บทที่713 โผล่พ้นผิวน้ำ
มืดสลัวและเงียบสงัด
นี่คือความรู้สึกแรกเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในบ้านเฉิน
เขาอกสั่นขวัญแขวน ไม่มีอะไรทำให้เขาว้าวุ่นได้มาก่อนเลย เขาก้าวขาไม่ออก เขากลัวว่าจะต้องพบกับภาพเหมือนกับที่สุสานโบราณอีกครั้ง
แต่ว่า เขาก็ยังคงก้าวเท้าเดินเข้าไปช้า ๆ
สุดท้ายพบว่า บ้านเฉินที่เคยครึกครื้น ดูเหมือนจะไม่มีร่องรอยผู้คนตั้งแต่หลายวันก่อน
เฉินเกอขนลุกซู่ เขาจากไปและเปิดจิตสำนึกวิญญาณของเขา เพื่อต้องการจะหาสิ่งมีชีวิตที่เป็นไปได้ทั้งหมด
แต่มันก็ว่างเปล่า
เฉินเกอเร่งความเร็วระดับสูง เร็วขึ้นอีก จนพลิกบ้านเฉินขึ้นลง
ผลลัพธ์นั้นทำให้เฉินเกอต้องเศร้าและยินดีในเวลาเดียวกัน
เพราะเขาพบว่าทั้งบ้านเฉินไม่มีใครอยู่เลย ซึ่งมันต่างจากที่งานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ได้แสดงภาพไว้
แล้วคนไปไหนหมดล่ะ? นี่คือสาเหตุที่เฉินเกอต้องเศร้าใจ
แต่ก็ยังดีใจที่ไม่พบศพใครจึงบอกไม่ได้ว่าครอบครัวของตนเองนั้นได้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว
ตนเองนั้นยังคงมีความหวังอยู่ไม่ใช่เหรอ?
อย่างรวดเร็วทั้งเฉินผิงอันและจื่อเยียน ต่างก็รู้สึกได้
เมื่อเห็นท่าทางหดหู่ของเฉินเกอ ไม่จำเป็นต้องถามพวกเขาก็รู้ว่าผลลัพธ์คืออะไร
โดยเฉพาะเฉินผิงอัน เขามองไปรอบ ๆ บ้านและมีความซับซ้อนในใจเกิดขึ้น
“หายตัวไปหมดเลย ผมใช้จิตสำนึกวิญญาณลองหาแล้ว ละแวกนี้ไม่มีใครเลย!”
เฉินเกอกำหมัดแน่นแล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ
“เสี่ยวเกอ เธออย่าเพิ่งเป็นกังวลเลยนะ เมื่อเป็นแบบนี้เรื่องมันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ พวกเธออาจจะไม่เป็นไร! ~”
โล๋จื่อเยียนเดินมาข้าง ๆ เฉินเกอจูงมือเฉินเกอเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
“อือ แต่ว่า คนคนนี้เป็นใครกันแน่? จะเป็นคนคนเดียวกันรึเปล่า? ตอนแรกเขาก็เอาร่างของพี่หลินเซียว ไปก่อน ตอนนี้ บ้านเฉินของพวกเราก็ไม่รู้หายไปไหนหมด!”
เฉินเกอขมวดคิ้วและใช้ความคิด
“เอ๊ะ?”
ในเวลานี้เอง เฉินเกอ เฉินผิงอัน ทั้งสองคนรู้สึกได้ถึงบางอย่าง
พวกเขาเข้าไปดูที่บ่อน้ำกลางบ้าน
บ่อน้ำบ่อนี้มีความเป็นมาอยู่บ้าง
เฉินเกอและพวกมองลงไปเป็นเพราะพวกเขาได้ยินเสียงบางอย่างจากข้างในนั้น
เฉินผิงอันนั่นว่องไว เขากวาดไปในขณะนั้นยื่นมือลึกลงไปและจับตัวคนจากบ่อน้ำ
เป็นชายอ้วนวัยกลางคน ตัวเปียกไปทั้งตัวเห็นได้ชัดว่าเขาตกลงไปในบ่อน้ำ
และไม่น่าประหลาดใจเลยเพราะเขากระโดดเข้าไปในบ่อ ตนเองจึงใช้จิตสำนึกวิญญาณ ตรวจหาแล้วไม่เจอเขา
เพราะบ่อน้ำเป็นสถานที่ที่มีอินชี่ (ทุกอย่างในร่างกาย ทั้งสสารหรือสภาวะการทำงานที่มีลักษณะ สงบนิ่ง ปรากฏอยู่ภายใน มีทิศทางลงล่าง หนาวหรือเย็น มีรูปร่างหรือมองเห็นได้ ความมืดทึม) แข็งแกร่งมาก
“คุณเป็นใคร? ทำไมถึงมาหลบอยู่ในบ่อน้ำบ้านผม?”
เฉินเกอขมวดคิ้วแล้วถาม
คนคนนี้ไม่คุ้นหน้าเลย เขาต้องไม่ใช่คนในตระกูลเฉินแน่
“คุณชายเฉิน ผมชื่อหลี่เหวิน เป็นผู้จัดการคนหนึ่งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจหัวเสหัวเซี่ย คุณชายเฉิน ได้พบคุณมันช่างดีงามเหลือเกิน!”
เห็นได้ชัดว่าชายอ้วนวัยกลางคนนึ้รู้จักเฉินเกอ เขาคุกเข่าลงด้วยความตื่นเต้นและร้องไห้ต่อหน้าเฉินเกอ
“หลี่เหวิน ทำไมคุณถึงมาหลบอยู่ในบ่อน้ำบ้านผม?” เฉินเกอถามด้วยความอยากรู้
“คุณชายเฉิน เพราะเขตเศรษฐกิจหัวเสหัวเซี่ย เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ผมติดต่อกับครอบครัวเฉินที่สำนักงานใหญ่ก็ติดต่อไม่ได้ มันยืดเยื้อไปเรื่อย ๆ แต่จากสายตาผมคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว แล้วมีคนบอกว่าบ้านเฉินเกิดเรื่องอีกประมาณนี้ สองวันก่อนผมก็เลยรายงานกับบ้านเฉิน แต่คิดไม่ถึงว่า เดินเข้ามาที่บ้านเฉินได้อย่างสะดวกโยธิน ไม่มีการ์ดอยู่ที่ประตูสักคนเดียว ผมเดินเข้ามาก็พบกับ...”
หลี่เหวิน อ้าปากค้างอย่างหนัก
“พบกับอะไร?”
เฉินเกอรีบถาม
เขาคุกเข่าและร้องไห้
“ดูแล้วเรื่องนี้ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะรู้ข้อมูลบางอย่างที่ซ่อนอยู่!”
เฉินผิงอันพูดขึ้น
เฉินเกอพยักหน้า: “ตอนนี้ผมต้องไปเอาตัวพวกเขามาสอบถาม”
“ไม่ต้อง อย่าเพิ่งสืบเรื่องนี้จนกว่าจะรู้รายละเอียดเรื่องนี้ เราอย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น พวกเขาแอบโยกย้ายทรัพย์สิน ฉันคิดว่าจะมีต้องมีปัญหา ผู้จัดการเขตของตระกูลเฉิน พวกเขาเป็นธุรกิจสืบทอดมารุ่นสู่รุ่น พวกเขาจงรักภักดีต่อตระกูลเฉิน ไม่มีทางจะทรยศ หากไม่ได้คิดว่าตระกูลเฉินกำลังตกอยู่ในอันตราย เรื่องนี้หากยังไม่มีน้ำลดตอผุด เสี่ยวเกอเธออย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเลย!”
เฉินผิงอันพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงพูด
และเฉินเกอที่กำลังพยักหน้ารับ ขณะเดียวกันเขาก็หันไปมองคุณลุง ด้วยความอยากรู้
“คุณลุง ผมพบว่าเหมือนคุณจะเข้าใจตระกูลเฉินของพวกเราเป็นอย่างดี?”
อยากได้ใคร่รู้ ความรู้สึกเช่นนี้สำหรับเฉินเกอแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งหรือสองครั้ง
“คุณลุง คุณรู้จักผมมานานแล้วใช่รึเปล่า? หรือว่าคุณรู้จักผมมาตั้งแต่เด็ก?”
เฉินเกอถาม
เฉินผิงอันส่ายหน้าแล้วยิ้ม: “เสี่ยวเกอ เธอพูดถูกเพียงครึ่งเดียว ฉันรู้จักเธอมานานแล้วจริง แต่ว่ากลับไม่ใช่ตอนที่เธอยังเด็ก ในตอนที่ฉันรู้จักเธอนั้น เธอโตเป็นผู้ใหญ่และเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว! แน่นอนว่าฉันเห็นเธอสิ่งที่เธอประสบทุกวันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย”
เฉินผิงอันไม่มีอะไรให้ปิดบัง
นี่กลับทำให้เฉินเกอรู้สึกตกใจจริง ๆ
“เพราะอะไรครับคุณลุง? คุณถึงได้แอบติดตามดูผม?”
เฉินเกอประหลาดใจ
“เปล่า จะพูดให้ถูก ฉันไม่ได้ติดตามดูเธอ!”
เฉินผิงอันเหมือนจะคิดอะไรได้ เมื่อพูดจบ ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆจริงจังขึ้น
“คุณลุง คุณเข้าใจผมอย่างทะลุปรุโปร่ง ทำไมถึงบอกว่าคุณไม่ได้ติดตามดูผมล่ะ?” เฉินเกอยิ่งไม่เข้าใจคุณลุง เข้าไปอีก
“อ้อ ก็เป็นเพราะ ฉันกำลังติดตามดูคนที่ตามดูเธออยู่ตลอดยังไงล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...