ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 654

บทที่654 ไปที่จินหลิงก็ได้

เวลานี้มองตามทิศทางที่นิ้วของบอร์ดี้การ์ดชี้ไปนั้น ก็มองเห็นทั้งสองคนนั้นเข้าพอดี

และได้มีบอร์ดี้การ์ดจำนวนนับสิบคนที่กำลังล้อมรอบสองคนนั้นเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ไอ้บ้าเอ้ย ครั้งนี้นายยังไม่ตายอีกล่ะก็ พี่เฟย ฉันต้องการให้พี่ควักดวงตาทั้งสองข้างของเขาออกมา แล้วก็หักแขนหักขาของเขาซะ!”

ซีเหมินหยู่กำหมัดแน่น

“ได้!”

ต้วนเฟยพยักหน้ารับปาก

ส่วนทางด้านเฉินเกอ

เฉินเกอกับเถียเฉิง และไป๋เสี่ยวเฟย ล้วนแต่กำลังให้ความสนใจกับการต่อสู้ด้านบนเวทีการประลองกันอยู่

ว่ากันตามความจริง ผู้ที่มีฝีมือในการต่อสู้ทั้งสองคนนี้ ล้วนแต่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างหนัก มีเทคนิคที่สมบูรณ์ เป็นที่น่าชื่นชมยิ่งนัก

“คุณชายเฉิน ดูท่าไม่ดีแล้ว บอร์ดี้การ์ดพวกนี้เหมือนกับจะมุ่งตรงมาที่พวกเรา ฉันเห็นพวกของผู้หญิงคนนั้นเมื่อตอนกลางวันนี้ด้วย!”

เถียเฉิงที่กำลังดื่มน้ำผลไม้ไปพลาง ดูการต่อสู้บนเวทีประลองไปพลางเอ่ยพูดขึ้น

“อืม เห็นตั้งแต่แรกแล้วล่ะ พอพวกเราเดินเข้าประตูมา ก็มีคนจ้องมองพวกเราแล้ว ไม่คิดว่าผู้หญิงที่แซ่ซีเหมินคนนั้นจะไร้เหตุผลขนาดนี้!”

เฉินเกออดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้

“พี่ใหญ่ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”

ไป๋เสี่ยวเฟยเองก็มองออกถึงต้นสายปลายเหตุนี้เช่นกัน

จึงเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ

“ก็ไม่มีอะไรหรอก ลองดูว่าพวกเขาจะทำอะไร!”

เฉินเกอเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งๆ

“เสี่ยวเฟย เสี่ยวเฟย ทำไมนายถึงเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ล่ะ?”

และเวลานี้เองที่หวางลี่เจ๋วเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับดึงแขนของเสี่ยวเฟย

ทำไมรู้สึกว่า คนที่ชื่อเฉินเกอคนนี้ เหมือนกับว่าจะเก่งกว่าเสี่ยวเฟยเสียอีก เสี่ยวเฟยเวลาอยู่กับเขาแล้ว เหมือนกับเป็นน้องชายเสียอย่างนั้น?

“อะไรที่ไม่ควรถามก็อย่าถามเลย อยู่ดีๆไป ถ้ามีการสู้กันขึ้นมา พวกเธอวิ่งไปอีกทางด้านหนึงนะ นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกเธอ พวกเขาจะไม่ทำอะไรพวกเธอ!”

และไป๋เสี่ยวเฟยจึงกำหมัดขึ้นมา รอคำสั่งจากเฉินเกอเพื่อจะลงมือได้ตลอดเวลา

ส่วนในงานนั้น ทุกคนก็ล้วนแต่ไม่ใช่คนโง่

เมื่อเห็นบอร์ดี้การ์ดที่กรูกันเข้ามามากขนาดนี้แล้ว ใครยังจะกล้าพูดออกมาได้อีกกัน ทุกคนต่างพากันเงียบและมองตรงมาทางนี้ อยากจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกัน

“ปึง!”

เวลานี้เอง ที่เสียงขวดไวน์แดงหล่นลงพื้นได้ทำลายความเงียบภายในงานขึ้นมา

ขวดไวน์แดงขวดหนึ่ง ได้ระเบิดขึ้นมาตรงข้างๆโต๊ะของเฉินเกอ

ผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดุดัน

“ได้ พวกแกสองคน ฉันหาตัวพวกแกไปทั่ว ยังคิดว่าพวกแกหนีไปแล้วเสียอีก ไม่คิดเลย ว่าจะยังกล้ามาร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลของฉันเป็นคนจัดขึ้นมาแบบนี้?”

ผู้หญิงคนนี้ก็คือซีเหมินหยู่นั่นเอง

เวลานี้ เธอหัวเราะเยาะขึ้นมา

วันนี้ เธอจะแก้แค้นพวกเขาต่อหน้าทุกคน

ลบล้างความอับอายนี้

“ครั้งนี้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาให้ฉันต้องไปหาตัวแกอีกแล้ว!”

ซีเหมินหยู่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“มีมาแค่นี้เองหรือ? ฉันว่าอย่างเธอน่ะ จะมาอีกเป็นสิบเท่าก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”

เถียเฉิงกล่าว

“ใครจะเก่งขนาดนี้? มาอีกเป็นสิบเท่า นั่นก็ห้าหกร้อยคนแล้ว ถึงแม้เป็นหมูห้าหกร้อยตัว ก็คงจะไม่สามารถจะจับได้หมดภายในเวลาแค่แป๊บเดียวได้หรอกมั้ง? ในเมื่อเก่งขนาดนี้ พี่เฟยของพวกเราอยากจะเห็นจริงๆแล้วสิ ถามแกหน่อยแล้วกันว่ากล้าที่จะขึ้นเวทีมาประลองฝีมือกับพี่เฟยของพวกเรารึเปล่า?”

ชายร่างใหญ่คนนั้นเดินเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ระหว่างที่พูดนั้น เจตนาร้ายได้กระจายออกไปทั่ว ทำให้อากาศบริเวณรอบๆนั้น ล้วนแต่เปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บขึ้นมาในทันที

“รู้ว่าอะไรดีไม่ดีสินะเด็กน้อย สามารถมีโอกาสที่จะได้ขึ้นแข่งเวทีเดียวกันกับพี่เฟย แน่นอนว่าถูกพี่เฟยทำร้ายเอา นายก็คงจะไปโม้ได้ตลอดชีวิตแล้วล่ะ ในงานนี้มีสมาคมการต่อสู้ตั้งมากมาย นายไปลองถามดูก็ได้นะ ว่าชื่อเสียงของต้วนเฟยโด่งดังขนาดไหน!”

ชายร่างใหญ่เอ่ยขึ้น

ต้วนเฟยเองก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ดวงตาที่หรี่เล็กของเขานั้นค่อยๆเบิกกว้างขึ้น แล้วขมวดคิ้วมองมา

“ไม่ให้เกียรติแล้วอย่างไร?” เฉินเกอเงยหน้าขึ้นมามองเขากึ่งๆยิ้ม

“แก.....” เหลียงหยู่โมโหเสียจนหน้าแดงไปหมด อยากจะเข้ามาต่อยคนในตอนนั้นเลยเสียแล้ว

ไป๋เสี่ยวเฟยรีบมาอยู่ตรงข้างๆเฉินเกอ

ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณชายเฉินจะมีความสามารถที่แข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะตอนที่จับโจรนั้นความสามารถที่แสดงออกมาให้เห็น ทำให้ไป๋เสี่ยวเฟยรู้สึกตกใจยิ่งนัก

แต่ตอนนี้คนที่เฉินเกอให้เขารู้สึกไม่พอใจก็คือต้วนเฟยคนประหลาดคนนี้

นี่ทำให้ไป๋เสี่ยวเฟยอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ จะต้องรู้ว่าตอนนั้นถึงแม้ว่าหวางเหมิงจะรับมือได้ยาก หากสมมติต้วนเฟยผู้ที่มีความยโสโอหังลงมืออย่างบ้าระห่ำ หวางเหมิงนั่นก็คงจะไม่สามารถแสดงออกมาได้เพียงไม่กี่รอบ

ดังนั้นถ้าหากต้วนเฟยกับเหลียงหยู่ลงมือพร้อมกัน เขากังวลเรื่องความปลอดภัยของเฉินเกอจริงๆ

“พี่เฟย พี่หยู่ นี่อาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกัน เห็นแก่หน้าเสี่ยวเฟย พวกเรานั่งลงคุยกันดีๆกันดีกว่าไหม?”

ไป๋เสี่ยวเฟยกล่าว

“พวกเรามาดื่มด้วยกันสักแก้วดีกว่า ไม่ว่าพวกพี่ต้องการให้ชดใช้อะไร พวกเราก็จะทำให้พอใจเลย!”

เพื่อไม่ให้คุณชายเฉินต้องมาเจ็บตัวไป๋เสี่ยวเฟยจึงทำได้เพียงต้องอ้อนวอนอย่างต่ำต้อย

“เสี่ยวเฟย ความหวังดีของนายฉันเข้าใจนะ แต่จะมานั่งลงคุยกับพวกเขา ฉันไม่ว่างหรอกนะ!” เฉินเกอตบไหล่ของเสี่ยวเฟย แน่นอนว่าเขารู้ว่าเสี่ยวเฟยเอ่ยพูดแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

แต่เฉินเกอพูดความจริง ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะพยายามจะอดกลั้นให้เรื่องราวสงบ แล้วทำหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองให้ดีเท่านั้น

หาเรื่องใส่ตัวให้น้อยลง

สามารถพูดได้ว่า เรื่องบางเรื่อง เฉินเกอสามารถยอมถอยให้ได้เขาก็จะยอมถอย

ตอนนั้นเฉินเกอมองไปทางซีเหมินหยู่

“ถ้าหากคุณมีอะไรที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถให้พ่อของคุณไปที่จินหลิง ไปหาคุณชายเฉินแห่งจินหลิงได้ ฉันคิดว่าคุณจะได้รับคำตอบที่คุณอยากจะได้!”

เฉินเกอเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

“หืม? คุณชายเฉินแห่งจินหลิง?”

และเมื่อเฉินเกอเอ่ยพูดออกไปนั้น ทั้งงาน ก็ตกตะลึงกันอีกครั้ง.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน