ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 580

บทที่580 ลัทธิอูกู่

เมื่อพูดจบใบหน้าของโม่ฉางคงก็โทรมไปด้วยเหงื่อ

และหยุนหลิน ถึงกับต้องถอนหายใจด้วยความตกตะลึง

โม่เฉิงคงเป็นแขกผู้ทรงเกียรติที่ถูกลัทธิอูกู่ ส่งมาให้ ตระกูลหยุน ของพวกเขา ในช่วงเวลาปกติมักจะมีการพูดคุย และการพูดคุยนั้นก็คือการบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องราวของคุณชายเฉินที่เข่นฆ่าตระกูลใหญ่ ๆ ไปหลายตระกูลหยุนหลิน เองก็เกิดประหวั่นพรั่นพรึง

เพราะจากที่โม่เฉิงคงเคยบรรยายไว้

เขาคือคุณชายเฉินคนนั้น ถึงแม้ภายนอกจะดูหงิม ๆ แต่แท้จริงแล้วจิตใจคับแคบ มีแค้นต้องชำระ

ยิ่งกว่านั้นเพียงแค่คุณยั่วโมโหเขาไม่ว่าคุณจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว เขาก็จะตามคุณไปจนถึงที่สุด

พูดให้ชัดก็คือเมื่อคุณไปยั่วโทสะเขาแล้วชีวิตนี้จะไม่เหลือคำตอบใดและอย่าได้หวังว่าเรื่องมันจะจบลงไปตลอดชีวิตของคุณ

หยุนหลิน ในตอนนั้นได้แต่เตือนตัวเองอยู่คนเดียวในใจว่าอย่าได้เข้าไปหาเรื่องคนแบบนี้

แต่กลับคิดไม่ถึง กลัวอะไรก็ต้องเจออย่างนั้น

ในตอนนี้เขานิ่งอึ้ง

และฟางเจี่่ยนนัน ก็มองไปที่เฉินเกอด้วยสายตาที่รู้สึกไม่น่าเชื่อ

“คุณชายเฉิน ผู้น้อยไม่รู้จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจ ผมเคยได้ยินชื่อเสียงกิตติศัพท์ของคุณชายเฉินมาแล้ว!”

หยุนหลิน ก้มโค้งจนสุดตัวและหน้าซีดเผือด

กลุ่มเพื่อนของหยุนหล้าง ต่างกลืนน้ำลายอึกใหญ่และถอยกรูด

กลุ่มตรงนั้นต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์และแสดงอาการหวาดกลัว

“คนคนนี้เขาเป็นใครกันแน่เนี่ย ทำคุณท่านตระกูลหยุน ถึงต้องกลัวเขาด้วย?”

“นั่นสิ แม้แต่ชายแก่ที่ดูไม่ธรรมดาคนนี้ยังต้องคุกเข่าเลย เขาเป็นใคร?”

ทุกคนพากันวิจารณ์

“เพื่อน ๆ ตอนนี้พวกคุณไปกับผมได้แล้วสินะ?”

เฉินเกอกล่าวขึ้นอย่างเฉยชา

“ดะ...ได้ อันที่จริงคุณชายเฉิน ต้องการจะบีบบังคับคุณฟางเจี่่ยนนันมันไม่ใช่ความคิดของพวกเรา แต่มันเป็นเพราะเซ่งจู้น้อย แห่งลัทธิอูกู่ เกิดถูกใจคุณฟางเจี่่ยนนัน แต่คุณฟางเจี่ยนนันไม่ตอบตกลง ดังนั้นเซ่งจู้น้อย จึงได้สั่งกระผมให้กักตัวครอบครัวของเธอเพื่อบีบบังคับเธอครับ!”

“พวกเราตระกูลหยุน ถึงแม้จะเป็นตระกูลใหญ่ในเกาะโม่เต่า แต่ถ้าจะให้พูดจริง ๆ เราก็เป็นหุ่นเชิดของลัทธิ เรื่องมากมายพวกเราก็ต้องทำตาม!”

