ตอนที่ 144
ซ่งฝูหลิงรีบกลับมายังโรงเตี๊ยม
เมื่อกลับมาก็เห็นเถ้าแก่กำลังทำงานในส่วนของเสี่ยวอู๋ เขากำลังทำความสะอาดห้องโถง เมนูอาหารในวันนี้มีเขียน “ขายถั่วเมล็ดสน” ไม่มีการเขียนเพิ่มกำไร เป็นการขายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาจริงๆ
เมื่อเห็นทุกโต๊ะมีจานถั่วเมล็ดสนวางอยู่ ขอบตาก็แดงขึ้นมาทันที
ในช่วงจังหวะเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ทำให้นางได้พบกับคนดีหลายคน
ถ้าพ่อของนางไม่ใช่ถงเซิง คงไม่มีคุณสมบัติที่จะพักแรมอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้
ถ้าเถ้าแก่ไป๋ไม่ใจดี ถ่อมตัว หรือมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับสองเถ้าแก่ที่อยู่โรงเตี๊ยมตรงข้าม นางก็คงไม่สามารถเข้าไปขายของในโรงเตี๊ยมนั้นได้ และไม่มีโอกาสดีๆ ในการขายถั่วเมล็ดสนแล้ว
คนใจดีเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถช่วยกลุ่มคนอย่างพวกเราได้หมด
คนใจดีหลายคน ช่วยกันทีละเล็กทีละน้อยก็สามารถช่วยพวกเขาทั้งหมดได้
ไม่รู้ว่าจะขอบคุณใครดี คนที่ต้องขอบคุณมีมากมายเหลือเกิน
เถ้าแก่ไป๋รู้สึกมีการเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังเขา เขายืนถือไม้กวาดหันกลับไปมอง “สาวน้อยกลับมาแล้วหรือ มีคนซื้อหรือไม่?”
เมื่อเห็นดวงตาของซ่งฝูหลิงแดงราวกับว่านางกำลังจะร้องไห้ เขาก็รีบพูดปลอบโยน
“ไม่เป็นไร พวกแขกก็เป็นแบบนี้ บางช่วงก็มีกลุ่มครอบครัวมั่งคั่งมาพัก แม้แต่คนรับใช้ยังพักห้องเทียนจื้อเพราะห้องเต็ม บางช่วงก็มีกลุ่มแขกธรรมดามาพักแรม ถั่วเมล็ดสนของเจ้า เดิมทีเป็นของผู้มีอันจะกินเขากินกัน พวกเขาคงคิดว่าราคาหลายสิบเหวิน สู้นำเงินไปซื้อเนื้อหมูกินไม่ได้ หรือไม่ไป…”
“เถ้าแก่ไป๋” ซ่งฝูหลิงกลั้นน้ำตาไว้ นางไม่ยอมรับว่าเมื่อครู่ซาบซึ้งจนอยากจะร้องไห้ เป็นเพราะนางวิ่งเร็วจนโดนลมเย็นปะทะหน้า
นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าต้องการซื้อไก่หนึ่งตัว มาทำไก่ตุ๋นกับเห็ดและอยากกินข้าวสวย ให้พี่น้องของข้าได้กินดีๆ สักมื้อหนึ่ง…
…ท่านไม่รู้ว่าตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่หิวที่สุด น้องชายของข้าที่เฝ้ารถเข็นอยู่ข้างหลังเรือนคนนั้น เขาถามพี่สาวอย่างข้าว่า ก่อนตายขอให้รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเขา ให้เขาได้มีโอกาสกินข้าวสวยสักมื้อที่ยังไม่เคยได้กินมาทั้งชีวิตก่อนที่เขาจะตาย…
…เมื่อก่อนข้ารับปากกับเขาไว้แล้ว ตอนนี้ข้าหาเงินได้แล้ว…
…ดังนั้นเถ้าแก่ไป๋ ข้าขอร้องท่าน เลือกไก่ตัวใหญ่ให้ข้าที ข้าจะไปเอาเห็ดมาให้ท่าน และช่วยหุงข้าวสวยเยอะหน่อย ข้าอยากให้พวกเขาได้กินอิ่มๆ…
…ท่านน่ะ อย่าได้ดูแลพวกเราอีกต่อไปเลย พวกเราไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรแล้ว…
…ธรรมดาไก่ตุ๋น ข้าวสวยขายราคาเท่าไร ท่านก็เก็บเงินพวกเราเท่านั้น ไม่ว่าวันนี้พวกเราจะกินอะไร ท่านก็คิดเงินตามปกติเพราะข้ามีเงินแล้ว”
เถ้าแก่ไป๋อ้าปากค้างหลายวินาที ก่อนจะถามคำถามด้วยความอยากรู้
“เจ้าหาเงินได้แล้ว?”
