บทที่ 637 ไม่ต้องการคำอธิบาย
“มีแขกมาส่งของขวัญนัก! ให้คุณท่านย่าจางแห่งตระกูลซู!”
โต๊ะหน้าประตู มีคนรับแขกยืนขึ้นและตะโกน
"หืม? "
และฉากที่เห็น ก็อดไม่ด้ที่จะทำให้คนทั้งหมดเงียบลง
พวกเขาหันไปมองที่ประตู
แม้แต่ เว่ยกุ้ยฟางเองเมื่อได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจและหันไปมองด้วยเช่นกัน
เฉินเยี่ยนลี่ และคนอื่นๆ กำลังมองหน้ากัน สบตากัน ดูออกถึงความอยากรู้อยากเห็น
เกิดอะไรขึ้น? มีแขกส่งของขวัญมาให้ อีกทั้งยังมอบให้แก่คุณนายท่านตระกูลซู
การส่งของขวัญนัก นี่คือวิธีส่งของขวัญขั้นสูงสุด
อีกทั้งยังเป็นของขวัญที่หายากอีกด้วย!
ไม่เพียงแต่ของขวัญมีมูลค่ามากเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือ คนที่สามารถส่งของขวัญนักได้ ทั้งฐานะและตำแหน่ง ยังต้องไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง!
เนื่องจากสมัยโบราณล้วนมีกฎว่า การให้ของขวัญธรรมดาทั่วไป จะทำแค่บันทึกบัญชีแขกเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ส่งของขวัญชิ้นใหญ่มา แผนกต้อนรับจะยืนขึ้นเพื่อขอบคุณแทนเจ้าภาพ
ส่วนของขวัญนักไม่เพียงแค่ต้องลุกขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องตะโกนร้องบอกด้วย
แต่ว่า รูปแบบการส่งของขวัญคล้ายแบบนี้ ก็มีเช่นกัน
แผนกต้อนรับจะต้องสร้างความพึงพอใจอย่างครบทุกกระเบียด และปฏิบัติตามกฎ ดังนั้นจึงต้องอ่านออกมา
คนตระกูลเสี้ยวก็มองฉากตรงหน้าอย่างประหลาดเฉินเยี่ยนลี่ ที่เพิ่งถูกตบหน้าไป ยังระงับลงด้วยเช่นกัน
จากนั้นเธอก็ปิดหน้าและหัวเราะเยาะ "ช่างไร้ยางอายจริงๆ ส่งของขวัญมาในงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเสี้ยวของเรา ฉันเดาว่า นี่ก็คงเป็นแผนการของพวกคุณล่ะสิ?”
เฉินเยี่ยนลี่ เอ่ยอย่างดุร้าย
"จางซินหัว ก่อนหน้านี้ฉันยังเห็นเธอเป็นคู่ต่อสู้ แต่ตอนนี้ ความเจ้าเล่ห์ของเธอทำให้ฉันรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ใช่ชีวิตมาก็นานขนาดนี้แล้ว ลี่ลี่พูดถูก เธอมันคนแก่ไร้ยางอาย! ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็กล้าทำ! ”
เว่ยกุ้ยฟางเองก็ด่าเสียงดัง
แขกทุกคนรอบด้านมองไปที่ตระกูลซูด้วยความรังเกียจมากขึ้น
"ฮ่าๆ ดี ฉันล่ะอยากจะเห็นนัก ว่าผีคนจนคนนี้จะสามารถส่งของขวัญอะไรมาห้พวกคุณได้?”
เฉินเยี่ยนลี่ หัวเราะเยาะ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเองก็หันกลับไปทีละคน
คนในงานเองก็ถึงกับกลั้นหายใจ ทั้งกังวลและอยากรู้อยากเห็นในการรอโต๊ะบัญชีแถลงออกมา
"ชุดเครื่องประดับจินยวี้หม่านถังระดับสูงสุดหนึ่งชุด! "
"อะไรนะ? " เมื่อทุกคนได้ยิน ก็ถึงกับตะลึงไป จินยวี้หม่านถังอีกทั้งยังเป็นระดับสูงสุด อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีมูลค่าไม่ต่ำ 10 ล้านหยวน
"ชุดจีนสีใสสวยงามหนึ่งชุด! "
ทุกคนอ้าปากกว้างด้วยความตื่นตะลึง
“ไม้จันทน์แท้กับไม้กฤษณาหลวง!”
"บ้าไปแล้ว!” ฝูงชนลุกขึ้นอีกครั้ง
พอพวกเขาได้ฟัง แต่ละอย่างล้วนทำให้ขนลุกชันขึ้นมา
“……”
"คฤหาสน์สุดหรูมูลค่า 300 ล้านหยวนหนึ่งหลัง!”
"อะไรนะ!!!”
สิ่งสุดท้าย ทำให้ในงานระเบิดขึ้นมา คนในงานถึงกับแทบจะผมตั้ง
ของขวัญแต่ละชิ้น ล้วนมีมูลค่ามากกว่าสิบล้านหยวนขึ้นไป สิ่งที่โต๊ะบัญชีเอ่ยออกมาแต่ละอันนั้นแทบจะเรียกว่ายอดเยี่ยมที่สุดอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คฤหาสน์หรูมูลค่ากว่า 300 ล้านหยวน นั่นทำให้บรรยากาศในงานพุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด
ในเวลานั้นเอง ภายในใจของทุกคนล้วนมีคำถามอยู่สองประการ
เป็นใครให้มา?
ให้ตายเถอะ ของขวัญชิ้นพวกนี้เป็นของจริงหรือไม่? อย่าว่าแต่ตระกูลซูเลย ทุกคนในงาน ล้วนไม่มีใครมีความกล้าพอที่ที่จะนำของขวัญชิ้นใหญ่เหล่านี้ออกมาแน่
แม้ว่าตระกูลซูจะส่งมาเอง แต่ของจำนวน 18 ชิ้น บวกกับคฤหาสน์ อย่างน้อยๆ ก็หลายพันล้าน
แย่แล้ว ตระกูลซูมีเงินเท่าไหร่กันแน่?
ต่อให้จะส่งมาเพราะเห็นแก่หน้าตนเอง ก็คงไม่ต้องลงเงินมากมายขนาดนี้ก็ได้มั้ง?
“จางซินหัว เธอบ้าไปแล้วหรือ? จะโอ้อวดก็ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้!”
เว่ยกุ้ยฟางถูกของขวัญชิ้นใหญ่เมื่อครู่นี้ทำเอาตกใจไป จนเพิ่งจะได้สติกลับมา
เธอมองไปที่จางซินหัวแล้วหัวเราะเสียงดัง
แขกทุกคนที่อยู่รอบๆ เองก็หัวเราะเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า รอยยิ้มของพวกเขาก็ลดลง เนื่องจากมองเห็นว่าบนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์
กำลังมีเฮลิคอปเตอร์ขับตามมา
เฮลิคอปเตอร์แบ่งออกเป็นหกแถว และแต่ละแถวมีสามลำ
อีกทั้งราคาของเฮลิคอปเตอร์แต่ละลำ ก็มีราคาสูงลิบลิ่ว
ทุกคนตกตะลึงจนบื้อไป
จนกระทั่งเฮลิคอปเตอร์ลงจอดอย่างช้าๆ .
ตอนนั้นเองจางซินหัวก็ถึงกับน้ำตาไหลออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่ว่าเป็นความปรารถนาของเขากับมู่หาน จางซินหัวรู้ดี ในใจของเฉินเกอ ยังคงเป็น ของมู่หานอยู่เสมอ
มู่หานไม่ได้เลือกคนผิด
เธอพบรักแท้แล้ว นานมากขนาดนี้ เขาก็ยังจำเธอได้
จางซินหัวเองก็รู้ดี ถึงแม้ว่าเธอจะโกรธทุกครั้งที่ฉลองวันเกิด
แต่การตามหามู่หานนั้น มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
ตอนนี้ด้วยคำพูดของเฉินเกอ จางซินหัวสามารถจากไปอย่างสงบได้แล้วในอนาคต
แม้ว่าชีวิตของหลานสาวจะลำบาก แต่อย่างน้อยก็มีคนๆ หนึ่ง ที่รักเธอมาตลอด
จริงๆ แม้ว่าจะตายก็ตายอย่างตาหลับแล้ว การมีความรู้สึกเช่นนี้ได้ ย่อมไม่ใช่เพราะของขวัญล้ำค่าที่พวกนี้!
เธอจางซินหัวไม่ใช่คนแบบนั้น
เว่ยกุ้ยฟางกำลังยืนอยู่ที่เดิมอย่างโง่งม
เธอรู้สึกว่าแก้มของตนปวดร้อนขึ้นมา เธอยั่วยุคุณชายเฉินจนเขาโกรธแทบตายแล้ว
มาถึงตอนนี้ ใครยังมาสงสัยตัวตนที่แท้จริงของคุณชายเฉินอีก
"คุณชายเฉิน พวกเราผิดไปแล้ว เป็นพวกเราที่มีตาหามีแววไม่ โปรดยกโทษให้พวกเรา! "
เว่ยกุ้ยฟางอ้อนวอนอย่างหนัก
ทำผิดต่อคุณชายเฉิน ถือเป็นการไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริงๆ
"เสี้ยวจูน พวกเธอเองก็คุกเข่าลง! "
เว่ยกุ้ยฟางตะโกน
เซ่อซ่า!
เสี้ยวจูนคุกเข่าลงทันที
นอกจากนี้ เธอยังดึงกระโปรงของ เฉินเยี่ยนลี่ ให้เธอคุกเข่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เฉินเยี่ยนลี่ หัวเราะออกมา
“นายคือคุณชายเฉิน? ฉันไม่เชื่อ นายยอมรับเองว่าเด็กที่อยู่โรงเรียนประถมคนนั้นก็คือนาย นายยากจนขนาดนั้น มาตอนนี้ จู่ๆ จะมาเป็นคุณชายเฉินแห่งจินหลิงที่ร่ำรวยมหาศาลขนาดนั้นได้ยังไง? นายจะมีชีวิตแบบนั้นได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ! วันนี้นายจะต้องอธิบายให้รู้เรื่อง! "
เฉินเยี่ยนลี่ เอ่ยอย่างดุร้าย
เฉินเกอจิบไวน์แดง ผู้คุ้มกันรีบยื่นผ้าขนหนูสีขาวให้ทันที
เฉินเกอเช็ดปากและมองเธออย่างเย็นชา "ชีวิตที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น จำเป็นต้องอธิบายหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...