และพลังที่มีในตัวเขาทั้งหมด คาดไม่ถึงว่าจะน่ากลัวเช่นนี้
หลังจากที่เขาเห็นความเก่งของเฉินเกอแล้ว หลงเฟยเฟยก็จำเขาได้อย่างขึ้นใจ
ผู้คนที่มองอยู่โดยรอบ ก็ค่อยๆ สลายตัวไป
หลงเฟยเฟยเข้าไปใกล้ ใบหน้าแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม
“คิดไม่ถึงนายก็มีความสามารถด้านนี้ด้วย ทำให้ฉันต้องมองนายใหม่แล้ว ก่อนหน้านี้ที่ล่วงเกินนาย หวังว่านายจะไม่ถือโทษ!”
เมื่อได้ยินคำขอโทษของหลงเฟยเฟย มันทำให้เฉินเกออึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วทำท่ามือปฏิเสธ
“ฉันไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ!”
หลงเฟยเฟยพยักหน้า
“แบบนี้ก็ดีเลย!”
และในขณะนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดสูทสีขาว ก็ได้เดินมาถึงตรงหน้าของหลงเฟยเฟย แล้วเริ่มสนทนากับเธอ
เฉินเกอในเวลานี้ ก็ถอยออกห่างอย่างรู้ตัว
ในขณะที่เฉินเกอกำลังเซ็งๆ อยู่นั้น หางตาของเขา ก็ได้กวาดมองไปบนร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง
รู้สึกถึงความคุ้นเคยนี้
จากนั้น เขาก็เดินตรงไปยังผู้ชายคนนั้น
หลังจากที่มาถึงด้านหน้าของชายหนุ่ม ใบหน้าของเฉินเกอ ก็ปรากฏขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เขาคิดไม่ถึง ในประเทศหนานเยว่ เขาจะสามารถเจอกับเพื่อนรักของตัวเอง อย่างไป๋เสี่ยวเฟยได้
หลังจากที่ไป๋เสี่ยวเฟยรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ ก็หันหน้าไปมอง พบว่าเป็นเพื่อนรักของตัวเอง
ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มในทันที
“ฉันก็ว่าใครนะ ที่แท้ก็เป็นนายนี่เอง นายมาที่ประเทศหนานเยว่ได้ยังไง แล้วยังมาที่งานเลี้ยงของตระกูลโกวอีก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ ไป๋เสี่ยวเฟยก็ยกมือขึ้น และชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่อยู่ไม่ไกล
ผู้หญิงคนนี้เหมือนไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่บนโลกใบนี้(เหมือนอยู่บนสวรรค์) เธอสวมชุดเดรสสีขาว เกล้าผมด้วยเครื่องประดับเพชร แวววาวอยู่บนหัวของเธอ ดูแล้วก็รู้ว่าเป็นของที่มีค่ามีราคา
ไป๋เสี่ยวเฟยเอ่ยปากพูด “ฉันกำลังปฏิบัติภารกิจลับ ก็คือคุ้มกันผู้หญิงคนนี้!”
ได้ยินคำพูดของไป๋เสี่ยวเฟย เฉินเกอก็พยักหน้า ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
เขารู้ว่าภารกิจลับที่ไป๋เสี่ยวเฟยกำลังปฏิบัติ มีการรักษาความลับในระดับที่สูงมาก สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ผู้หญิงที่สวมชุดเดรสสีขาว ก็มาถึงตรงหน้าของไป๋เสี่ยวเฟย
เหลียงลู่ที่มาถึงด้านหน้า สายตาก็กวาดมองไปที่เฉินเกอ
ภายในสายตาที่ลึกๆ ของเธอ กลับมีความรู้สึกที่เฉยเมย
เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัย “นี่ใคร?”
ไป๋เสี่ยวเฟยตอบกลับ “คนนี้คือเพื่อนของผม”
เหลียงลู่พูดขึ้นอีกครั้ง “อยู่ในต่างประเทศ นายยังสามารถเจอกับเพื่อนได้ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ อย่างไรก็ตามนายก็อย่าลืมจุดประสงค์ที่เรามาที่นี่ หากให้หมาแมวรู้เรื่องของเรา แล้วเกิดผลเสียกับเรา นายก็ระมัดระวังตัวด้วยล่ะ”
“อีกอย่างการพูดคุยกับคนเช่นนี้ จะไม่เป็นการลดฐานะของเราเหรอ?”
