ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง นิยาย บท 14

ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”

“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”

ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!

“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”

“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”

ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจ

ดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!

“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม่หยุดหย่อน ที่แท้ก็เคราะห์ร้ายเพราะซ่งรั่วเจินหรือนี่?”

“ไต้ซือเทียนสุ่ยเคยทำนายดวงชะตาให้นาง นางรู้ดีว่าจะเดือดร้อนถึงคนในครอบครัวแต่ก็ยังถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัล นี่ไม่ใช่แค่ไม่รู้ความแล้ว แต่เรียกว่าจิตใจชั่วช้าอำมหิตมากกว่า!”

“นั่นน่ะสิ ข้าได้ยินมาว่าคืนวาน ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลหลินกับหลินโหวไปขอโทษแล้ว แต่กลับถูกไล่ออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่านางยังไม่พอใจอะไรอีก?

“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ดีชั่วอย่างไรก็เป็นคุณหนูผู้ดี ความใจกว้างแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้ากลับคิดว่าแม่นางฉินที่หลินโหวแต่งเป็นภรรยาวันนั้นดีกว่ามาก”

“ซ่งรั่วเจินน่ะหรือ ไม่คู่ควรเป็นฮูหยินของจวนโหวเลยสักนิด!”

“สามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ท่านเต็มใจแต่งก็ไปแต่งเองสิ พ่อแม่ข้ายังไม่คัดค้าน ท่านมีสิทธิ์อะไรมาวิพากษวิจารณ์อยู่ตรงนี้?”

ซ่งรั่วเจินปรายตามองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา แววตาลึกล้ำดุจบ่อลึกฉายประกายเย็นเยียบ ไอสังหารที่กดดันผู้คนแผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

หญิงผู้นั้นรู้ว่าซ่งรั่วเจินมีนิสัยหัวอ่อนถึงได้กล้าเอ่ยปากอย่างเหิมเกริม จู่ๆ ถูกสายตาคู่นั้นจับจ้องก็รู้สึกหนาววาบในใจ เงียบเสียงไปโดยไม่รู้ตัว

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ท่านพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต แต่ดวงชะตาที่ข้าดูมาตั้งเด็กล้วนดีเลิศมาโดยตลอด”

“นอกจากนี้ หลายวันก่อน แม่ข้าเชิญท่านมาดูฮวงจุ้ยที่จวน ท่านรับเงินหนึ่งแสนตำลึงไปแล้ว บอกว่าแค่ต้องถมสระบัว อีกทั้งในร้อยปีนี้ห้ามไปแตะต้อง เช่นนี้จึงจะสามารถแก้ไขชะตาของตระกูลซ่งได้”

“แต่ท่านพูดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร พี่รองของข้าก็ตาบอดสองข้าง งานวิวาห์ของข้าก็เกิดเรื่อง วันนี้ท่านเห็นว่าเรื่องราวไม่อาจคลี่คลายได้ก็หันมาพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต ช่างพูดจากลอกกลับดีเสียจริง คำพูดแบบใดล้วนถูกท่านพูดออกมาจนหมดแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองไต้ซือเทียนสุ่ยอย่างเย็นชา สายตาไปหยุดลงบนเงาดำกลุ่มหนึ่งด้านหลังเขา

ชั่วขณะที่คนผู้นี้ปรากฏตัว นางก็สังเกตเห็นแล้ว ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้มีความสามารถ ถึงกับเลี้ยงผีน้อยเอาไว้ด้วยตนหนึ่ง

จะว่าไปก็น่าขัน นักพรตหรือภิกษุทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนเพื่อละวางกิเลส โปรดสรรพสัตว์ คนตรงหน้ากลับประเสริฐนัก เลี้ยงผีน้อยตนหนึ่งไว้ข้างกาย อาศัยผีน้อยตนนี้จนได้ชื่อว่าเป็นไต้ซือ

แต่พลังของผีน้อยมีจำกัด ต่อให้สามารถมองทะลุสิ่งของบางอย่างได้ แต่ไม่มีความสามารถส่งวิญญาณไปสู่สุคติ

“อาตมาจัดการทุกอย่างไว้ดีแล้ว ถ้าแม่นางซ่งยอมออกเรือนไปแต่โดยดี ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปเอง แต่เจ้าไม่ยินยอม ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวันนี้ จะมาโทษอาตมาได้อย่างไร?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยแค่นเสียง สีหน้าเย็นชาถึงที่สุด “อาตมาเห็นแก่หน้าฮูหยินตระกูลซุนจึงได้คิดจะช่วยเหลือเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าไม่รับน้ำใจ อาตมาก็จะไม่ช่วยอีกแล้ว!”

บทที่ 14 1

บทที่ 14 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง