ก่อนที่จะมา เขาคิดว่าเขาอาจจะรู้อะไรบางอย่างจากเฉินเกอได้บ้าง แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์ใดๆ เลยและเป็นการเสียเวลาเปล่าเท่านั้น
"คุณเฉินเกอ อย่างนั้นคุณช่วยทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ได้ไหม บางทีเราอาจจำเป็นต้องคุยกับคุณในอนาคต แต่คุณไม่ต้องกังวล มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณหรือไม่ทำให้ลำบากแน่!" หลังจากถอนหายใจ อิจิโร่ โนดะก็ลุกขึ้นยืน
"ได้แน่นอน ผมยินดีช่วยพวกคุณอย่างเต็มที่!" เฉินเกอสะบัดขี้บุหรี่ในมือและพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ แล้ว เฉินเกอก็ออกจากห้องสอบสวน
แต่เมื่อออกมา ร่างของเฉินเกอก็ชะงักไปเล็กน้อย ในการรับรู้ของเขา ขู่ๆ ก็มีกลิ่นอายของคนแปลกหน้าที่ตนคุ้นเคยปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ
ไม่ผิด
กลิ่นอายที่คุ้นเคย
คนแปลกหน้า
นี่เป็นผู้ฝึกฝน แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง แต่เฉินเกอก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของเขาออกจะคุ้นเคยอยู่บ้าง ราวกับว่าเคยพบที่ไหนสักแห่ง แต่เขาก็จำไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม เฉินเกอไม่ได้ใส่ใจอะไร ท้ายที่สุดก็เป็นแค่เพียงผู้ฝึกฝนคนหนึ่ง และไม่สามารถสร้างความคุกคามต่อตนได้ อีกทั้งเขาก็ได้พบกับผู้ฝึกฝนมากมาย และไม่ใช่ทุกคนที่เป็นศัตรูกับตัวเอง บางทีอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
"คุณเฉินเกอ คุณต้องการอะไรไหม" เมื่อเห็นว่าเฉินเกอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม อิจิโร่ โนดะก็รีบขึ้นมาถาม
"ไม่มีอะไรหรอก จู่ๆ ก็เวียนหัวนิดหน่อย" เฉินเกอโบกมือและพูด
"เดี๋ยวผมหายาให้คุณสักหน่อยแล้วกัน!" อิจิโร่ โนดะเอ่ย
"ไม่เป็นไร ฉันกลับไปพักผ่อนสักหน่อยก็ได้แล้ว พวกคุณไปทำธุระเถอะ" เฉินเกอส่ายหัว เมื่อเขาได้สติกลับมา กลิ่นอายนั้นก็หายไปจากการรับรู้ของเขา ซึ่งก็ยิ่งทำให้เฉินเกอไม่ใส่ใจมากขึ้น
เมื่อกลับมาหาไป๋เสี่ยวเฟย เฉินเกอก็ทำการตรวจสอบความรับรู้อีกครั้ง แต่กลับไม่ได้ใช้พลังของเทพจิตเก้าภพ อาศัยการรับรู้พื้นฐานของตน เฉินเกอไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของผู้ฝึกฝนอีกต่อไป
แน่นอนว่าเฉินเกอไม่สามารถใช้พลังเทพจิตเก้าภพได้ หากยังไม่สามารถระบุได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร หากตัวตนผู้ฝึกฝนของเขาถูกเปิดเผย ก็อาจสร้างความยุ่งยากให้กับตัวเขาเองได้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแค่ผ่านมาหรือว่ามาเพื่อหาเรื่องตนเองโดยเฉพาะก็ตาม
ท้ายที่สุดแล้วในโวกั๋ว การที่ข้างกายตนจู่ๆ มีก็มีผู้ฝึกฝนปรากฏตัวขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การระแวงสงสัย ถึงแม้ว่าเฉินเกอจะไม่กลัว แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องระวังตัวมากขึ้นหน่อย
"เฉินเกอ นายมาที่นี่หน่อยฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนาย" ทันทีที่เขามาถึงข้างไป๋เสี่ยวเฟย ซินแสกุ่ยก็เข้ามาและพูดอย่างลึกลับ
"เกิดอะไรขึ้น? มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?" เมื่อได้ยินคำพูดของซินแสกุ่ย เฉินเกอก็ตื่นตัวในทันที เขารู้ว่าถ้าไม่ได้มีเรื่องสำคัญ ซินแสกุ่ยก็คงผีผู้จะไม่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงแบบนี้
"มาคุยด้านนี้เถอะ" เมื่อมองเห็นว่ามีหน่วยรบพิเศษจำนวนไม่น้อยอยู่ใกล้เคียง ซินแสกุ่ยก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพาเฉินเกอไปที่มุมห้อง
เฉินเกอไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่เดินตามเขาไป
ข้างกำแพง
เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองดูซินแสกุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
"ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ระวังตัวหน่อยแล้วกัน บนเกาะนั้น พวกเขาส่งคนมาสองครั้งติดต่อกันแต่ก็ทำอะไรนายไม่ได้ ครั้งนี้มีแนวโน้มสูงว่าพวกเขาจะส่งผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งของตระกูลมาแทน"
"แม้ว่านายจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ก็ยังต้องระวังให้มากๆ หากไม่ระวังแล้วโดนจับได้ เกิดนายเป็นอะไรไปขึ้นมา คิดจะไปช่วยพ่อแม่ของนายก็ยากอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งช่วงนี้ตระกูลฟุตาบะก็ยังมีเรื่องอะไรอีกมากมายที่ต้องการให้นายช่วย"
ซินแสกุ่ยถอนหายใจ เขาสัมผัสได้ถึงความยากลำบากของเฉินเกอในตอนนี้ ถึงขั้นสามารถพูดได้เลยว่าเขาถูกปิดล้อมทุกด้าน
"วางใจเถอะ ฉันรู้สึกประเมินสถานการณ์" เฉินเกอพยักหน้าเบาๆ
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้นกับซินแสกุ่ย แต่เฉินเกอก็ยังรู้สึกหนักใจอยู่บ้าง ท้ายที่สุดแล้วตระกูลเฉินก็ไม่ใช่ตระกูลธรรมดาทั่วไป ถ้าเฉินอู่สืบถึงสถานการณ์ของเขา และส่งผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฉินมาที่นี่ หรือแม้แต่ตัวเขาที่อาจจะมาที่นี่เอง
ถึงแม้จะไม่อาจถึงขั้นฆ่าเขาได้ แต่ก็จะสร้างปัญหาให้กับเขาได้เช่นกัน
ในเวลานี้ บนเส้นทางนอกสนามฝึก มีชายคนหนึ่งที่ดูธรรมดามากกำลังเดินอยู่บนถนน แต่เขาสวมหมวกปีกยาว หากเขาไม่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก็จะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน
ผู้ชายคนนี้คือคนที่มาจากเกาะโยวหลง
เป็นผู้ฝึกฝน 3 อันดับแรกของตระกูลเฉินชื่อว่าเฉินอะหมัน เขามีร่างกายที่กำยำ สูงเกือบสองเมตร แม้ขณะสวมใส่เสื้อผ้าก็ยังมองเห็นโครงร่างของกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน
เขาได้รับคำสั่งจากเฉินเตี๋ยนชางให้มาทำงานข้างนอก และเฉินอู่ก็ถือโอกาสนี้ให้เขามาที่โวกั๋วเพื่อจัดการฆ่าเฉินเกอ เพื่อเอาใจว่าที่ผู้นำตระกูลในอนาคต เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ
สำหรับเขาแล้ว ฆ่าใครก็เหมือนกันหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...