ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 691

บทที่691 อารยธรรมในอดีต

“ได้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่คุณอยากให้ฉันอยู่เคียงข้างคุณ แน่นอนว่าฉันต้องเต็มใจอยู่แล้ว!”

หยุนฉิงยิ้มอย่างมีเสน่ห์

ส่วนเฉินเกอก็พยักหน้าและยิ้มกับเธอเช่นกัน

และเรื่องที่เกี่ยวกับจะช่วยเหลือหญิงสาวชุดขาวในเที่ยงคืนนี้ แน่นอนว่าเฉินเกอไม่เอ่ยปากพูดกับเธอเลยสักนิด

และถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวเองประนีประนอมสักนิด แล้วถูกเธอทำลายการเรียกดวงวิญญาณของพี่ชุดขาวกลับมาล่ะก็มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไป

……

“สุ่ยเกิน ตกลงถ้ำงูนั้นอยู่ที่ไหน?สรุปคุณยังจำได้อยู่หรือเปล่า?”

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ทุกคนต่างก็ออกเดินทางกัน โดยมีสุ่ยเกิน รวมไปถึงซูโร่ซีที่อยากรู้อยากเห็น และหยุนฉิงที่ติดตามอยู่เคียงข้างของเฉินเกอ

และแล้วทุกคนก็มาถึงที่หุบเขา

“จำได้สิ เพียงแต่ว่าสถานที่แห่งนั้นค่อนข้างซ่อนเร้น ขอฉันคิดดูดี ๆก่อน!”

สุ่ยเกินเกาศีรษะของตัวเอง และยืนอยู่บนเนินดินในขณะนี้:

“หาเจอแล้ว ตรงนี่แหละ!”

สุ่ยเกินรีบพุ่งลงไป แล้วเปิดป่าหญ้าทึบที่หนึ่งออก จากนั้นถ้ำวงกลมที่มีความสูงประมาณราวกับคนคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคน

เมื่อสมัยตอนที่สุ่ยเกินยังเด็ก เขาเคยเดินเข้ามาเล่นที่ภูเขากับเพื่อนของเขา และก็ได้พบถ้ำขนาดใหญ่

แล้วพวกเขาจึงได้พนันกันว่าใครจะเป็นคนที่กล้าเข้าไป

และเมื่อหลังจากที่สุ่ยเกินเข้าไปข้างใน ก็ได้พบกับคราบงูที่มีขนาดใหญ่ จากนั้นเพราะกินผลไม้ที่อยู่ข้างในถ้ำนี้ไปหนึ่งลูก เขาเลยได้รับพลังเหนือธรรมชาติมา

ดังนั้นสุ่ยเกินเลยเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำงู

โดยเริ่มแรกนั้น ทุกคนต่างก็ต้องก้มตัวเพื่อเข้ามาด้านในถ้ำ

แต่หลังจากที่เดินมาระยะหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกปลอดโปร่งและโล่งสบายขึ้น

ด้านในของถ้ำนี้ เป็นห้องหินที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมีเสน่ห์มาก

และคราบงูที่มีขนาดใหญ่ตัวนั้น ก็ปรากฏอยู่ที่ตรงกลางของถ้ำนี้นั้นเอง จินตนาการไม่ยากเลย งูใหญ่ตัวนี้ ไม่ได้อ่อนแอกว่างูตัวที่ตัวเองเห็นในวังใต้ดินทะเลทรายแน่นอน

“ตรงนี้แหละ!”

สุ่ยเกินมีความคุ้นเคยราวกับว่ากลับบ้านของตัวเองยังไงอย่างงั้น และเขาก็ได้เดินวนดูรอบ ๆของถ้ำที่มืดมิดนี้ แล้วก็หัวเราะออกมาในขณะนี้

จากนั้นเขาก็เปิดไฟฉาย จนทำให้ห้องหินที่มืดมิดนี้มีความสว่างขึ้นมาทันที

และในที่สุดเฉินเกอเองก็ได้มองเห็นมันชัดเจนขึ้น โดยรอบ ๆของภายในถ้ำนี้ ถูกแกะสลักด้วยภาพวาดที่แปลกๆอย่างที่คาดไว้

และภายในรอยแตกของหินแห่งหนึ่ง ยังมีพืชที่น่าสนใจและสวยงามอยู่ต้นหนึ่ง เพียงแต่ว่าบนพืชต้นนี้ ไม่มีผลเลย

“อันนี้เป็นผลไม้ที่ฉันเด็ดในเมื่อสมัยก่อน เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีผลออกใหม่! ดูเหมือนว่า หลังจากที่ฉันเด็ดผลไม้ลูกนั้นเมื่อสมัยตอนเด็ก พืชนี้ก็ไม่เคยออกผลอีกเลย!”

สุ่ยเกินกล่าว

“น่าแปลกใจจริง ๆ ผลไม้นี้มีชื่อเรียกว่าผลทิพย์ เป็นผลไม้โบราณที่มีพลังวิเศษ และมันจะออกผลเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คุณช่างโชคดีจริง ๆ ที่ผลไม้ลูกนี้ถูกกินโดยคุณ! เพียงแต่ว่าผลทิพย์นี้อยู่บนโลกที่มีพลังทิพย์บางและน้อยแบบนี้ คาดว่าผลลัพธ์ของมันคงไม่ได้สูงมากเท่าไหร่นัก!”

เห็นได้ชัดว่าหยุนฉิงรู้จักผลไม้ชนิดนี้เป็นอย่างดี จึงยิ้มและกล่าวในขณะนี้

“อืม สุ่ยเกินได้รับพลังธรรมชาติบางอย่างเพราะเหตุนี้!”

เฉินเกอพูดขึ้น

สายตาของเขา ถูกภาพวาดที่อยู่ภายในถ้ำนี้ดึงดูดไปตั้งแต่แรก

สามารถเห็นได้ชัดว่า จิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ มีอายุมานานมาก และไม่สามารถใช้คำว่านานมากคำนี้มาแทนกับสิ่งเหล่านี้ได้ แต่ต้องใช้คำว่าเก่าแก่มาแทนถึงจะเหมาะสมมากที่สุด

เฉินเกอดูเนื้อหาทั้งหมดของภาพวาดที่อยู่ภายในถ้ำนี้เสร็จ

ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

เพราะว่า ภายในภาพวาดของหินพวกนี้ เฉินเกอเห็นเป็นรูปร่างคนแปลกๆมากมายที่ถูกแกะสลักอยู่ในภาพ

“เพราะถ้าเป็นภาพวาดจิตรกรรมธรรมดา แน่นอนว่ามันจะไม่สามารถเก็บมาได้จนถึงตอนนี้ และตอนนี้ คุณลองใช้เจินชี่สวนเทียนของคุณ ไปที่ภาพวาดจิตรกรรมนี้ดู ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

หยุนฉิงเฝ้าดูอย่างตั้งใจ

เฉินเกอรู้ไม่เท่าเธอ ก็ทำได้เพียงแค่ฟังคำพูดของเธอ และใช้เจินชี่สวนเทียนกับมันโดยตรง

“เฮ้ย!เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนแล้วจริง ๆด้วย เฉินเกอคุณดูสิ บนภาพวาดของจิตรกรรมฝาผนังนี้ มีบุคคลและข้อมูลมากมายออกมาเพิ่มด้วย!”

ซูโร่ซีร้องด้วยความประหลาดใจ

เฉินเกอเองก็เห็นแล้ว บนภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดนี้ ได้ถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้วในขณะนี้

“ฉันคิดว่า เป็นช่างฝีมือในยุคนั้น ได้ใช้วิธีการเก็บภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยวิธีนี้ โดยธรรมชาติแล้วช่างฝีมือในยุคนั้น แน่นอนว่าไม่สามารถปฏิบัติเหมือนช่างฝีมือธรรมดาในตอนนี้ได้ และพวกเขานั้นต่างก็เป็นบุคคลที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่ทรงพลัง และการเก็บรักษาภาพเช่นนี้ บางนิกายในโลกยู่ก็ใช้ เพียงแค่มีเจินชี่อยู่ พวกมันก็จะปรากฏ!”

“ฉันว่างูยักษ์ตัวนี้ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ธรรมดาแน่นอน และมันหล่อเลี้ยงส่วนหนึ่งของมัน โดยอาศัยเจินชี่ที่อยู่ในตัวของมันเอง!”

หยุนฉิงอธิบาย

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าข่าวลือก็ไม่ได้ไร้เหตุผลทั้งหมด แต่มีอารยธรรมที่แปลกประหลาดเช่นนี้จริง ๆ”

เฉินเกอพยักหน้า:“หืม?ตอนนี้ดูภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังชิ้นนี้ เหมือนว่าคนที่อยู่ด้านบนนี้ และแม้แต่เหล่าอสูร ดูเหมือนว่ากำลังทำพิธีบูชาอะไรบางอย่างอยู่ มนุษย์และอสูร ดูเหมือนว่าไม่เคยกลมกลืนขนาดนี้มาก่อน แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็มาจากทุกทิศทาง และกำลังนมัสการรูปปั้นหินขนาดใหญ่นี้!”

เฉินเกออธิบายเบื้องต้น

“เหมือนว่าฉันจะเข้าใจแล้ว นี่น่าจะเป็นเพียงแค่แสดงให้เห็นเขตเล็ก ๆของพวกเขาเท่านั้น และในยุคสมัยอารยธรรมของพวกเขา คนที่สามารถทำให้พวกเขาเคร่งในศาสนาขนาดนี้ คงจะเป็นคนที่เป็นตำนานคนนั้นแล้วแหละมั้ง?”

หยุนฉิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“คนไหน?”

เห็นได้ชัดว่า พาหยุนฉิงมาที่นี่ไม่ได้ศูนย์เปล่า เธอนั้นมีความรู้ด้านนี้มากมายจริง ๆ

“นี่ก็เป็นตำนานของโลกยู่ด้วยเช่นกัน เพราะว่าโลกยู่เป็นสถานที่ที่คล้ายคลึงกับอารยธรรมการเพาะปลูกในยุคก่อนประวัติศาสตร์มากที่สุด แน่นอนว่า มันก็แค่คล้ายกัน และมันอยู่ห่างจากยุคนั้นไกลเกินไป กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ใครก็ตามในยุคสมัยนั้น สามารถครอบครองโลกยู่ในยุคนั้นได้ แล้วนับประสาอะไรกับโลกปัจจุบัน!”

“และคนที่เป็นตำนานคนนั้น ฉันเคยอ่านเจอในข้อมูลเล่มที่เก่าแก่ของโลกยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนแรกที่เป็นเทพจิตอารยธรรมการฝึกตน ซึ่งเป็นร่างอมตะ นับตั้งแต่กำเนิดอารยธรรมอยู่ยงคงกระพันในโลก!และดูเหมือนว่า จะมีแต่เขาเท่านั้น ที่สามารถทำให้สิงปัญจธาตุเคารพบูชาได้มากขนาดนี้!”

“ร่างอมตะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน