บทที่ 569ท่านซินแสกุ่ย
หยางเว่ยตามหาเฉินเกอ แน่นอนว่าเป็นเพราะวันนี้ได้นัดกันไว้แล้วว่าจะไปวัดผานหลงกวนที่เทือกเขาผานหลง ไปหาท่านซินแสกุ่ย
จากที่ผ่านมา เฉินเกอไม่เคยเชื่อพวกอาจารย์ที่ทำนายอะไรพวกนี้
คิดว่าต่างก็เป็นการหลอกลวงทั้งนั้น
แต่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เรื่องราวหน้าหลังที่ผ่านมามากมายขนาดนี้ เริ่มจากภาพวาดติดฝาผนัง แล้วขอทานชรา หลังจากนั้นก็คือจ้าวยีฟาน หยางเว่ย รวมมถึงเรื่องที่ตระกูลหมิงไปหาท่านซินแสกุ่ยทำนาย ต่างก็อยู่ในการทำนายของท่านซินแสกุ่ย
ในเมื่อเขาสามารถทำนายได้ว่าหยางเว่ยจะพบกับตัวเองที่นี่
ไม่แน่ ก็อาจจะทำนายเรื่องที่ตัวเองจะหาอาสองกับมู่หานได้
ไม่ว่ายังไงแล้วในตอนนี้ เฉินเกอตื่นเต้นที่จะพบท่านซินแสกุ่ยนี้มากๆ
การมีอยู่ของเทือกเขาผานหลง สถานที่ที่ตั้งบนเทือกเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของไห่เฉิง
สถานที่นี้ถูกล้อมรอบไปด้วยสิ่งโบราณ รอบๆ ข้างต่างก็เป็นหน้าผา ยืนอยู่บนยอดเขา ไห่เฉิงที่กว้างใหญ่ค่อยๆ โผล่ออกมา จนกระทั่งถึงบนยอดฟ้าอันไกล ราวกับว่าได้สัมผัสกับหมอกเมฆ
ถ้าหากว่ายืนอยู่บนยอดเขาแล้วมองไห่เฉิง ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่เล็กๆ เหมือนกล่องไม้ขีดไฟในสายตา แต่ที่จริงแล้วเป็นสถานที่ที่มีคนนับล้านอาศัยอยู่
ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นสิ่งพวกนี้ ต่างก็ต้องรับรู้ถึงเล็กน้อยของคน
ใต้ภูเขาก็มีคนไม่น้อย ไม่ว่ายังไงก็มีคนมากมายมาขอพรที่เทือกเขาผานหลง
คนบางคนก็มาเยี่ยมเยือนท่านซินแสกุ่ย
แน่นอนแล้ว จะสามารถเยี่ยมได้ไหม ก็ต้องดูบุญวาสนาอีกที
มองไปจากที่ไกลๆ วัดผานหลงกวนไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าดูแล้วกลับแปลกตา
อิฐสีเลือดหมู ผนังสีเทา ดูแล้วไม่ได้มีสีสันมากมายแล้ว ไม่รู้ว่าผ่านมากี่สมัยแล้ว
ตอนนี้มีอารามนักพรตมากมาย ต่างก็ซ่อมแซมได้สวยงามหรูหรา
คนที่มาเทือกเขาผานหลงก็มีมากมาย แต่ว่าเทือกเขาผานหลงกลับยังคงเก็บรักษาความเย็นของลมไว้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งโดดเด่นอย่างหนึ่งแล้ว
ระหว่างทางจากใต้ภูเขาไปถึงยอดภูเขา ต่างก็เบียดไปด้วยคน
เฉินเกอกับหยางเว่ยมาถึงใต้ภูเขา
เฉินเกอมองไปรอบๆ ข้างๆ ก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เฉินเกอมองเห็น เงาๆ หนึ่งของผู้หญิงที่ดูมีบุคลิกดีมากดูสง่างาม ถูกสาวใช้ไม่กี่คนกางร่มให้อยู่รอบๆ เข้าไปนั่งยังรถคันหนึ่ง
ในไม่ช้ารถก็เคลื่อนออกไป
ลูกกระเดือกของเฉินเกอจยับ รู้สึกว่าเลือดของตัวเองกำลังไหลเวียน
เหมือนมาก!
ถ้าหากไม่ใช่เพราะในใจคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เฉินเกอเกือบจะเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือซูมู่หานแล้ว
เพราะว่ามองจากเงาข้างหลังเขาแล้ว ลำคอที่ขาวนั้น เหมือนซูมู่หานมาก
ภาพๆ นี้ ทำให้เฉินเกอเสียสติกับความสามารถการตัดสินใจไป
แต่ว่าพอคิดอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว ผู้หญิงที่เจอเมื่อกี้คล้ายซูมู่หานมาก ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ
มู่หานหายตัวไปตั้งนานแล้ว อีกอย่างถูกไท่หยางเหมิงจับตัวไป จะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
ต้องเป็นเพราะตัวเองคิดถึงเธอมากเกินไป ถึงขั้นเกิดภาพลวงตา
เฉินเกอกลืนน้ำลาย มองไปทางรถจากที่ไกล ราวกับว่ากำลังคิดว่าจะตามไปดูหรือเปล่า ถ้าหากไม่ใช่ ตัวเองอาจจะสบายใจ
“นี่ เฉินเกอ! ฉันเรียกนายไปหลายรอบเลย นายไม่ได้ยินหรอ?”
และในขณะนี้ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งดึงแขนของเฉินเกอ ดึงสติของเฉินเกอกลับมา
เฉินเกอหันไปดู ผู้หญิงคนนี้ คือหลีหย่าลี่
“มองอะไรเนี่ย เห็นสาวสวยแล้ว ตาตึงเลยนะ มองไม่ออกเลยจริงๆ เฉินเกอ นายจะเป็นคนแบบนี้!”
หลีหย่าลี่มีความแปลกประหลาดเล็กน้อย
เฉินเกอมีความรำคาญที่เขามาขัดตอนของตัวเอง
ขณะนั้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีไปว่า “เธอมีเรื่องไร?”
“นี่น้ำเสียงอะไรของนาย? ฉันมาทักทายนาย นายพูดแบบนี้กับฉัน?”
หลีหย่าลี่ไม่ได้พูดอ้อมค้อม
เฉินเกอสูดหายใจลึก ขณะนี้รถคันนั้น ไม่เห็นเงาตั้งนานแล้ว
คงจะเป็นเพราะตัวเองคิดมากเกินไปแล้ว
ส่วนหลีหย่าลี่นั้น ก็คงจะเพราะความเป็นมิตรที่ทำให้ตกใจ ตัวเองทำกับเธอแบบนี้ เฉินก็เองก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“เมื่อกี้ฉันกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่ ขอโทษนะ!”
เฉินเกอพูดเบาๆ
หลีหย่าลี่มองดูเงาข้างหลังของเฉินเกอแล้วพูดในใจ
เธอไม่อยากยอมแพ้ ฉะนั้นจึงตามขึ้นมา
“หยุด!”
แต่ว่าพอรอเฉินเกอและหยางเว่ยมาถึงยอดเขาแล้ว
ถึงได้สังเกตเห็นว่า ที่นี่คนเบียดเยอะยิ่งกว่า
ส่วนหน้าประตูของวัดผานหลงกวน มีนักพรตเด็กไม่กี่คนยืนอยู่
พวกเขาเหมือนจะปิดประตูไปแล้ว
นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็มาถึงที่นี่ ต่างก็ถูกพวกเขาห้ามไว้ไม่ให้เข้าไป
“ทำอะไรเนี่ย? พวกเรารอนานมาก กลับไม่ให้เข้าไป!”
“นั่นน่ะสิ ไม่ช้าก็เร็วธูปก็ต้องดับอยู่ดี!”
มีนักท่องเที่ยวบางคนพูดบ่นอยู่ข้างๆ
“วันนี้ อาจารย์จะต้อนรับเพื่อนที่มาจากที่ไกลคนหนึ่ง เพื่อนที่เหลือ ขอเชิญลงจากภูเขาด้วยครับ แล้วค่อยมาวันหลังนะครับ!”
นักพรตเด็กพูดขึ้น
“งั้นให้เงินเธอคงจะได้ใช่ไหม? ฉันอยากเข้าไปดูดวงเรื่องความรัก!”
ไม่รู้ว่า หลีหย่าลี่มาถึงข้างกายของเฉินเกอตั้งแต่เมื่อไหร่
พูดกับนักพรตเด็กไปด้วย ยังใช้แขนถูแขนจองเฉินเกอไปด้วย
เฉินเกอขยับปาก ทำท่ารังเกียจแล้วหลบไปยังข้างๆ
“นักพรตเพื่อนท่านนี้ วันนี้ฉันมีธุระจริงๆ เธอพูดเงื่อนไขมาละกัน!”
เฉินเกอคิดในใจ คนที่นำนายคนหนึ่ง กลับได้รับรับความนิยมเชิดชูขนาดนี้ ก็รู้สึกตลกในใจ
“หากไม่มีเงื่อนไข เชิญนักพรตเพื่อนลงไปด้วยครับ!”
นักพรตเด็กส่ายหัว
ขณะนี้ ประตูของอารามนักพรต ถูกเปิดออกกะทันหัน.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...