"อย่างนั้นก็น่าแปลงแล้ว หลิงอาผิงทะเลาะกับพวกคุณเมื่อวานนี้ จากนั้นวันนี้ก็หายตัวไปต่อหน้าพวกเรา เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขให้ชัดเจน ฉันเองก็ไร้หนทางจะอธิบายให้หน่วยรบของโวกั๋วฟัง!" ผู้รับผิดชอบลูบผมของตน ตอนแรกเขาแค่คิดว่าจะนี่เป็นแค่การต่อสู้ไม่เป็นมิตรกันก็เท่านั้น
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เป็นครั้งคราวสำหรับการแข่งขันกองกำลังพิเศษ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะไปให้ความสนใจ แต่ตอนนี้มีคนหายตัวไป และอาจถึงขั้นถูกฆ่าตายไปอย่างลับๆแล้วด้วยซ้ำ เรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก และอาจทำให้เกิดความโกลาหล ผู้รับผิดชอบอย่างเขามีหน้าที่รับผิดชอบหลัก ดังนั้นการลาออกยังถือเป็นแค่โทษสถานเบา และหากเรื่องหนักหนาขึ้นมาก็อาจต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วย
"นี่คือสิ่งที่พวกนายจะต้องทำการสอบสวน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา" ไป๋เสี่ยวเฟยโบกมือและเอ่ย เขาสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ กองกำลังพิเศษของหนานเยว่ผู้นี้เกรงว่าคงถูกเฉินเกอจัดการไปแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และอย่าสร้างปัญหาให้เฉินเกอ
"อย่างนั้นก็ดี พวกคุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ แต่ว่าถ้ามีเรื่องอะไรจะต้องมารายงานฉันอย่างทันท่วงที" ผู้รับผิดชอบงานไม่มีทาง
สถานที่แห่งนี้เพิ่งสร้างขึ้นมา อีกทั้งยังไม่มีกล้องวงจรปิด เรื่องนี้จึงได้แต่ต้องค่อยๆตรวจสอบไปเท่านั้น อีกทั้งเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะรายงานไปยังหน่วยรบ ทหารหน่วยรบพิเศษของหนานเยว่คงไม่มีทางหายตัวไปได้อย่างไร้สาเหตุ แม้ว่าเขาจะถูกฆ่า ก็จะต้องมีร่องรอยทิ้งไว้แน่ ถึงเวลานั้น ขอแค่จับฆาตกรได้ ก็จะสามารถให้คำอธิบายกับหน่วยรบและหนานเยว่ได้
อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักฐาน เขาจะเอาเรื่องนี้ไปโทษไป๋เสี่ยวเฟยก็ไม่ได้ ต้องรู้ด้วยว่า ตอนนี้โวกั๋วไม่สามารถไปยั่วยุหัวเซี่ยได้อย่างง่ายๆ เขาซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบก็รู้สถานการณ์เรื่องนี้ดี
"ไม่มีปัญหา เราจะให้ความร่วมมือกัน" ไป๋เสี่ยวเฟยพยักหน้าเบา ๆ
กลับมาที่ห้อง ไป๋เสี่ยวเฟยก็ปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด จากนั้นก็ดึงผ้าม่านขึ้น
"พี่เฉิน นายกำจัดกองกำลังพิเศษของโวกั๋วไปแล้วจริงๆ หรือ?" ไป๋เสี่ยวเฟยถามต่อหน้าเฉินเกอทันที
เมื่อคืนเขาอยู่ข้างในตลอดเวลา และได้ยินเสียงแผ่วเบามาจากด้านนอก แม้ว่าเขาจะเดาได้บ้างว่าเฉินเกอทำอะไรลงไป แต่เขาก็ยังมีความกังวลอยู่บ้าง ต้องรู้ก่อนว่านี่กำลังเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันกองกำลังพิเศษ หากมีพิรุธอะไรหลุดออกไป ก็จะต้องสร้างความยุ่งยากให้กับหัวเซี่ยแน่ ส่วนเขาที่เป็นตัวแทนกองกำลังพิเศษของหัวเซี่ยมาเข้าร่วม ก็จะต้องแบกรับผลที่ตามมา
"แน่นอน" เฉินเกอยิ้มจาง ๆ
"คงไม่เหลือร่องรอยอะไรใช่หรือไม่?" เมื่อได้ยิน ไป๋เสี่ยวเฟยก็ยังคงถามต่อไป
"นายสงสัยในพลังของฉันงั้นหรือ?" เฉินเกอจุดบุหรี่และถามด้วยรอยยิ้ม
"ไม่อย่างแน่นอน ฉันแค่กังวลว่าพวกเขาจะรู้ ยังไงเสียที่นี่ก็คืออาณาเขตของโวกั๋ว หากเกิดปัญหาใดๆขึ้นมา ฉันเกรงว่าหัวเซี่ยจะต้องมาแบกรับผลที่ตามมาไปด้วย" ไป๋เสี่ยวเฟยส่ายหัว เขาก็แค่มีเพียงความรู้สึกรับผิดชอบต่อหัวเซี่ยที่เพิ่มขึ้นมา หากเป็นในยามปกติ เขาคงจะไม่ถามด้วยซ้ำ
"ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการทุกอย่างแล้ว ไม่ทำให้นายลำบากแน่" เฉินเกอเข้าใจความกังวลของไป๋เสี่ยวเฟยและตบไหล่เขา
"อย่างนั้นผมก็วางใจ!" ได้ยินเฉินเกอพูดเช่นนั้น ไป๋เสี่ยวเฟยก็โล่งใจ
ส่วนทางฝั่งโวกั๋ว แม้ว่าผู้รับผิดชอบงานจะไม่ได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวต่อหน่วยรบของโวกั๋ว แต่ก็กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ พวกเขาค้นหาทั่วสนามฝึก ไม่เพียงแต่ไม่พบกองกำลังพิเศษขอหนานเยว่ผู้นั้น แต่ยังถึงขั้นที่สืบสวนไม่พบเบาะแสใดๆเลยสักนิด
ในสำนักงาน ผู้รับผิดชอบงานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือทีมกองกำลังพิเศษของหน่วยรบเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสถานที่
เดิมทีนี่เป็นโอกาสที่ดี ตราบใดที่สามารถจัดการแข่งขันกองกำลังพิเศษได้อย่างปลอดภัย เขาก็จะได้ผลงานมาส่วนหนึ่ง ปลายปีก็จะสามารถได้เลื่อนยศทหาร แต่ตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องการเลื่อนยศแล้ว ไม่แน่เขาอาจต้องถูกลดตำแหน่งด้วยซ้ำ
"เข้าใจแล้วครับ คุณโคมุระ!" กองกำลังพิเศษหลายคนพยักหน้ารับคำ
"รีบไปสืบสวนซะ มิฉะนั้นต่อให้หน่วยรบไม่เอาเรื่องนาย ฉันนี่แหละที่จะเอาเรื่องพวกนาย ปล่อยให้กองกำลังพิเศษจากหนานเยว่หายตัวไปอย่างลึกลับในการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยโวกั๋ว หากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะเป็นที่ขายขี้หน้าขนาดไหน! " ผู้รับผิดชอบงานส่ายหัวและถอนหายใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเลย
ฝูงชนไม่พูดไม่จาและรีบออกไปด้านนอกทันที
ในพริบตาก็เป็นเวลาสองวันผ่านไป พวกเฉินเกอทั้งสามคนนอกจากกินข้าวแล้วทั้งหมดก็ล้วนอาศัยอยู่ในห้องพัก ผู้รับผิดชอบงานเองก็เคยมาหาสามสี่ครั้ง แต่ทุกครั้งไป๋เสี่ยวเฟยล้วนพูดว่าไม่รู้อะไรทั้งสิ้น เขาเองก็ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องกลับไปมือเปล่า
และในวันที่สามนั้นเอง ทหารทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ได้รับข้อความจากหน่วยรบของโวกั๋วเพื่อแจ้งสถานที่จัดการแข่งขันจะย้ายไปที่อื่น อีกทั้งยังให้กองกำลังพิเศษจากประเทศต่างๆหาที่พักของตนเอง ซึ่งสามารถเบิกค่าใช้จ่ายคืนจากหน่วยรบได้ ของโวกั๋วได้
เห็นได้ชัดว่า เมื่อไม่พบเฉินอาผิงหรือเบาะแสใด ๆ ผู้รับผิดชอบงานก็ได้แต่ต้องแจ้งเรื่องนี้ให้หน่วยรบของโวกั๋วรู้เรื่อง
ดังนั้นหน่วยรบของมโวกั๋วจึงได้แต่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...