คนที่ตบแน่นอนว่าต้องเป็นเมิ่งไฉ่หรู
ไม่รู้ว่าเธอมาตอนไหน จ้องมาที่เฉินเกอดวงตาถมึงทึง
“เฉินเกอ เธอพูดมาว่าฉันจะต้องว่าเธอว่าอะไรดี ตอนนี้เธอนี่ยิ่งอยู่ยิ่งไร้ประโยชน์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว ใช้ให้เธอทำความสะอาด เธอกลับแอบเล่นโทรศัพท์ เฮ้อ เธอรู้หรือเปล่า เธอก็แค่ถูกรางวัลลอตเตอรี่เท่านั้น ส่วนคนที่เขามีเงินมีทองกันจริงๆน่ะ ในเวลานี้เขาทำตัวเรียบง่ายแล้วก็ทำงานหนักกันทั้งนั้น ฉันจะบอกอะไรเธอนะเฉินเกอ เธอไม่มีเงินที่จะไปสู้กับพวกเขา แถมตอนนี้ความคิดและความเคยชินของเธอจะทำให้เธอไม่ไปไหนหรือตกต่ำลงไปอีก!”
โดนตบเสร็จก็ตามมาด้วยคำด่าชุดใหญ่ของเมิ่งไฉ่หรู
น้องแกสิ!
ถ้าไม่ใช่เพราะเพิ่งจะเพิ่มเมิ่งไฉ่หรูในวีแชทส่วนตัว เฉินเกอก็จะด่ามันในตอนนี้เลย
แต่ว่านะ แค่คิดว่าในชีวิตจริงเมิ่งไฉ่หรูทำแบบนี้กับตัวเอง แต่บนวีแชทกลับทำกับตัวเองแบบนั้น
เฉินเกอก็เกิดความคิดชั่วร้ายแถมมีความสนุกสนานอยู่ในใจ
ดูโรคจิตนิดๆใช่ไหมล่ะ แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่เลวเลย
เฉินแกไม่ได้พูดอะไร รีบกวาดห้องของเมิ่งไฉ่หรูให้สะอาด
แล้วก็กลับหอ
บนทางกลับ
เมิ่งไฉ่หรูส่งข้อความทางวีแชทมาหาเฉินเกออีกครั้ง “อัยหยา ผิงผัน เธอว่าโชคชะตาจะลิขิตให้นักเรียนบางคนเป็นนักเรียนที่ไร้ศักยภาพหรือเปล่านะ เฮ้อ ในห้องของครูมีเด็กคนหนึ่งชื่อเฉินเกอ ไม่รู้ว่าเธอรู้จักไหม เขานะ เป็นประเภทคนจนต่ำต้อย เป็นคนขี้แพ้ที่แค่เห็นก็รู้สึกขยะแขยง!”
“แต่ว่านะ เหมือนกับฟ้าไม่มีตาอย่างนั้น ให้เขาถูกลอตเตอรี่่ เธอไม่รู้หรอกว่าเขาดีใจขนาดไหน แต่ว่าความประพฤติต่างๆของเขา ต่อให้เขาตั้งใจเรียนอย่างหนักเขาไม่มีทางมีอนาคตอะไรแน่ๆ! ร้อนใจจังเลย ทำไมครูจะต้องมาดูแลนักเรียนแบบนี้ด้วยนะ!”
เมิ่งไฉ่หรูส่งข้อความที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจของตัวเองมาติดๆกันสองข้อความ
ถึงแม้จะรู้สึกสนุกเป็นบ้า แต่แค่ดูก็ทำให้เฉินเกอโมโห
เมิ่งไฉ่หรูเอ๋ยเมิ่งไฉ่หรู ยังไงฉันก็เป็นนักเรียนของคุณนะ หลายปีนี้ คุณบอกให้ฉันทำอะไรฉันก็ทำ
พอถึงตอนนี้ ฉันในใจของเธอ ก็คือนักเรียนที่ทำให้เธอขยะแขยงจนไม่สามารถขยะแขยงได้อีก?
“คุณมันคนชั้นต่ำ!”
เฉินเกอพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“หา? มีอะไรหรือเปล่า? ผิงผัน โถ่ ครูรู้ ครูเป็นที่ปรึกษาของเขาไม่ควรจะว่านักเรียนคนหนึ่งอย่างนี้ แต่ว่าถ้าเธอเคยเจอเขาบ้างก็จะเข้าใจเอง ก็แค่หน้าตาดูดีอยู่หน่อย จริงนะ นอกจากพวกนี้ เขาก็ไม่มีอะไรอีก!”
เมิ่งไฉ่หรูโดนด่าแล้วก็ยังไม่กล้าด่ากลับ
กลับอธิบายเพิ่มต่ออีก กลัวว่าจะทำให้ผิงผันมีความรู้สึกไม่ดีต่อเธอ
เหอๆ ถ้าเกิดว่าปล่อยให้เธอรู้ว่าคนที่เธอกำลังคุยอยู่ด้วยคือนักเรียนที่เธอขยะแขยงนักขยะแขยงหนา ไม่รู้ว่าเธอจะมีสีหน้ายัง?
เฉินเกอยิ้มอ่อน
ตอบสับเปลี่ยนไปมาหลายประโยค เสร็จแล้วก็กลับหอพัก
วันนี้เป็นศุกร์ ไม่มีคาบเรียนแล้ว
ถ้าตามปกติ พวกหยางฮุยจะต้องไปขลุกกันอยู่ที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่
แต่ว่า เพราะว่าวันนี้ช่วงบ่ายหานเฟยเอ๋อถ่ายทอดสด แถมยังเป็นแบบที่กินพลังงานไปมาก
ดังนั้นวันนี้ทุกๆคนก็เลยรวมตัวกันดูถ่ายทอดสดอยู่ที่หอ
“ครั้งนี้หานเฟยเอ๋อจะต้องได้อยู่ในลิสต์ดาราอย่างไม่ต้องสงสัย ว้าว เงินเดือนเดือนนี้ประมาณแสนกว่าๆเลย พี่ผิงผันโคตรเจ๋ง แค่ยกมือก็สามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งดังได้แล้ว!”
“หา! ต่อไปหานเฟยเอ๋อก็จะเป็นเน็ตไอดอลจริงๆแล้วนะสิ มีเงินให้รูดใช้ แล้วดูพวกเรา ยังไม่รู้ว่าจะไปฝึกงานที่ไหนดีเลย! เฮ้อ......”
เพิ่งจะถึงหอพัก ก็ได้ยินเสียงของหยางฮุยกับหลี่ปินคุยกัน”
จะว่ายังไงดี ความอิจฉาที่มีความริษยาปนมาด้วย
ผู้ชายไม่สามารถหาเงินได้เท่าผู้หญิงคนหนึ่ง ยังไงก็ตามมันทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกไร้พลัง
ผลลัพธ์แบบนี้ เฉินเกอพอจะเดาออก
เพราะว่าเงินสนับสนุนของตัวเขาเองหานเฟยเอ๋อโดนผู้ดูแลประกาศลงในหน้าจอสาธารณะใหญ่โต
ก็เท่ากับว่ากำลังโดนโปรโมตไปเลยโดยตรง
ตอนที่ตัวเขาออกมาจากช่องถ่ายทอดสดของหานเฟยเอ๋อ ผู้ติดตามของเธอเกือบจะทะลุเจ็ดหมื่นคนแล้ว
เป็นอย่างนี้ แค่เฉพาะเงินที่แฟนคลับให้ ไหนจะที่สามารถดึงดูดได้จากพวกคนใหญ่คนโตอีก ก็พอที่จะทำให้เธอชนะได้ตลอดแล้ว เป็นคนที่มีอิทธิพลบนแอพแอพสตูดิโอถงเฉิง
เย็นนี้ที่เธอแข่งขันแล้วได้อันดับหนึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าสงสัยอีกต่อไปแล้ว
“ไอ้เฉิน นายกลับมาแล้วเหรอ! อ๋อใช่ วันนี้ตอนบ่ายที่พวกเราไปเอาพัสดุ มีพัสดุอันหนึ่งเป็นของแก ข้างในเหมือนเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งนายลองเอาไปดู!”