“ต้องขอบคุณท่าน ขายได้หลายร้อยกิโลแล้ว”
“ทั้งหมดขายราคาเจ็ดสิบเหวิน?”
“ไม่น่ะ นอกจากเถ้าแก่โรงเตี๊ยมก่วงหยวนที่ขายให้เจ็ดสิบเหวินแล้ว ที่เหลือขายให้คนอื่นราคาเก้าสิบเหวิน”
เถ้าแก่ไป๋ “…” โอ้ว เขาขายให้คนอื่นราคาถูกไปหรือนี่? เขาขายไปในราคาเจ็ดสิบเหวิน
“สาวน้อยเจ้าอยากกินข้าวสวยกับไก่ตุ๋นเห็ด? นี่เป็นอาหารจานใหญ่ โดยเฉพาะพวกเจ้ามีเด็กหลายคนอยากกินให้อิ่ม อยากกินอิ่มก็มีราคาแพง เจ้าสามารถตัดสินใจเองได้หรือ?”
ซ่งฝูหลิงยิ้มอย่างขี้เล่น “ข้าขายในราคาเก้าสิบเหวินไปเยอะ อย่างมากพ่อของข้าก็คิดว่าข้าสามารถขายได้ในราคาเจ็ดสิบเหวิน ทุกกิโลที่ขายออกไปมีเงินเกินออกมาเจ็ดสิบเหวินและขายออกไปได้หลายกิโล ทำให้พวกเรามีเงินพอที่จะกินอาหารดีๆ อิ่มท้องสักมื้อ”
จากคำพูดเหล่านี้ทำให้เถ้าแก่ไป๋รู้สึกว่า ครอบครัวของซ่งฝูเซิงคงมีฐานะดีมาก่อนและดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี เพราะมีเพียงเด็กที่ถูกตามใจจนโตถึงกล้าที่จะตัดสินใจเองได้ เมื่อก่อนฐานะทางบ้านดี ตอนนี้กลับต้องมาตกอับแล้ว แต่ก็กล้าที่จะใช้จ่ายเงินทอง เมื่อก่อนคงเคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแน่นอน
ในขณะที่เถ้าแก่ไป๋พยักหน้าเห็นด้วย เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองซ่งฝูหลิง
ซ่งฝูหลิงอดยิ้มไม่ได้ นางรู้ว่าเถ้าแก่ไป๋คงกำลังครุ่นคิดในใจ สุดยอดเลย สาวน้อย เจ้าหากำไรจากราคาส่วนต่าง
ตอนที่ 145-1
ใกล้มุมบันไดโรงเตี๊ยมเป็นห้องรวมที่พวกเขาเหมาห้องไว้เพื่อพักแรม หน้าต่างของห้องหันไปทางหลังเรือน
ห้องพักที่มีคนสองร้อยกว่าคนอาศัยอยู่ ตอนนี้ภายในห้องไม่มีกลิ่นอื่น นอกไปจากกลิ่นหอมของเห็ด
สามารถมองไปเห็นเห็ดที่เก็บมาเมื่อวานตากแห้งตรงขอบหน้าต่างและบนลานนอกหน้าต่าง
ซ่งฝูหลิงคลานขึ้นไปนั่งบนตั่งนอนที่อยู่ใกล้กับหน้าต่างแล้วสูดกลิ่นหาเห็ด ที่เมื่อวานซื่อจ้วงให้ไว้กับนาง กลิ่นที่ลอยออกมาเป็นกลิ่นเห็ดที่ซื่อจ้วงนำมาให้
แต่ในนี้มีบางส่วนที่ตากแห้งแล้ว นางไม่ได้แตะต้อง
เนื่องจากส่วนที่ตากแห้งแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน นางจึงเลือกแบบสดที่ไม่สามารถวางไว้ได้นานมากิน
ซ่งฝูหลิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบเห็ดสดมีกลีบดอกแค่สองสามหรือสี่กลีบ เห็ดดีๆ เหมือนถูกคนฉีกออก
เอ้อร์ยารีบชิงพูดขึ้นก่อน “พวกเราใช้เงินเยอะขนาดนี้เพื่อกินข้าว คงโดนตีแน่”
พูดจาเหลวไหล ซ่งฝูหลิงโบกมือ “ตอนนี้ข้าเป็นหัวหน้า พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้า ถ้าโดนตีข้าก็ต้องโดนตีเป็นคนแรกก่อน เมื่ออยู่กับข้าแล้ว ข้าต้องให้พวกเจ้าได้กินดีอยู่ดี”
พูดจบก็ชี้นิ้วสั่งการแต่ละคน สั่งให้สาวน้อยหลายคนช่วยไปลากถุงกระสอบถั่วเมล็ดสน
ครั้งนี้ซ่งจินเป่าตามมาด้วย เขากัดฟันออกแรงลากกระสอบเต็มที่ ไม่ได้ฟังที่พี่พั่งยาพูดหรือ ทำเสร็จแล้วถึงเริ่มกินข้าวกับเนื้อสัตว์
เดิมไม่น่าจะใช้แรงมากมาย แต่ทุกคนก็เหนื่อยหอบกัน
เพราะซ่งฝูหลิงบอกไว้ อย่าเดินออกไปทางด้านหน้าโรงเตี๊ยมเพราะมีแขกกำลังกินอาหารอยู่ พวกเราลากกระสอบผ่านไปทำให้เกิดฝุ่น แขกจะกินอาหารได้อย่างไร? อีกอย่างก็ดูไม่น่ามอง เถ้าแก่ไป๋ใจดีขนาดนี้ เดี๋ยวก็ต้องเข้ามาช่วยเหลืออีก พวกเราไม่จำเป็นต้องทำให้คนอื่นลำบาก ให้ออกจากหลังเรือนผ่านคอกสัตว์นั้นไป
เดินออกทางประตูหลังเรือนนั่นหมายความว่าจะต้องเดินอ้อมอีกรอบหนึ่ง เดินอ้อมผ่านทั้งโรงเตี๊ยมถึงจะมาถึงถนนหลวง
พวกหญิงสาวกับเด็กชายซ่งจินเป่าที่มีความสามารถมาก ถึงแม้แขนจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่ความเร็วก็ไวมาก
เถาฮวารู้สึกเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว เมื่อไปหาซ่งฝูหลิงก็ไม่เจอแม้แต่เงา นางกระทืบเท้า ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
นางทำอาหารเป็น แต่ไม่เคยตุ๋นไก่มาก่อน อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่แม่ของนาง ปีหนึ่งยังไม่เคยตุ๋นสักครั้งหนึ่งเลย ที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้เพื่อออกไข่หรือไม่ก็นำไปขายที่ตลาด ถ้าให้นางทำจะไม่เป็นการสิ้นเปลืองของดีหรอกหรือ? นางไม่กล้าลงมือทำ
เถาฮวาปรึกษากับเสี่ยวเอ้อร์ที่มาส่งไก่ว่าสามารถหาพ่อครัวมาช่วยทำได้หรือไม่?
เมื่อพ่อครัวใหญ่เข้ามาช่วยในครัว เขานำเห็ดที่แช่น้ำขึ้นมาดม “เอามาจากไหน?”
“เก็บมาจากในป่า”
“เก็บมา?”
“ใช่ เก็บมา”
พ่อครัวใหญ่ครุ่นคิดว่าเคยได้กลิ่นเห็ดนี้มาจากไหน? นึกคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกเพราะเขาพลัดถิ่นมาตลอดชีวิต ทำงานมาหลายที่ เมื่ออายุมากแล้วถึงหาสถานที่ทำงานประจำที่ทำอยู่ในปัจจุบันได้
“เจ้าแน่ใจนะ ว่าจะใช้เห็ดนี้ตุ๋นไก่?”
เถาฮวานิ่งอึ้ง “ทำไมหรือ?”
พ่อครัวส่ายหัว บางทีอาจจะไม่ได้เห็นในครอบครัวอันร่ำรวยก็เป็นได้เพราะเขาก็พูดไม่ถูกเช่นกัน ช่างเถอะ “ไม่มีอะไร ข้าจะตุ๋นให้ ตอนนี้หิวกันแล้วละสิ พวกเจ้าลำบากกันมาก เมื่อครู่พวกข้ายังพูดคุยเรื่องของพวกเจ้า ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดิน ช่างลำบากมาก”
ในขณะเดียวกัน ด้านซ่งฝูหลิงก็เริ่มทำบัญชีแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...