ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 832

“ฉันจะไม่รู้หรือไง?” หลินเต้าเทียนเหลือบมองเขา

“ในเมื่อผู้อาวุโสไท้เสียงรู้ แล้วทำไม...” คนในตระกูลสับสน

“ก่อนหน้านี้ประเทศหนานเยว่ของเรามีสามตระกูลใหญ่เป็นหลัก นอกจากตระกูลโถ้ป๋าแล้ว ยังมีตระกูลจิน ตอนนี้เฉินเกอได้ทำลายตระกูลจินลงไปแล้ว อย่างนั้นก็เหลือเพียงพวกเราและตระกูลโถ้ป๋า ตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการกำจัดตระกูลโถ้ป๋า”

“ขอแค่เราสามารถใช้โอกาสนี้กำจัดตระกูลโถ้ป๋าได้ พวกเราก็จะเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศหนานเยว่ ในอนาคตจะไม่มีใครเทียบเราได้ในประเทศหนานเยว่”

หลินเต้าเทียนพูดอย่างเงียบๆ

“ผู้อาวุโสไท้เสียงต้องการร่วมมือกับเฉินเกอหรือ?” คนในตระกูลต่างตกใจ ไม่คิดว่าหลินเต้าเทียนจะคิดใช้ไม้นี้

ต้องรู้ว่า แม้ว่าทั้งสามตระกูลจะแข่งขันกันมาโดยตลอด แต่ภายนอกพวกเขากลับสงบนิ่ง อีกทั้งยังทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศหนานเยว่

แต่ถ้าคิดจะอาศัยประโยชน์จากการล่มสลายของตระกูลจิน ร่วมมือกับเฉินเกอเพื่อทำลายตระกูลโถ้ป๋า หากข่าวนี้ออกไป ตระกูลหลินก็จะกลายเป็นเป้าหมายของประชาชนประเทศหนานเยว่อย่างแน่นอน แม้ว่าจะได้กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของประเทศหนานเยว่ แต่นี่ก็เป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆราวกับดอกไม้ไฟ

เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องมีตระกูลและกองกำลังจำนวนนับไม่ถ้วนร่วมมือกัน แม้แต่หน่วยรบก็อาจลงมือ

“ใครบอกว่าฉันจะร่วมมือกับเฉินเกอ?” หลินเต้าเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจุดบุหรี่แล้วพูดเสียงเรียบ “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย จำเอาไว้ให้ดี อย่าให้ใครรู้เรื่องความร่วมมือกับตระกูลโถ้ป๋า”

“ครับ ผู้อาวุโสไท้เสียง” คนในตระกูลรีบพยักหน้ารับ

เมื่อคนของเขาจากไป ใบหน้าของหลินเต้าเทียนก็เผยรอยยิ้ม เขาตัดสินใจแล้ว นี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต แม้ว่าพลังวิชาของเฉินเกอจะสูงมากไปกว่านี้ แม้ว่าจะมีพลังจิตเทพเก้าภพ แต่นี่ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาและโถ้ป๋าหง

แต่ถ้าระหว่างการประมือเขาแอบใช้วิธีการบางอย่างอย่างลับๆ ก็อาจทำให้โถ้ป๋าหงตายภายใต้เงื้อมมือของเฉินเกอได้

ขอแค่ผู้อาวุโสโถ้ป๋าหงตายลง ความแข็งแกร่งของตระกูลโถ้ป๋าก็จะลดลงอย่างมากในเวลาอันสั้น ถึงเวลานั้น ก็จะเป็นโอกาสสำหรับตระกูลหลิน

หลังจากออกจากตระกูลหลิน โถ้ป๋าหงก็เดินอย่างเชื่องช้า

เขายังคงคิดเกี่ยวกับความตั้งใจที่แท้จริงของหลินเต้าเทียน

เมื่อเทียบกันแล้ว เขานั้นสนใจเรื่องความปลอดภัยของทั้งตระกูลโถ้ป๋ามากกว่า เรื่องของตระกูลจินถือว่าเป็นบทเรียนแล้ว เวลาเพียงแค่ 3 วัน พวกเขาถูกเฉินเกอที่ไม่เคยรู้จักทำลายล้างลงอย่างสมบูรณ์ อย่างนั้นตระกูลโถ้ป๋าของพวกเขาก็อาจจะมีจุดจบแบบเดียวกันได้ การที่พวกเขาร่วมมือกับหลินเต้าเทียน ถือเป็นเรื่องที่สุดท้ายก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี

สองวันต่อมา

เฉินเกอกำลังนั่งดื่มชาที่โต๊ะกลม ในสมองกำลังคิดหาวิธีจัดการกับตระกูลทั้งสองที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นก็ได้ทราบข่าวจากพวกเขา ว่าได้ช่วยท่านซินแสกุ่ยและคนรับใช้ในตำหนักสวนหยางออกมาแล้ว

“เฉินเกอ ฉันเพิ่งได้ข่าวมาว่า ตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋าได้ร่วมมือกันแล้ว และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับนาย” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ดื่มชาจนหมดถ้วย จู่ๆไป๋เสี่ยวเฟยก็เปิดประตูเข้ามาและพูดอย่างเร่งรีบ

“โอ้” เฉินเกอไม่แม้แต่จะเงยหน้าและกล่าวอย่างแผ่วเบา

"เฉินเกอ ตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋า เป็นตระกูลที่ดีที่สุดในประเทศหนานเยว่ จุดแข็งของพวกเขานั้นเทียบได้กับตระกูลจิน เมื่อทั้งสองตระกูลร่วมมือกันขึ้นมา พวกเราก็อาจจะไม่ใช่คู่มือ" เมื่อเห็นท่าทีที่เฉยเมยของเฉินเกอ ไป๋เสี่ยวเฟยรีบเปิดปากของเขา

“ฉันรู้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน” ใบหน้าของเฉินเกอมีรอยยิ้มจาง ๆ ประดับอยู่

“อย่างนั้นพวกเราควรทำอย่างไร?” ไป๋เสี่ยวเฟยไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินเกอถึงยังนิ่งเฉย แม้เขาจะรู้ว่าเฉินเกอนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่นี่เป็นการร่วมมือกันของสองตระกูลชั้นนำ

“คุณเฉิน ข้างนอก มีคนกำลังมา...” เมื่อเห็นเฉินเกอกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น พ่อบ้านก็หอบหายใจและพูดอย่างรวดเร็ว

“ใคร?” ดวงตาที่แต่เดิมสงบนิ่งของเฉินเกอเปลี่ยนเป็นเฉียบแหลมขึ้นมาทันใด

มาถึงหน้าประตูในเวลานี้ มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น ก็คือคนของตระกูลจินที่ตนไม่ได้เก็บกวาดให้ราบคาบคิดจะมาเพื่อแก้แค้น หรือไม่ก็เป็นตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋าที่ส่งสารมาเพื่อให้ตัวเองยอมรับคำท้า

“เป็นผู้นำหลี่กั๋วจุน” พ่อบ้านตัวสั่นในขณะที่เอ่ยพูด

เขาเป็นเพียงคนธรรมดา ปกติเคยเห็นหลี่กั๋วจุนแค่ในทีวีและหนังสือพิมพ์เท่านั้น ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อนเลยสักครั้ง

“โอ้?” เมื่อได้ยินคำพูด ใบหน้าของเฉินเกอก็ปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ และหันไปพูดกับไป๋เสี่ยวเฟย “พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาจริงๆ”

“พี่เฉิน นั่นคือหัวหน้าของหน่วยรบของประเทศหนานเยว่เชียวนะ” ไป๋เสี่ยวเฟยไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนเฉินเกอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้นำของประเทศ เขาย่อมมีความกลัวอยู่บ้างโดยธรรมชาติ

“เขามีลูกตามากกว่าฉันหรือไงกัน?” เฉินเกอยิ้มและโบกมือ จากนั้นก็เดินไปที่ทางประตู

คำพูดก็พูดไป แต่ในเมื่อท้ายที่สุดแล้วตำแหน่งของหลี่กั๋วจุนก็ยังคงอยู่ที่นี่ ดังนั้นเรื่องพื้นฐานอย่างการไปต้อนรับที่หน้าประตูนั้นยังคงจำเป็นต้องมีอยู่

ทันทีที่เฉินเกอเดินนำไป๋เสี่ยวเฟยและพ่อบ้านออกจากประตูคฤหาสน์ เฉินเกอก็เห็นรถสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ที่ประตู ทันทีที่รถหยุดลง ก็มีบอดี้การ์ดสี่หรือห้าคนลงมา จากนั้นก็สอดส่องไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง

ภายใต้การคุ้มครองของพวกเขา หลี่กั๋วจุนก็เปิดประตูและลงมา

“คุณเฉิน ได้ยินเกี่ยวกับคุณมานานแล้ว” หลี่กั๋วจุนมองเฉินเกออย่างประเมินจากนั้นจึงประสานมือเอ่ย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน