ้ว เห็นเหลียงซานคนนี้แล้ว เขารู้สึกรังเกียจ
หลังจากนั้นจึงเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “ฉันไม่ต้องการว่านชาน ถามที่อยู่ของพวกเธอให้ชัดเจน แล้วคิดหาวิธีส่งตัวพวกเธอกลับบ้านไป.......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...