เฉินเกอไม่ได้ลังเลเลย รีบเดินเข้าไปข้างในของทางเดินทันที
ทางเดินนี้เดินผ่านสามารถเดินผ่านได้แค่คนเดียว ตอนที่เฉินเกอเดินเข้าไปข้างใน ไหล่ทั้งสองข้างของยังติดกำแพงทางเดิน โชคดีที่ไม่ได้แคบมาก เมื่อเดินเข้าไปข้างใน มันก็ไม่ได้ถูกขัดขวาง
เฉินเกอสงสัยอย่างมาก สงสัยว่าทำไมด้านในภูเขาถึงมีแสงสว่างส่องออกมา
เฉินเกอรีบเดินตามทางเดินเข้าไปด้านใน พร้อมกับความสงสัยในใจ และขณะที่เดิน ในใจก็มีความกังวลปรากฏขึ้น มันก็ไม่ใช่ว่าเพราะกลัว แต่มันเป็นคำเตือนถึงความอันตรายจากสัญชาตญาณของร่างกาย
เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินเกอก็ระดมพลังเทพจิตเก้าภพ เพื่อที่ว่าแม้ว่าจะเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด ก็สามารถจัดการมันได้อย่างง่ายๆ
หลังจากผ่านไปกว่าสิบนาที เฉินเกอก็หันไปมอง เขาไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านนอกตัวภูเขาได้อีกต่อไป สามารถมองเห็นเพียงผืนป่าที่ทางออกเท่านั้น
“ใครกันที่กล้าบุกรุกเข้ามาในซากโบราณสถาน?!”
ทันใดนั้น ด้านในภูเขาก็ดังสะท้อนด้วยเสียงที่แหบแห้งเสียงหนึ่ง
“ใครน่ะ?”
เมื่อได้ยินเสียง เฉินเกอก็ขมวดคิ้วในทันที พร้อมกับตะโกนถาม
“ไม่ใช่คนในตระกูลหลี่ของเรา ยังกล้าบุกเข้ามาในซากโบราณสถาน ถ้าอย่างนั้นก็จงอยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ!” เพิ่งจะสิ้นเสียงของเฉินเกอ น้ำเสียงที่แหบแห้งเหมือนคนอายุเจ็ดแปดสิบก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ตามติดมาด้วย แสงบนภูเขาที่สามารถส่องสว่างทางเดินก็พร่ามัว ในสถานการณ์ที่เฉินเกอมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากส่วนที่ลึกที่สุดของภูเขาเริ่มพร่ามัว ราวกับว่าควันกำลังลุกลามเข้ามา
เฉินเกอก็เข้าใจในทันที น่าจะเป็นเพราะซากโบราณสถานมีคนเฝ้าอยู่ หรือเพราะตัวเองฝ่าเข้ามาแล้วไปโดนค่ายกลอะไรเข้า
ตอนนี้ภาพไห่ซินมีความไปได้ที่จะเก็บไว้ที่นี่ หากถอยกลับในเวลานี้ แม้ว่าฉันจะมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง แต่ถ้าอยากจะเข้ามาอีกครั้งก็จะเป็นไปได้ยาก ถ้าหากฝ่าควันหมอกเข้าไป ต้องเจออันตรายอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะได้ภาพไห่ซิน
เฉินเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็วิ่งฝ่าเข้าไป
มีพลังเทพจิตเก้าภพเป็นตัวคุ้มกัน เฉินเกอไม่ได้กลัวค่ายกลที่อยู่ในภูเขาเลย ภาพไห่ซินมีความเกี่ยวข้องกับการตามหาคนในครอบครัวของตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งภาพไห่ซิน เขายอมที่จะเสี่ยงอันตราย
เมื่อคิดทำความเข้าใจแล้ว เฉินเกอก็บุกเข้าไปโดยตรง
ไม่นานร่างกายของเขาก็ถูกฝุ่นควันห่อหุ้มเอาไว้ เฉินเกอไม่ได้กลั้นหายใจ แต่ได้ปล่อยพลังเทพจิตเก้าภพออกมา มันได้ก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีทองครอบอยู่รอบตัวเขา สามารถป้องกันสารพิษและเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายในไม่กี่นาที เฉินเกอรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอกโดยตรง หลังจากผ่านทางเดินแคบๆ ก็มีพื้นที่ว่างอยู่ข้างหน้าเขา และฝุ่นควันที่กระจายอยู่ตรงทางเดินเมื่อกี้ มันได้กระจายออกจากตาของหินที่อยู่ข้างหน้าเขา
เฉินเกอหรี่ตาลง กวาดมองสถานการณ์โดยรอบอย่างระมัดระวัง
ตรงนี้ดูแล้วไม่เหมือนว่าสร้างมาจากน้ำมือของคน แต่เหมือนกับว่ามันค่อยๆถูกกัดเซาะจากเวลาหลายหมื่นปี ในถ้ำกว้างขวางมาก มันแทบจะไม่มีอะไรเลย สิ่งเดียวที่เห็นคือ มีลำธารที่มีน้ำไหลรินอยู่ข้างหน้า
ถึงขนาดที่ว่าแสงสว่างนั้นส่องมาจากไหนยังไม่รู้เลย ในถ้ำที่ควรจะมืด มันดูสว่างเป็นพิเศษโดยไม่รู้สาเหตุ และข้างบนก็ไม่มีช่องว่างที่สามารถให้แสงผ่านทะลุเข้ามาได้
“ใครอยู่ข้างใน?”
คิดถึงเสียงที่ดังขึ้นเมื่อกี้ เฉินเกอจึงตะโกนถาม
แต่ครั้งนี้ ไม่ว่าเฉินเกอจะตะโกนยังไง สุดท้ายแล้วก็มีเสียงอะไรตอบกลับมาเลย
เฉินเกอยืนอยู่กับที่ไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินตรงไปข้างหน้า ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เขาต้องค้นดูหน่อย เพื่อดูว่าจะสามารถหาภาพไห่ซินเจอมั้ย
“แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้พลังเทพจิตเก้าภพที่อยู่ในตัวฉัน?” เฉินเกอระวังตัวขึ้นมาในทันที คนที่รู้พลังเทพจิตเก้าภพในตัวเองนั้นมีน้อยมาก และในประเทศหนานเยว่คนที่รู้ ก็ได้ถูกตัวเองกำจัดไปแล้ว
และตัวเองตอนที่เข้ามาในถ้ำ ก็ปล่อยมันออกมาแค่ครู่เดียว อีกฝ่ายยังสามารถสัมผัสมันได้
มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่าง อย่างแรกคืออีกฝ่ายคุ้นเคยกับพลังเทพจิตเก้าภพเป็นอย่างดี อย่างที่สองคือความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นต้องล้ำหน้าตัวเองไปไกลมาก เพียงแวบเดียวหรือเพียงสัมผัสเดียว ก็สามารถเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน
“น้องชายอย่าเพิ่งลงมือ ฉันจะออกมาเจอนาย!” เสียงของชายชราดังขึ้นมาอีกครั้ง
ทันทีหลังจากนั้น กำแพงหินที่อยู่ไม่ไกลตรงหน้าของเฉินเกอจู่ๆก็แตกออกมาเป็นบานประตู และชายสูงอายุที่ถือไม้เท้าก็เดินออกมาจากด้านในอย่างช้าๆ
ผมเขาหงอกทั้งหัว ร่างกายโค้งงอ ดูแล้วเหมือนคนที่ใกล้จะตาย เสมือนว่าเขาอาจจะล้มลงกับพื้นและตายได้ทุกเมื่อ
เขาเดินออกมาจากในประตู ถือไม้เท้าเดินมาตรงหน้าของเฉินเกอ ใช้เวลาไปเกือบสิบนาที
เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าเฉินเกอ ชายชราก็มองสำรวจเฉินเกออย่างละเอียด จากนั้นก็เอื้อมมือที่แห้งเหี่ยวไปจับที่แขนของเฉินเกอ
“ไอ้หนุ่ม นายลองเคลื่อนไหวมันดูหน่อย” ชายชราเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่พร่ามัวจับจ้องไปที่เฉินเกอ
เฉินเกอมีความระวังตัวเล็กน้อย แต่ดูชายชราไม่เหมือนคนที่คิดจะลงมือทำร้ายตัวเอง ก็เลยเคลื่อนไหวพลังเทพจิตเก้าภพไปครู่หนึ่ง
“บนตัวในมีพลังเทพจิตเก้าภพจริงๆด้วย ฉันดูไม่ผิด!” สัมผัสถึงพลังที่อยู่ภายในของเฉินเกอ เสียงที่แหบแห้งของชายชราก็หัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็ใช้แรงคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวคำนับเฉินเกออย่างสุภาพ
เฉินเกออึ้งไปเล็กน้อย หลายวินาทีผ่านไป ถึงได้รู้สึกตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...