หยุนหลินรีบแก้ตัว

“พูดแบบนี้ จะบอกว่าคุณเป็นคนดี เป็นผู้ถูกกระทำงั้นเหรอ?”

เฉินเกอมองไปที่เขาอย่างเย็นชา

เมื่อคำพูดนี้ออกไป มันทำให้ หยุนหลิน เกิดสะดุดกึกในใจจนเหงื่อไหลพลั่ก

กลัวจนไม่กล้าพูดอะไร

หยุนหลิน คิดไม่ถึง เฉินเกอที่อายุยังน้อยแต่กลับเป็นพวกหัวเก่า ก็ใช่น่ะสิ ตัวเขาเองจะเรียกว่าเป็นคนดีได้อย่างไรกันล่ะ?

“ลัทธิ ที่มีคนติดตามมากมาย เกิดทำเรื่องสกปรกแบบนี้ ดูแล้ว ชื่อเสียงไม่สมคำล่ำลือเลยนะ!”

เฉินเกอพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่โม่เฉิงคงที่เงียบเป็นจักจั่นในฤดูหนาวแล้วถาม:

“คุณหันมาพึ่งลัทธิอูกู่ มันคือศาสนาอะไร แล้วไหนจะเซ่งจู้น้อย อะไรนั่น มันเป็นมายังไง?”

โม่เฉิงคงไหนเลยจะกล้าปิดบัง จึงรีบอธิบาย:

“ศาสนานี้มีประวัติความเป็นมาเกือบแปดร้อยปี ที่เกาะโม่เต่า นี้ มีความเลื่อมใสศรัทธาที่เหนียวแน่น แต่ว่าเส้นสายภายในของพวกเขานั้นมีความสลับซับซ้อน บุคคลสำคัญที่เป็นหัวใจขององค์กร ผะ...ผมก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพียงแต่ว่าเมื่อหลายปีก่อน เคยรู้จักกับท่านผู้อาวุโสฝ่ายนอกของลัทธิ หากวันนี้ขอให้เขาช่วยพาเข้าไปและที่อยู่ของเจ้าหน้าที่ภายในซึ่งมันลึกลับมา แน่นอนว่านอกจากเซ่งจู้น้อย แล้ว ถ้าจะเทียบกัน เขาค่อนข้างได้รับความสนใจจากผู้คนมากเลย!”

โม่เฉิงคงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีก:

“เซ่งจู้น้อย ท่านนี้ ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนเลื่อมใสศรัทธามาก แต่ว่ากลับเป็นคนต่ำทรามอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งปล้นฆ่าข่มขืน ไม่มีอะไรที่ไม่ทำ!”

โม่ฉางคงพูดอย่างไม่กั๊ก

เพียงแต่ระหว่างนั้น หยุนหลิน ที่กำลังก้มทำความเคารพ อดไม่ได้จะชำเลืองมองดูโม่เฉิงคงด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิม

และภาพนี้ ก็ไม่อาจจะหนีพ้นสายตาของเฉินเกอไปได้

เขาชำเลืองตามองหยุนหลิน อย่างเย็นชา ดูแล้ว ไอ้สารเลวนี่จะเป็นจอมวางแผนอยู่ไม่น้อย!

กลับมาที่โม่เฉิงคง เพราะกลัวกับความสามารถของตัวเขา จึงได้เล่าให้เขาฟังอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

“เขาจะปรากฏตัวตอนไหน?”

เฉินเกอซักเพิ่ม

“คืนนี้ ที่งานเทศกาลต้อนรับเทพศักดิ์สิทธิ์เขาจะต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว ลัทธิ ของพวกเขามีประเพณีที่แปลกประหลาด ก็คือก่อนงานเทศกาลต้อนรับเทพศักดิ์สิทธิ์สามเดือนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ และในงานเทศกาลต้อนรับเทพศักดิ์สิทธิ์คืนนี้ เขาจะต้องหา...ต้องหา!”

“ผมทำลายกำลังภายในทั้งหมด แบบนี้ก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน คุณชายเฉิน พอใจหรือไม่?”