หลังจากที่เหลียงลู่พูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป
แต่ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฟยกลับเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน
ยกมือขึ้นมาเกาที่ท้ายทอยของตัวเอง
เฉินเกอที่อยู่ถัดจากเขา สายตาเฉยเมยเล็กน้อย เหลือบมองเหลียงลู่ที่กำลังจะจากไป และกล่าวว่า “ดูแล้วภารกิจรอบนี้ของนายจะไม่ง่ายเลยนะ!”
ไป๋เสี่ยวเฟยกางมือ ราวกับจะบอกว่ามันก็ชัดเจนอยู่แล้ว!
ทั้งสองยังคงเดินอยู่บนเรือสำราญ และกำลังดื่มไวน์
ก็ในเวลานี้
ดังนั้น ท่าทีของเธอจึงได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เฉินเกอที่ถูกลากเข้ามาในกลุ่มคน สีหน้ามีความงุนงง
หลงเฟยเฟยที่อยู่ด้านข้าง เอาแต่แนะนำเฉินเกอให้เพื่อนของเธอรู้จักอย่างต่อเนื่อง
แต่เฉินเกอทักทายตอบด้วยการพยักหน้า
ในขณะนี้ ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดสูทสีเขียวเข้ม ก็เดินเข้ามาหาหลงเฟยเฟย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าว “น้องสาวคนนี้ พี่เห็นหน้าตาน้องสวยสดใสไม่เลวเลย ดื่มกับพี่สักแก้วสองแก้วจะได้มั้ย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม หลงเฟยเฟยก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง “ขอโทษด้วย ฉันดื่มเหล้าไม่เป็น!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฟยเฟย ชายคนนี้ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้ากลับปรากฏขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน แล้วกล่าว “น้องสาว พี่ขอเตือนให้น้องให้เกียรติพี่ด้วย ตามพวกเราไปที่ห้องวีไอพีข้างใน ดื่มเป็นเพื่อนพี่ดีๆ ไม่เช่นนั้น งานเลี้ยงในคืนนี้ อาจจะทำให้น้องไม่มีความสุข”
หลังจากได้ยินคำพูดของชายผู้นี้ หลงเฟยเฟยก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง จากนั้นตัวตนที่ดุร้ายและเอาแต่ใจของเธอก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน
สองมือเท้าสะเอว ใบหน้าที่ไม่แยแส เธอยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง ชี้ไปที่หน้าของชายผู้นี้แล้วด่ากราด
“แม่งเอ๊ยแกนึกว่าตัวเองเป็นใคร วันนี้กูไม่ดื่มกับมึง มึงจะทำอะไรก็กูได้?”
หลังจากที่เห็นพลังที่แข็งกร้าวของหลงเฟยเฟย บอดี้การ์ดชุดดำสองคนที่อยู่ข้างๆ ชายคนนั้น ก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว คลื่นพลังที่อยู่บนร่าง ก็ปะทุออกมา
“กล้าไม่ให้เกียรติคุณชายยีของเรา ดูเธอมันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ลงมือ!”
บอดี้การ์ดชุดดำสองคนนี้ ขณะที่พูดคำพูดเหล่านี้จบ ก็ได้ยื่นมือที่มีขนาดใหญ่ออกมา จะไปจับตัวหลงเฟยเฟย
เพียงแต่มือใหญ่สองข้างนี้ เพิ่งจะมาถึงตรงหน้าของหลงเฟยเฟยนั้น
เฉินเกอที่อยู่ด้านข้าง กลับเอียงกาย เข้ามาขวางไว้ตรงหน้าของหลงเฟยเฟย
“ชายร่างใหญ่สองคนจัดการกับผู้หญิงที่อ่อนแอคนเดียว เกรงว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะมั้ง!”
เห็นเฉินเกอก้าวออกมา ชายสวมชุดสูทสีเข้มก็ปรบมือขึ้นมา รอยเยาะเย้ยที่บนใบหน้าก็ลึกมากขึ้น
“กล้าทำเป็นเท่ต่อหน้าฉัน แสดงความเป็นวีรบุรุษ วันนี้หากไม่ต่อยจนแกต้องไปหาฟันที่ร่วงอยู่บนพื้น ฉันจะไม่แซ่ยี!”
บอดี้การ์ดชุดดำสองคน หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ของคุณชายยีแล้ว คิดจะดึงแขนของตัวเองกลับ กลับพบว่าแขนของตัวเอง ราวกับท่อนเหล็กสองอันพันด้วยกัน ทำให้พวกเขาขยับตัวไม่ได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...