ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 711

บทที่711 ชายแก่ที่สวมหน้ากาก

คนตรงหน้านั้น พูดให้กระจ่างคือไม่ใช่มนุษย์

ร้ายกาจ ร้ายกาจจริง ๆ

พ่อลูกตระกูลสวี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เดิมทียังคิดว่า หยิ่นจูน นี้มีความสามารถพิเศษบางอย่างที่จะช่วยฆ่าทุกคน แต่ตอนนี้ด้วยหมัดหมัดเดียว ก็กลายเป็นกองเนื้อกองหนึ่ง

ถุย

จะทำให้ตระกูลสวี่ตกลำบากจริงๆ

ตูม

สวี่เหวินตง นั้นคร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มานาน เขารู้ได้อย่างดีว่าสองพ่อลูกจะต้องเจอกับอะไรต่อไป

เขาจึงรีบคุกเข่าลง

“คุณครับ ไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”

สวี่เหวินตง พูดอย่างนอบน้อม

“ซ่วยเอ๋อ! เร็วเข้า! คุกเข่าให้คุณเขาสิ ขออภัยด้วย!”

สวี่เหวินตง ดึงลูกชายให้คุกเข่าลงด้วย

คนกลุ่มนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย

“ดีมาก!”

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย

“ขอบคุณครับ...ขอบคุณครับที่คุณไว้ชีวิตเรา!”

สวี่เหวินตง น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุด

“แกอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้พูดว่าจะไว้ชีวิตพวกแก เพราะฉันเคยให้โอกาสพวกแกไปแล้ว แต่น่าเสียดาย พวกแกไม่คว้ามันไว้ ฉันเคยให้คำมั่นไว้แล้ว คนที่อยากจะฆ่าฉัน มันจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตทั้งโคตร คิดจะอยู่ในวงการต้องมีความจริงใจต่อมิตร ในเมื่อบอกว่าจะฆ่าแล้ว ฉันจะฆ่าแกทั้งครอบครัว!”

เฉินเกอพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น

“อะไรนะ!”

สวี่เหวินตง เหงื่อตกราวกับสายฝน และทรุดตัวนั่งลงกันพื้นในทันที หากเขารู้ว่าได้เข้าไปเหยียบเท้าใคร เขาไม่ทางกล้าจะหาเรื่องกับวายร้ายคนนี้หรอก

ถ้าจะพูดให้ง่าย กับคนกลุ่มนี้ ให้เฉินเกอจัดการมันก็เป็นเพียงเรื่องกล้วย ๆ

ในตอนแรกที่ตัวเองค้นพบที่ฝังศพของพี่หลินเซียว นั้น เพราะยังมีเรื่องราวที่ไม่ชัดเจนอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเฉินเกอจึงได้ตั้งค่ายกลเพื่อปกปิดสุสานโบราณทั้งหมดเอาไว้ก่อนในช่วงเวลานั้น

จนในตอนนี้ ปริศนาในเวลานั้นได้คลี่คลายไปเป็นจำนวนมากแล้ว

และตัวเขาเองก็ก้าวสู่ความลับของไท่หยางเหมิงไปมากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเขามี หินโชคชะตาอยู่ในมือ ตามที่พี่จื่อเยียนกล่าวไว้ ถ้าหากว่าพลังพื้นฐานของตนเองไม่ได้ถูกคนอื่นทำลาย หินโชคชะตา คงจะแสดงผลได้มากกว่านี้

แต่ยังมีเรื่องให้เฉินเกอต้องไปจัดการในทันที

นั่นก็คือสุสานโบราณ

หินโชคชะตาได้แสดงให้เห็นหลายครั้งถึงเรื่องในสุสานโบราณและเรื่องของตระกูลเฉินของตนเอง มันคงต้องการจะบอกอะไรสักอย่าง

ด้วยความกังวลใจว่าจะเกิดเรื่อง คนกลุ่มนี้จึงได้รีบมุ่งหน้าที่ไปที่สุสานโบราณ

“ในตอนแรก ที่ผมถูกโม่ชางหลงไล่ล่าในดินแดนแห่งหุบเขาทรายแห่งนี้โชคดีที่เขาบีบจนผมเข้ามาใน วังใต้ดินแห่งนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงยังหาไม่เจอว่า พี่หลินเซียวอยู่ที่ไหน ต่อมา ผมจึงได้ปิดผนึกที่นี่ไว้!”

เพียงไม่นาน เฉินเกอและพวกก็เข้ามาถึงสุสานโบราณ

และพูดขึ้นกับพวกคุณลุง

แต่ว่าหลังจากที่เดินเข้าไปใกล้แล้ว เฉินเกอก็กะพริบเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้านั้น เดิมทีที่เขาใช้หินก้อนใหญ่ปิดปากถ้ำเอาไว้ ไม่รู้ว่ามันถูกเปิดออกตั้งแต่ตอนไหน

ซึ่งมันเป็นภาพที่ผิดปกติ

“ซวยแล้ว!

เฉินเกอใจเต้นรัวและรีบเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว

คุณลุง และ โล๋จื่อเยียน หันมามองหน้ากัน

โดยเฉพาะโล๋จื่อเยียน ในตอนนี้เกิดความซับซ้อนเป็นอย่างมากในใจของเธอ

ในขณะนี้ด้วยการกระโดดเบา ๆ เธอก็มาถึงฝั่งของเฉินเกอในถ้ำได้แล้ว

และเฉินเกอก็ต้องนิ่งไปครู่หนึ่ง ภายในถ้ำนั้นเ สภาพมันดูยุ่งเหยิงและงูหลามยักษ์อายุหมื่นปีตอนนี้มันได้กลายเป็นเพียงซากงูยาวเยื้อยตัวหนึ่ง

หัวของมันถูกเจาะเพื่อคร่าชีวิตของมันเพียงครั้งเดียว

แต่โลงศพอมตะภายในถ้ำกลับหายไปแล้ว

กลุ่มแสงสีฟ้านี้เริ่มส่งเสียงแปลกประหลาดออกมา

ตามมาด้วยเสียงพูดออกมาเป็นภาษา

“นายกลับมาแล้ว!”

เสียงนี้เมื่อฟังแล้วดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากอีกทั้งยังไม่ชัดเจน แต่ยังสามารถฟังออกว่าคือเสียงนั้นพูดอะไร

“แกคืองูยักษ์เหรอ! ?”

เฉินเกอมองด้วยความตกตะลึง

ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าพลังงานที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกับพลังงานทิ่เคยเจอที่สุสานโบราณที่เป็นจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของตระกูลกู่

“ฉันเอง แต่น่าเสียดายฉันตายไปแล้วล่ะ เหลือเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะได้เจอนาย ฉันยึดมั่นในจิตวิญญาณของฉันไม่ให้สูญสิ้น จนถึงเมื่อครู่ ฉันได้รับกระแสพลังวิญญาณจึงได้พยายามเต็มที่เพื่อรวบรวมมัน!”

งูยักษ์พูดช้าเนิบนาบ

“ที่นี่ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นายไม่ต้องเป็นกังวลนะ ผมจะรีบจะหาร่างที่เหมาะสมให้คุณทันที เนื่องจากคุณสามารถควบแน่นวิญญาณของคุณได้ ผมจะใช้ กำลังภายในสวนเทียน เพื่อช่วยให้นายฟื้นคืนชีพ!”

พูดตามจริง เมื่อคิดดูแล้วเจ้างูยักษ์ช่างน่าสงสาร ในสมัยที่ยังมีชีวิตและเป็นงูตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งนั้น ก็ถูกคนจับไปเพื่อให้ไปเป็นสัตว์เฝ้าสุสานโดยเฉพาะ แล้วก็ถูกขังไว้ในนั้นเป็นหมื่นปี

ในที่สุดตอนนี้มันได้ทำหน้าที่ของตัวเองลุล่วงแล้ว เฉินเกอได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้นานแล้วว่าจะทำสัญญากับป่าดึกดำบรรพ์สักแห่งแล้วปล่อยเจ้างูให้อาศัยอยู่ที่นั่นอย่างมีอิสระต่อไป

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์แต่ในสายตาเฉินเกอแล้ว การช่วยเหลือกันในสุสานโบราณในวันนั้นทำให้เฉินเกอมองว่ามันเป็นผู้อาวุโสในชีวิตไปแล้ว

“ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ฉันพยายามสุดความสามารถในการรักษาพลังจิตวิญญาณของตัวเองเอาไว้เพื่อรอพวกนายตั้งยี่สิบกว่าวันมาแล้ว มันใช้พลังจิตไปหมดแล้ว ฉันในตอนนี้เหลือเพียงแค่ร่องรอยของความคิด ฉันมีเรื่องจะต้องบอกนาย หลังจากบอกเสร็จแล้วฉันก็จะดับสูญไป หายไปจากโลกนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว เฮ้อ!”

งูยักษ์ถอนหายใจเล็กน้อย

รู้สึกได้ถึงความมุ่งหวังต่อโลกภายนอกของมันและความเปล่าเปลี่ยวของมันในเวลานี้

“ไม่หรอก ฉันช่วยนายได้นะ ฉันมีวิธีการมากมาย!”

เฉินเกอรีบพูดขึ้น

“ฉันถูกคนแก่ที่สวมหน้ากากฆ่าตาย เขามีวิทยายุทธสูงส่ง ถ้านายเจอเขาจะต้องระวังให้มากนะ เพราะเขารู้จักนายดี ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นคนอำมหิต ร่างของเทพแห่งสงคราม ถูกเขาเอาไป เขาพยายามจะหาอะไรสักอย่างให้ได้จากร่างของเทพแห่งสงคราม!”

งูยักษ์พูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนระโหยโรยแรง

“คนแก่ที่สวมหน้ากาก?”

เฉินเกอและโล๋จื่อเยียน อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน