เฉียนเพ่ยอิงเข้าไปอยู่ในพื้นที่พิเศษ นางมองลูกพลับที่อยู่บนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“เหล่าซ่งนี่ โง่หรือเปล่าเนี่ย?…
…น่าจะเอาช็อกโกแลตหรือขนมมันฝรั่งแผ่นมาสักหนึ่งถุงเพื่อให้ลูกสาวก็ได้…
…แบบนี้เวลาจะเช็คดูว่ามันเปลี่ยนกลับคืนสู่สภาพเดิมหรือไม่ จะได้สามารถมองเห็นจำนวนได้อย่างชัดเจน…
…แต่นี่เขาเอาลูกพลับไป แล้วยังต้องมานั่งนับจำนวน โอ้ว อยู่ด้วยกันกับเขาทุกวัน แทบจะหมดอารมณ์โมโห”
เฉียนเพ่ยอิงเริ่มนับจำนวน “ยี่สิบห้า…สามสิบสอง…สามสิบสี่…สามสิบเจ็ด…”
“ท่านแม่”
“โอ้ว!”
เฉียนเพ่ยอิงยกมือทาบอกด้วยความตกใจ นางหันไปมองทางห้องน้ำ “ทำไมเจ้าก็เข้ามาอีกละ?”
ซ่งฝูหลิงบอก ก็ท่านกลัวไม่ใช่หรือ ข้าเลยเข้ามาเป็นเพื่อนท่านและจะได้ช่วยตรวจสอบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อบอกข้าว่าท่านกำลังมึนงงอยู่ เลยให้ข้าเข้ามาช่วย
ซ่งฝูหลิงเข้ามาก็รวดเร็วขึ้นมากขึ้น นางหาของสิ่งอื่นมาแทน
นางนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าชั้นวางโทรทัศน์ รื้อค้นหายาไป พร้อมพูดกับแม่ของนาง “ท่านแม่ ท่านรีบๆ หน่อย โดยทั่วไปหากท่านย่าร้องไห้คร่ำครวญเสร็จก็ต้องหุงหาอาหารกันแล้ว หมี่โซ่วก็บอกว่าไม่กินแล้ว ไม่ให้พวกเราเดินเพ่นพ่าน ให้รีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนเขา”
เฉียนเพ่ยอิงยืนนับจำนวนลูกพลับอยู่หน้าโต๊ะ…เมื่อครู่นางนับถึงสามสิบเท่าไรแล้วนะ?
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของซ่งฝูหลิงพูดขึ้นมา “ท่านจะตรวจสอบหรือไม่นั้น จริงๆ มันก็มีคำตอบอยู่แล้ว”
นางหยิบยาขึ้นมา “ท่านดูสิ ท่านพ่อชงยาแก้หวัดให้หมี่โซ่วดื่มเหลือเพียงสองซองเล็ก นี่บ่งบอกได้ว่ามันไม่ได้เติมกลับคืนมา ท่านพ่อยังชงยาสมุนไพร ป่านหลานเกิน ให้กับจินเป่า ในกล่องใหญ่ตอนนี้ก็เหลือเพียงหกซองเท่านั้น เพราะตอนนั้นพวกเราสามคนดื่มกันสองครั้ง ปริมาณพอดีกับหกซอง และยังให้ซื่อจ้วงกินยาแก้อักเสบ นั่นก็ไม่ได้เติมจำนวนกลับมา”
ซ่งฝูหลิงปิดลิ้นชักและไปค้นหาผ้าอนามัย ผ้าอนามัยทั้งหมดยังอยู่เหมือนเดิม
ส่วนกระดาษทิชชู่นี่ ไม่ว่าหมี่โซ่วหรือท่านย่าหม่าก็ไม่ได้ใช้
เฉียนเพ่ยอิงถอนหายใจ “ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนแรก ข้าคงไม่ใช้อย่างประหยัดขนาดนี้ วันหนึ่งสามารถเปลี่ยนสองถึงสามครั้งได้ ไม่ต้องเสียดาย”
ซ่งฝูหลิงรีบไปตรวจสอบเสื้อผ้าในหลายห้องนอนและก้าวขึ้นบันไดไปตรวจสอบแผ่นรองกันความชื้นของนาง
อืม ทั้งหมดไม่ได้เติมกลับมา รวมทั้งเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่และอ่างพลาสติกที่แม่ของนางฝังไว้ใต้ดินหลายใบ
ซ่งฝูหลิงเดินไประเบียงทางทิศเหนือ นางนำถุงพลาสติกลายดอกออกมาด้วย เพื่อเอาไว้ใส่ของที่นางต้องกิน จากนั้นนางนำถุงที่ใส่สิ่งของเต็มแล้ววางไว้ในห้องน้ำ เพื่อที่จะรอให้พ่อของนางนำออกไปให้
เมื่อทำเสร็จแล้ว นางก็ยืนพิงบานประตูกระจกถามเฉียนเพ่ยอิง “ทั้งหมดห้าสิบหกลูกใช่ไหม?
ข้ากินแล้ว มันเติมกลับมาเหมือนเดิมแล้ว”
“อืม”
“ถ้างั้นพวกเราก็ไปเถอะ”
“เจ้ารอก่อน เอาถุงเท้ากับกางเกงขาสั้นที่ใส่แล้วมาใส่ในนี้ซะ ห้องไม่ได้ระบายอากาศ ตอนเข้ามาได้กลิ่นอะไร ก็จะเป็นกลิ่นนั้นไปตลอด เจ้าจะให้มันมีกลิ่นเหม็นจนคนเป็นลมตายหรือไง เจ้านี่ก็คนหนึ่ง พ่อเจ้าก็อีกคน เจ้าสองคนนี่ช่างเหมือนกันจริงๆ”
ซ่งฝูหลิงไม่ยอมรับ “ข้าสู้ท่านพ่อไม่ได้หรอก ถุงเท้าของท่านพ่อเปรอะเปื้อนแทบจะฝังเข้าไปในพื้นรองเท้าแล้ว เขาก็ยังไม่รู้จักเปลี่ยน”
ซ่งฝูเซิงที่อยู่ด้านนอกถึงกับจามอย่างแรง เขารีบดึงเสื้อผ้าคลุมตัวให้มิดชิด
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
ซ่งฝูหลิง “ท่านพ่อ ท่านเอาถุงพลาสติกลายดอกไม้ออกมาจากห้องน้ำก่อน เสร็จแล้วพวกเราค่อยกินไปเดินไป ให้ข้าได้กินและดื่มหน่อยเถอะ”
ซ่งฝูเซิงบ่นพึมพำ พื้นที่พิเศษนี้แย่จริงๆ ต้องแบ่งงานให้พวกเขาทำร่วมกัน ทุกคนไม่ได้สามารถใช้สอยสิ่งของแล้วทำให้มันเติมกลับมาเท่าเดิมได้ เขาจึงต้องเข้าไปในพื้นที่พิเศษเพื่อเอาของออกมาให้ลูกสาวกิน
ทั้งสามคนกินอาหาร แต่ไม่กล้านั่งกินในสวนหลังเรือน จึงย่องออกจากประตูไปด้านนอก
กินที่ไหนดีนะ อาศัยช่วงท้องฟ้ามืดครึ้ม หามุมนอกกำแพงเรือนของใครก็ไม่รู้ พวกเขานั่งกินกันอยู่ตรงนั้น
เพื่อความปลอดภัย หลังจากกินเสร็จก็นำพวกเศษพลาสติกที่ห่อหุ้มอาหารส่งให้ซ่งฝูหลิง หากมีใครเดินมา ซ่งฝูหลิงก็สามารถเอาของพวกนี้ส่งกลับเข้าไปในพื้นที่พิเศษได้
ซ่งฝูเซิงกินอย่างมูมมาม “ขนมเค้กอันนี้รสชาติดีจริงๆ”
“ตามที่ข้าสังเกตมา กฎเกณฑ์น่าจะเป็นเช่นนี้…
…ข้า สามารถส่งของเข้าไปได้อย่างเดียว…
…ท่านพ่อ ท่านสามารถเอาสิ่งของออกมาได้…
…ส่วนแม่ของข้า เข้าไปเติมสิ่งของที่ใช้ไป…
…พวกเราสามคนมีหน้าที่แตกต่างกันและยังมีกฎเล็กๆ น้อยๆ ที่มีรายละเอียดอีก ดังนี้…
…อันดับแรก เกี่ยวกับของกินของใช้ที่สิ้นเปลือง มีแค่พวกเราสามคนเท่านั้นที่ใช้มันได้ พอท่านแม่เข้าไป ก็สามารถนำสิ่งของทั้งหมดเติมกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ทันที…