โม่เฉิงคงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและนอนอยู่กับพื้น

เฉินเกอมองเขาด้วยแววตาเรียบเฉย จากนั้นจึงพูดขึ้น: “กล้ามเนื้ออาจจะถูกทำลายได้ แต่จิตใจยังคงไม่ถูกทำลาย ตอนนั้นคุณบีบบังคับผมจนหมดหนทาง หลายครั้งที่ผมจะเจออันตรายจนเกือบถึงแก่ความตาย คนในตระกูลเฉินต้องตายด้วยน้ำมือคุณหลายคน ถ้าดูจากการที่คุณกำลังหมดเรี่ยวแรงไปแล้ว ผมจะให้คุณตายอย่างสง่างาม ผมให้เวลาคุณอีกสามวัน รอรับผลกรรมของคุณเถอะ!”

พูดจบเฉินเกอก็หันหลังแล้วเดินจากไป

เหลือไว้เพียง ที่เงียบเหมือนจักจั่นในฤดูหนาวและโม่เฉิงคงที่นอนอยู่บนพื้นและหลับตาลงพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวดและรู้ซึ้ง

โม่เฉิงคงหลงคิดว่าตัวเองจะยังพอสามารถต่อลมหายใจไปได้อีกหลายวันเพื่อจะได้พบหน้าลูกชายคนโตที่อยู่แดนไกลในเขตทหาร

น่าเสียดาย ที่เฉินเกอวันนี้ไม่เหมือนเฉินเกอเมื่อปีครึ่งที่ผ่านมาอีกแล้ว เฉินเกอที่ลังเล ไม่ตัดสินใจไม่เด็ดขาดคนนั้น!

“เฉินเกอ นะ...นายเจออะไรมาบ้างในหนึ่งปีที่ผ่านมา!”

กลับไปที่ห้องของเฉินเกอ ความรู้สึกของฟางเจี่่ยนนันที่มีต่อเฉินเกอนั้นทั้งตื่นเต้นและอยากรู้

“ยิ่งกว่านั้นเฉินเกอ ฉันได้ยินโม่เฉิงคงพูดว่า ตอนนั้นคนที่จัดการฆ่าตระกูลซือถู คือนายงั้นเหรอ?”

ฟางเจี่่ยนนันไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าเด็กหนุ่มที่ดูว่าง่ายและอ่อนแอคนนั้น ตอนนี้เขาเปลี่ยนแปลงไปราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

“ต่อไปผมค่อย ๆ เล่าเรื่องนี้ให้คุณฟังแล้วกัน!”

พูดแล้ว เฉินเกอก็ถอดเสื้อนอกออก

“อ๊ะ? เฉินเกอ...นะ...นายจะทำอะไรน่ะ?”

และเมื่อเธอเห็นทั้งร่างกายของเฉินเกอซ่อนกล้ามเนื้อพร้อมระเบิดและน่ากลัว ฟางเจี่่ยนนันก็ใจเต้นแรงรัว อีกทั้งยังเขินอายจนต้องใช้มือปิดตาไว้

“เปลี่ยนเสื้อน่ะสิ จะทำอะไรได้อีก คืนนี้ไอ้เซ่งจู้น้อย นั่นคงจะทำมิดีมิร้ายคุณแน่ ผมจะรอดูว่ามันเป็นมายังไงกันแน่! คุณคิดว่าผมจะทำอะไรได้ล่ะ!”

เฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มแหย ๆ

ระหว่างที่พูดเขาก็ได้เปลี่ยนเสื้อเป็นชุดลำลอง

“แล้วฉันจะไปคิดว่าคุณจะทำอะไรได้ล่ะ!”

ฟางเจี่่ยนนันมุ่ยปากเล็กน้อย

ใช่สิ เฉินเกอรักคนอื่น แล้วจะทำอะไรตัวเธอได้ล่ะ? เหอ ๆ ตัวเองน่ะคิดไปถึงไหน น่าขายหน้าจริง ๆ

ในใจของฟางเจี่่ยนนันก็เกิดหม่นหมองขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน