ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 685

บทที่685 ภูมิหลังชีวิตของเฉินเกอ

“เขาเป็นใคร？”กู่หยูเซียวถามด้วยความอยากรู้

ใช่แล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัวเองได้เจอกับเฉินเกอ ，กู่หยูเซียวก็พอจะมองออกว่าเฉินเกอนั้นไม่ใช่คนธรรมดา

เพื่อเขายายถึงได้สร้างกลยุทธ์และกับดักไว้มากมาย ถ้าเขาเป็นเพียงแค่ทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับหนึ่ง ยายก็คงไม่ต้องมาหนักใจถึงขนาดนี้ ทั้งยังตอนนี้ยายก็ยังร่วมมือกับสำนักฟีนิกซ์ในการกำจัดเฉินเกออีก สำหรับเรื่องนี้มันเลยเป็นคำถามที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก นั่นก็คือเฉินเกอนั้นถึงแม้จะมีพละกำลังที่เกินกว่าคนในอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ยายอยากจะกำจัดเขาก็ยังพอเข้าใจอยู่ โดยที่ไม่จำเป็นเลยที่สำนักฟีนิกซ์ที่มีความแข็งแกร่งกว่าตระกูลกู่มากำจัดคนคนเดียวกัน เพราะทั้งสองไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ เพียงแค่จับเฉินเกอมาก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง？ดังนั้นคำพูดของคุณยาย กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของกู่หยูเซียวอย่างมาก

“เห้อ เธอตามฉันมา！”

กู่เยว่หือพยักหน้าหลังจากพูดเสร็จก็พากู่หยูเซียวมายังห้องแห่งความลับ ห้องแห่งความลับแห่งนี้ในความทรงจำของกู่หยูเซียว ที่นี่เป็นที่เก็บซ่อนความลับสุดยอดของตระกูลกู่ ใครก็ห้ามเข้าใกล้ นอกจากเหล่าผู้นำตระกูลของตระกูลกู่เท่านั้น

เพียงเห็นกู่เยว่หือสัมผัสกลไก ห้องแห่งความลับก็ค่อยๆเปิดออก แล้วเธอก็เดินตามคุณยายเข้าไปด้านในอย่างเงียบๆ

ตึงๆๆ！แล้วไฟภายในช่องลับต่างๆของห้องแห่งความลับก็สว่างจ้าขึ้นมา แล้วทั้งห้องก็สว่าง ด้านในนี้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่าสี่ร้อยตารางเมตร

ห้องโถงใหญ่นี้ทั้งสี่ด้านถูกก่อด้วยหินบลูสโตนทั้งหมด โดยตรงกลางห้องโถงใหญ่จะมีแท่นสูงตั้งอยู่ ซึ่งบนแท่นนั้นตั้งโลงศพขนาดใหญ่โลงหนึ่งไว้

โลงศพนี้ช่างประหลาดเสียจริง มันดูค่อนข้างคล้ายคลึงกับโลงศพคลิสตัล แต่มันกลับลอยตัวอยู่เนื้อพื้น และมันก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าภายในโลงศพนั้นบรรจุร่างหนึ่งไว้ ซึ่งเป็นร่างหญิงสาวคนหนึ่งกู่หยูเซียวจึงมองด้วยความสงสัย

ผนังห้องบริเวณโดยรอบมีชั้นวางหนังสือตั้งอยู่ โดยหนังสือที่อยู่บนนั้นล้วนเป็นบันทึกลับอันล้ำค่าของตระกูลกู่

แล้วกำแพงทางทิศเหนือก็มีแท่นวางเครื่องหอมตั้งเอาไว้พร้อมกับมีคทาหยกหรูอี้ตั้งวงเอาไว้ ทั้งยังมีธูปสองสามดอกที่ถูกจุดเอาไว้

นอกจากนี้ก็ยังมีหม้อใบใหญ่ที่ใช้ในการฝึกแปรธาตุตั้งไว้อีกด้วย ซึ่งในตอนนี้หม้อใหญ่นั้นก็กำลังส่องแสงหลักสีสันออกมาอย่างน่าประหลาดใจ

“คุณยาย！”กู่หยูเซียวเรียกด้วยความสงสัยที่อัดอั้นไว้ไม่อยู่

“อืม เธอเข้ามาครั้งแรก ก็จะรู้สึกสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา ที่นี่เป็นห้องแห่งความลับที่เก็บซ่อนสมบัติและสิ่งของล้ำค่าของตระกูลกู่นอกจากเหล่าผู้นำแล้ว ก็ไม่มีใครที่สามารถเข้ามาได้ แต่วันนี้ยายถือว่าเป็นข้อยกเว้น！”กู่เยว่หือพูดอย่างเรียบเฉย

กลืนน้ำลายลงคอ

“โลงศพอันนี้ คงไม่ใช่ร่างของศพหญิงโบราณที่พวกเราไปตามหากันมาจากก้นทะเลหรอกใช่ไหมคะ？”

“ใช่แล้ว！มันคือศพโบราณนั้นนั่นแหละ！”

“ทำไมเธอถึงได้สำคัญขนาดนั้นหรอคะ เฉินเกอเองก็ตามหาเธออยู่ ถ้าตอนนั้นคุณยายไม่ใช้บุปผาผีเล่นงานเขาจนไร้สติ เขาก็คงทำสำเร็จแล้ว！”กู่หยูเซียวรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

“เฉินเกอต้องตามหาเธอแน่นอน เพราะเธอคือหญิงสาวชุดขาว ที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งของเฉินเกอ！”กู่เยว่หือพูดพลันหรี่ตาลง

“ผู้หญิงของเฉินเกอ？แต่เธอไม่ใช่ว่ามีอายุเกือบหมื่นปีแล้วหรอคะ？”กู่หยูเซียวส่ายหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“จะให้พูดให้ชัดเจนก็คือเธอเป็นหญิงคนรักของเฉินเกอเมื่อชาติที่แล้วชื่อว่าโล๋จื่อเยียน！พอแล้ว เธออย่าเพิ่งมาขัดฉัน รอให้ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดของเฉินเกอให้เธอฟัง แล้วเธอก็จะเข้าใจทั้งหมดนี้เอง！”กู่เยว่หือไขว้มือทั้งสองไว้ด้านหลัง เริ่มเดินไปอย่างเป็นจังหวะ พร้อมกับค่อยเล่าเรื่องราว ……

“หยูเซียว เธอคงรู้เพียงแค่ว่าตระกูลกู่ของพวกเรานั้นมีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่ยาวนาน แต่ยายกลับไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยว่าเมื่อหลายหมื่นปีก่อน บนโลกนี้มีการอาศัยอยู่ของอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าสมัยโบราณแหวนหมิง！”

“ผิดหรอ？นี่ถึงแม้จะไม่สามารถรักษาร่าทองคำอมตะเอาไว้ แต่เขาก็หลบภัยจากสวรรค์ได้งั้นหรอคะ？”

“ใช่แล้ว จะพูดอย่างไรดี เขาเป็นผู้ที่มีชีวิตอมตะเป็นคนแรกในช่วงเวลาของสมัยโบราณแหวนหมิง ดังนั้นในช่วงที่เหล่ายอดฝีมือและสูงทั้งหลายไม่สามารถที่จะต้านทานได้ ตายบ้าง หลบหนีบ้าง แต่เขาบรรลุการวิชาการเปลี่ยนร่าง พอเขาเรียนรู้วิชาการเปลี่ยนร่างที่มากเกินไป ดังนั้นจึงเลือกที่จะย่อแก่นแท้ของพลังจิต แล้วใช้วิธีการเกิดใหม่ เพื่อใช้การเกิดใหม่ซ้ำๆในการหลบหนี ซึ่งการกลับชาติมาเกิดของเขามีทั้งหมดเก้าครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นการเกิดใหม่ครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งเขาก็ได้เกิดมาในชาตินี้ด้วย”

ซึ่งในขณะที่พูดกู่เยว่หือก็ไม่สามารถปกปิดความสั่นไหวในใจได้

“แก่นแท้วิญญาณนี้ ถูกขนานนามอีกว่าเทพจิตเก้าภพซึ่งเป็นเทคนิคการสลับวิญญาณเก้าครั้งที่เขาสร้างขึ้นมาเอง！”

“ใครกันที่สามารถครอบครองเทพจิตดวงนี้หยูเซียว เธอรู้หรือเปล่าว่าคนๆนั้นก็จะสามารถผสานร่างกับร่างทองคำอมตะได้！นี่ถือเป็นความลับสุดยอด บนโลกใบนี้คนที่รู้เรื่องนี้มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น！”กู่เยว่หือพูด

กู่หยูเซียวหายใจเร็วขึ้น พร้อมกับถามด้วยความไม่อยากเชื่อ

“คุณยายจะบอกว่า เฉินเกอก็คือเทพจิตเก้าภพของเทพจิตสมัยโบราณคนนั้นหรอคะ？”กู่หยูเซียวเกือบล้มลงไป

“ใช่ เขาคนนั้นก็คือเฉินเกอ และยายก็รู้ด้วยว่าคนที่ต้องการตามหาและพยายามเข้าใกล้เขานั้นไม่ได้มีเพียงแค่พวกเรากับสำนักฟีนิกซ์เท่านั้น！”กู่เยว่หือพูด

“ในร่างกายของเฉินเกอยังมีพลังมากมายที่ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา ไม่ว่าจะเป็นพวกเราหรือจิ่วโล๋หวางต่างก็เกรงกลัวในตัวเขา พวกเราเลยไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างซึ่งหน้า และยิ่งไม่กล้าที่จะเอาชีวิตเขา เพราะล้วนแต่ไม่มีใครรู้ว่าถ้าเกิดเราไปยั่วโมโหเขา บังคับให้เขาแสดงพลังออกมา แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นที่พวกเราสามารถทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่จับเขาเท่านั้น จากนั้นถึงค่อยหาวิธีการในการจัดการกับเขา！”

“ในการเดิมพันครั้งนี้ พวกเราจะต้องชนะเท่านั้นจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นเธอเข้าใจแล้วใช่ไหม？เฉินเกอจะยังเป็นคนที่เธอรักได้อยู่หรือเปล่า？”กู่เยว่หือถามด้วยเสียงอันเยือกเย็น

กู่หยูเซียวก้าวถอยหลังติดต่อกันไปหลายก้าว พร้อมกับรู้สึกถึงร่างกายที่กำลังอ่อนแรง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอจะมีสิทธิ์ที่จะไปรักเขาได้ยังไง？