…แต่สิ่งของที่เป็นของใช้ จำพวกเสื้อผ้า อ่างล้างหน้า เป็นต้น ที่พวกเราทิ้งไว้ข้างทางตลอดจนกล้องส่องทางไกลกับเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายของพวกเรา กฎก็คือ หากเจ้าใช้หรือสวมใส่จนพังแล้วหรือทำเสียหายไปแล้ว มันถึงจะสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้…
…แต่ถ้าเจ้าทำหาย ทิ้งไปเองหรือให้คนอื่น ทิ้งไว้ข้างทางแล้วคนอื่นเก็บไป แบบนั้นจะเปลี่ยนกลับมาไม่ได้…
…พื้นที่พิเศษนี้ไม่สามารถพูดได้ ถ้าเขาพูดได้ก็คงพูดว่า นอกจากพวกเราสามคนแล้ว คนอื่นไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้…
…อีกทั้งจะบอกกับพวกเราว่า ห้ามใช้สิ่งของในพื้นที่พิเศษนี้หารายได้ ห้ามขี้เกียจออกแรงในการหาเงิน…
…ก็พูดถูกนะ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าสามารถเปลี่ยนหรือเติมจำนวนสิ่งของได้แบบนี้ ถ้าเติมกลับไป กลับมาเช่นนี้เรื่อยๆ พวกเราก็คงขายข้าวจนร่ำรวยไปแล้ว โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก”
ซ่งฝูเซิงขมวดคิ้ว “ลูกสาว ถ้างั้นพวกเราต้องทำรายการทั้งหมดให้ดี พวกเราสามารถหาช่องโหว่ได้ไหม?”
“ยกตัวอย่างเช่น?”
“ยกตัวอย่างเช่น ไม่ได้ให้หมี่โซ่วดื่มกินด้วย แต่พวกเรานำแหวนทองของแม่เจ้าออกไปขาย ก็ถือว่าพวกเราเป็นคนใช้สิ่งของนั้นเองใช่ไหม มันก็น่าจะเปลี่ยนกลับมามีเหมือนเดิมได้อีกสิ? หลังจากนั้นพวกเราก็ใช้เงินที่ได้จากการขายแหวนทอง มาซื้อของอร่อยๆ ที่นี่ให้หมี่โซ่ว”
ซ่งฝูหลิงส่ายหัว “ท่านพ่อ ท่านเชื่อไหม? แหวนทองของท่านถ้าขายไปสิบสองตำลึง หากพวกเราใช้ไปแปดตำลึงแค่สำหรับพวกเราสามคน แล้วหมี่โซ่วใช้สองตำลึง ตอนท่านแม่เข้าพื้นที่พิเศษเพื่อทำให้มันเปลี่ยนกลับมามีเหมือนเดิม แหวนทองที่เปลี่ยนกลับมาจะต้องเล็กลงกว่าเดิมแน่ๆ ท่านเชื่อไหม? พื้นที่พิเศษมันฉลาดหลักแหลมมากกว่าพวกเรา”
เฉียนเพ่ยอิง “ขี้เหนียวจริงๆ”
ไม่ไกลออกไปนัก ท่านย่าหม่าเดินมาและร้องเรียกไปด้วย “ลูกสาม พั่งยา?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...