หยางฮุยพูดไปพลางก็ส่งพัสดุเล็กๆมาให้
เฉินเกอกำลังสงสัย รับมาแล้วก็ล้มตัวนอนลงไปบนเตียง
ที่แท้ก็ไม่ใช่อย่างอื่น เป็นตั๋วเข้างานเลี้ยงบนเรือสำราญหาดทรายทองหยุนก่างหนึ่งใบ
คนที่ส่งพัสดุมาคือหลินยียี
พวกไป๋เสี่ยวเฟยล่ะ กลับถึงเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านั้นแล้ว
บวกกับเฉินเกอยังไม่ชินทาง ดังนั้นเขาก็เลยตัดสินใจไม่ขับรถแต่กลับนั่งรถไฟไปแทน
ตอนแปดโมงเช้า ก็ถึงประตูทางเข้าหาดทรายทองแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ช่วยแสดงบัตรเข้างานด้วยค่ะ!”
เพิ่งจะถึงประตู เฉินเกอก็โดนพนักงานต้อนรับที่สวยมากๆรั้งตัวเอาไว้
เธอยกมือขึ้นมาขอตั๋วจากเขา
แถมสายตาที่คนสวยมองมา กลับกำลังมองเฉินเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า
เพราะว่าเฉินเกอตอนนี้เพิ่งอาบน้ำใหม่และใส่ชุดแต่ก่อนของเขา ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไงก็คงจะทำให้คนสวยมองเห็นเป็นพวกบ้านนอกที่เพิ่งจะเข้ากรุง?
ตอนนี้ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะไพเราะใจดี แต่ว่าสายตากลับดูเหมือนกำลังไล่คน
ราวกับว่า ถ้ามีก็รีบเข้าไป ถ้าไม่มีก็รีบไสหัวออกไป!
ทำไมเฉินเกอจะมองสายตาดูถูกของพนักงานต้อนรับหญิงไม่ออก ไม่เข้าใจจริงว่าใช้มารยาทแบบไหนมาต้อนรับ ทำไมถึงได้มีมารยาทเหมือนๆกันไปหมด?
เหอะๆ
ครั้งนี้เฉินเกอไม่กลัว มือหนึ่งหยิบตั๋วออกมา อีกมือหนึ่งหยิบโทรศัพท์ เตรียมจะโทรหาไป๋เสี่ยวเฟยที่กำลังเล่นอยู่ด้านใน!”
เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
“คุณ......”
พนักงานต้อนรับคนสวยโมโหเป็นอย่างมากที่โดนเฉินเกอเมิน แต่ว่าดูตั๋วเข้างานกลับไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้เธอจะสงสัยว่าจะเป็นของปลอมหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีหลักฐาน
แต่ในเวลานี้ พนักงานต้อนรับคนสวยก็กลับมายืนขึ้นอีกครั้ง
เพราะว่าในเวลานี้ มีรถหรูมากมายกำลังทยอยจอดกันตรงหน้าประตู จากนั้นก็มีคู่วัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่งลงมาจากรถ
“ฮ่าๆ สองวันนี้มีคุณชายมากันไม่น้อยเลย จะได้หาเพื่อนเพิ่ม ส่วนคุณหนูก็มากันเยอะเหมือนกัน!”
“สันดานนี่น้า รู้จักแต่ที่จะหาสาวขาวรวยสวยอย่างเดียวเลยนะ บ้านนายมีแค่ทรัพย์สินไม่กี่พันล้านไม่ใช่เหรอ? ยังจะมาหวังสาวๆที่ขาวสวยรวยอีก เหอะๆ!”
คนจำนวนหนึ่งเดินมาหยอกล้อ แล้วก็หยิบตั๋วเข้างานของตัวเองออกมา
ทันใดนั้น ผู้ชายคนที่เอาแต่พูดว่าจะหาผู้หญิงที่สวยรวยขาวก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ไอ้สาด พวกนายมีใครเห็นตั๋วเข้างานของฉันบ้าง? หายไปได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...