บทที่700 ทำลายรากฐาน
“เฉินเกอ?”
กู่หยูเซียวก็มองเขาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
เฉินเกอพยักหน้า:“แม้ฉันไม่รู้ว่าเทพจิตเก้าภพที่พวกคุณพูดมันคืออะไร แต่ว่าเมื่อวันพี่จื่อเยียนเหมือนว่าจะเคยเล่าให้ฉันฟังคร่าวๆเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอย่างละเอียด และที่พวกคุณกำลังพูดอยู่ในตอนนี้ หรือว่าจะเป็นสิ่งที่ซ้อนอยู่ภายในร่างกายของฉัน?จิ่วโล๋หวาง และคุณ ต่างก็มาเพื่อความลับนี้เหรอ?”
“เฉินเกอจริงด้วย!”
ดวงตาของบรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่สว่างขึ้น
ในใจของเขาในตอนนี้ทั้งสุขและเศร้า
ที่ความสุขเพราะว่า ในที่สุดตัวเองก็หาเฉินเกอเจอจนได้ และก็ยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเองด้วย
แต่ที่เศร้านั้น เพราะว่าศักยภาพอันทรงพลังของเฉินเกอ มันน่ากลัวเกินไป กลัวว่าประมาทเพียงแค่นิดเดียว มันก็จะกระทบเขาอย่างสมบูรณ์ และเมื่อถึงเวลามันก็จะทำลายล้าง และเป็นไปได้ว่าตระกูลกู่จะถูกทำลายล้างทั้งหมด แต่แม้จะระมัดระวังมากก็ตาม
แต่ผู้ที่ปลดล็อคศักยภาพเทพจิตเก้าภพขั้นแรกของเขา คือตัวฉันเอง
นอกจากนั้นเขาได้ระเบิดศักยภาพขั้นแรกเท่านั้น และศักยภาพขั้นแรกนี้ก็ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ก็น่ากลัวมากขนาดนี้แล้ว และถ้าหากว่าปลดล็อคจนถึงขั้นที่เก้าล่ะก็ นั้นต่างหากคือการทำลายล้างที่แท้จริง และสามารถเจาะทะลุทั้งสามอาณาจักรด้วยฝ่ามือเดียวเท่านั้น!
น่ากลัว!
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย ตกลงเทพจิตเก้าภพคืออะไรกันแน่?”
เฉินเกอถามขึ้นอีกครั้ง
“มันคือศักยภาพที่อยู่ในตัวของคุณ และเมื่อถูกปลดปล่อย มันจะแผลงฤทธิ์ของศักยภาพทั้งสามอาณาจักร และศักยภาพแบบนี้ เพียงพอที่จะทำให้บุคคลที่ฝึกฝนทุกคนบ้าคลั่ง!”
บรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่อธิบายอย่างช้า ๆ
และในเวลาเดียวกันเฉินเกองก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่า มือของเขา กำลังเคลื่อนไหวเจินชี่ของเขาอย่างช้า ๆ
“ศักยภาพแบบนี้ อยู่ในตัวของฉัน?”
เฉินเกอถาม
“ใช่ คุณรู้หรือไม่ว่าคุณคือใคร?”
บรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่กลืนน้ำลายลงคอ และลดเสียงลงแล้วกล่าว
“ฉันเป็นใครกันแน่?”เฉินเกอถาม
ทันใดนั้นเอง บรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่ก็ลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็โจมตีไปที่เฉินเกอด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
ในเมื่อสิ่งที่ไม่อยากเห็นที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว
เขาจะไม่ปล่อยให้เฉินเกอพัฒนาต่อไปได้
มิฉะนั้น แผนการที่ตัวเองวางแผนมาหลายหมื่นปี ก็จะสูญเปล่า
ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ ก็คือสู้ สู้กับมัน!
ปัง!
ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือที่แข็งแกร่งของบรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่ ก็กระทบไปที่หน้าอกของเฉินเกอ
และทันใดนั้นเอง แสงสีทองที่หน้าอกของเฉินเกอก็ปรากฏขึ้น
พลังจิตของบรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่ก็สั่นสะท้าน แล้วกระเด็นออกไปทันที
และแสงสีดำที่อยู่รอบตัวของเขา ก็หายไปทันทีครึ่งหนึ่ง
โอ๊ย!
ความไม่มั่นคงของพลังจิต ทำให้บรรพบุรุษของตระกูลกู่ต้องทนกับความเจ็บปวดอย่างมาก
เขามองเฉินเกอด้วยความหวาดกลัว
“พระเจ้า นี่มันแค่ขั้นแรกนะ คุณก็สะท้านพลังจิตของฉันโดยตรงเลย เป็นไปได้อย่างไร?”
บรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่สิ้นหวัง
และเฝ้าดูพลังจิตของตัวเองที่ค่อยๆสลายไป
เขาเจ็บปวด และร่ำไห้อย่างสุดขีด
แต่เขารู้สึกไม่พอใจ ไม่พอใจเพราะตัวเองถูกทำลายด้วยวิธีแบบนี้
และในขณะนี้ เขามองไปที่กู่หยูเซียวที่ถูกเฉินเกอทำให้ตะลึงด้วยสายตาที่เย็นชา
แม้ว่าจิตวิญญาณของเฉินเกอไม่สามารถสั่นคลอนได้ แต่ว่า เขาสามารถครอบงำร่างกายของกู่หยูเซียวได้
แบบนี้ เขายังพอมีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อไป
และเขาก็มุ่งหน้าโจมตีไปที่กู่หยูเซียว
“ระวัง!”
ก็เห็นเฉินเกอยกนิ้วขึ้นมา แล้วปิดผนึกไปที่ตำแหน่งหว่างคิ้วของกู่หยูเซียวโดยตรง ส่วนกู่หยูเซียวเองก็ไม่สามารถทนต่อพลังของเฉินเกอได้ จึงเป็นลมหมดสติไปในทันที
เฉินเกอเคยได้ยินจากปากของลี่ป้าเกี่ยวกับเรื่องของร่างที่เหมาะสม จึงรู้ว่าควรทำอย่างไร และไม่ให้วิญญาณสามารถเข้ามาสิงร่างเขาได้
แน่นอนว่า ต่อให้บรรพบุรุษแห่งตระกูลกู่จะแข็งแกร่งมาแค่ไหน ก็ไม่มีวิธีไหนที่สามารถใช้ได้ในขณะนี้
“คุณไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของตระกูลกู่ต่อไปแล้ว ฉันว่าคุณมันเป็นปีศาจเฒ่าที่ยังมีชีวิต!ที่อยู่มาหลายหมื่นปี ฉันว่า คุณควรจะถูกทำลายแล้ว!”
เฉินเกอกล่าว
“อย่าทำลายฉัน อย่า!”
เฉินเกอไม่ฟังคำอะไรของเขาสักอย่าง เขารู้ ว่าเขาไม่ได้กลัวเจินชี่และความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเอง แต่ที่เขากลัวคือพลังจิตของตัวเองต่างหาก
เพราะว่าพลังจิตของตัวเอง ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าเขากี่เท่า
และพลังจิตของตัวเอง ก็สามารถทำลายเขาได้ในชั่วพริบตา
“ไปตายซะ!”
ในป่าใหญ่ กู่เยว่หือที่กำลังบัญชาการเป็นผู้นำในการสั่งจับกุมตัวเฉินเกอ เธอรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์เสีย และมีอาการใจสั่นพุ่งอยู่ในใจของเธอ จนทำให้ร่างกายเธออดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย
“นายท่าน คุณเป็นอะไร?”
ลูกน้องบางคนถามขึ้น
“เหมือนว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน และเหมือนว่ารากฐานของเราถูกใครแตะต้อง!”
กู่เยว่หือขมวดคิ้วแล้วกล่าว และนี่ก็ทำให้เธอรู้สึกเหลือเชื่อมาก เพราะว่าสถานที่ที่ซ้อนรากฐานไว้นั้น ค่อนข้างลึกลับและปกปิดมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบุคคลท่านนั้นที่คอยเฝ้าและปกป้องอยู่ แล้วมันจะถูกกระทบได้อย่างไร?
ต้องรู้ว่า หากตระกูลกู่ไม่มีรากฐานนี้แล้วล่ะก็ ซึ่งก็เท่ากับว่านั่งกินนอนกินโดยไม่ทำอะไร และก็ไม่สามารถพัฒนาทางด้านพลังได้อีก
และหลังจากไม่กี่ปี ตระกูลกู่จะไม่มีสมาชิกที่เป็นความลับเพิ่มขึ้นอีก
ในเวลานี้เอง
“นายท่าน เจอแล้ว!หาเจอแล้ว!”
ลูกน้องคนหนึ่ง กลิ้งเหมือนลา มาจากที่แห่งหนึ่ง
และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตะลึงตกใจ
ดวงตาของกู่เยว่หือสว่างขึ้นทันที และเมื่อเธอมองจากระยะไกล ก็เห็นลูกศิษย์ของตระกูลกู่ หลายคน เหมือนว่ายกคนคนหนึ่งและรีบตรงเข้ามาที่เธอ
“เจอตัวเฉินเกอแล้วเหรอ?ถึงได้ตื่นตระหนกตกใจขนาดนี้?”
กู่เยว่หือพยายามระงับความตื่นเต้นของตัวเองลง
ลูกน้องกลืนน้ำลายลงอย่างหนัก:
“นายท่าน ไม่……ไม่ใช่เฉินเกอ แต่เป็นศพของคุณชายกู่เฟิง!”
เขาร้องไห้พร้อมกล่าว
“อะไรนะ?ศพของเฟิงเอ๋อ?”
กู่เยว่หือได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และรู้สึกเจ็บปวดตรงหัวใจ จนเกือบจะทำให้เธอเป็นลมหมดสติ
แต่ว่า เมื่อตอนที่ลูกน้องของเธอยกศพของกู่เฟิงมา กู่เยว่หือที่ถูกลูกน้องพยุงตัวอยู่ ก็รู้สึกร่างกายของเธออ่อนแรงไปหมด
และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ปรากฏว่าเป็นหลานชายของตัวเองกู่เฟิงจริง ๆ
เป็นไปได้อย่างไร?
เฟิงเอ๋อไม่ใช่กลับบ้านแล้วเหรอ?ทำไมถึงตายอยู่ที่นี่?
แล้วเฟิงเอ๋อที่อยู่บ้านคนนั้นคือใคร?
เครื่องหมายคำถามมากมายปรากฏอยู่ในใจของกู่เยว่หือ
จนเอาเรื่องที่รากฐานเกิดเรื่องมาเชื่อมโยงกัน
ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นทันที และสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ:“แย่แล้ว ลูกหลานตระกูลกู่ทุกคน รีบกลับไปที่ตระกูลกู่กลับฉันเดี๋ยวนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...