ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 183

เมืองเฟิ่งเทียนมีข้าราชการมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ และเป็นเมืองที่ฮ่องเต้มาพำนักอยู่กับท่านอ๋องเยี่ยน

ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นเมืองหลวงในยุคปัจจุบัน ถึงแม้จะเป็นสถานที่ชั่วคราว แต่ก็สามารถคาดการณ์ได้ หากต่อไปมีการย้ายเมืองหลวง สถานที่แห่งนี้ที่เคยเป็นที่พำนักของท่านอ๋องเยี่ยน สถานะของมันย่อมไม่ธรรมดา อย่างน้อยก็เทียบเท่ากับเมืองกวางโจวและเมืองเซินเจิ้น

บ้านเรือนราคาเท่าไร?

ซ่งฝูเซิงตอนอยู่ในยุคปัจจุบันเขาเป็นคนชอบซื้อบ้าน และแต่ละครั้งที่ขายไปก็ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

เขาอยากนำข้อดีนี้ของเขามาทำต่อให้รุ่งเรืองในยุคโบราณ

เงินเก็บของหมี่โซ่ว เก็บไว้แบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์ สู้นำมาซื้อร้านค้าหรือบ้านไม่ได้ ซื้อเสร็จแล้วแค่ให้เช่าก็สามารถสร้างรายได้ไม่มากก็น้อย ถึงแม้บ้านอาจจะผุพังลงได้ แต่ที่ดินที่อยู่ตรงนั้นอยู่นานเท่าไรก็ไม่เสียหายไปไหน แต่พื้นที่ที่มีคนอยู่อาศัยกันหนาแน่นอยู่ตรงไหนกันนะ? อย่างน้อยต้องรู้เรื่องพวกนี้ก่อน

ดังนั้นเขาจึงต้องสอบถาม การพูดคุยก็เพื่อให้ทราบข้อมูล ในสายตาของเขาโอกาสค้าขายมักมาจากการพูดคุยทั้งหมด

เจ้าผลิตอะไร เขาผลิตอะไร ผลิตภัณฑ์ของเจ้าที่ผลิตเป็นที่ต้องการของเขา สามารถขนส่งมาให้ได้หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้นี่ก็เป็นโอกาสทางการค้าแล้วและยังสามารถสร้างรายได้ได้อีก

เมื่อคิดเช่นนี้ เขาเห็นเสี่ยวเอ้อร์กำลังว่างอยู่พอดี เขากจึงซักถามออกไปสองรอบ

เสี่ยวเอ้อร์รู้สึกรำคาญ มองดูพวกเจ้ามีสภาพโทรมเช่นนี้ยังอยากจะรู้อีก ใจใหญ่ขนาดนี้ ราคาบ้านเรือนของเมืองเฟิ่งเทียนจะแพงหรือไม่แพงเกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าด้วย?

พวกเจ้ากลับบ้านไปแทะเมล็ดแตงครุ่นคิดว่าจะสามารถซื้อที่นากี่แปลงยังจะดีเสียกว่า

เสี่ยวเอ้อร์ขมวดคิ้ว ฉายแววตารังเกียจ พูดด้วยกิริยาที่ไม่ดี “บอกมา จะเพิ่มแป้งกี่แผ่น!”

ซ่งฝูหลิงสงสัย พวกเราสั่งเกี๊ยว ทำไมต้องถามให้พวกเราเพิ่มแผ่นแป้งอีก

ซ่งฝูเซิงลุกขึ้นยืน

“ไปเถอะ ไม่กินของที่นี่แล้ว ดูถูกคนอื่น ยังไม่ทันได้กินอิ่มก็ทำให้โมโหเสียก่อน…

…เพียงแค่ถามเจ้าว่า ที่ไหนมีผู้คนพลุกพล่าน แค่เพียงไม่กี่คำก็พูดไม่ได้หรือไง? ตอนนี้แขกที่มากินข้าวก็มีแค่พวกข้าเพียงโต๊ะเดียว ไม่ใช่ว่าเจ้าจะงานยุ่งสักหน่อย…

…พวกเราเป็นคนต่างถิ่นเพิ่งอพยพมา ไม่รู้เรื่องภายในเมืองว่าที่ไหนเป็นอย่างไร สอบ ถามก็เพื่อที่จะได้เดินไปสำรวจดู ดูอาการที่เจ้าแสดงออกมาสิ ไม่เอาแล้ว เจ้าปิดปากเงียบไปเลย ถึงเจ้าพูดออกมาข้าก็ไม่กินแล้ว”

“ไม่กินก็ไม่กิน เจ้าคิดว่าข้าขาดแคลนเงินค่าน้ำซุปแผ่นแป้งเพียงไม่กี่ชามของพวกเจ้าหรือไง?”

ซ่งฝูเซิงยิ่งโมโหมากขึ้น ฟังสิ ซุปแผ่นแป้ง? เขาบอกอย่างชัดเจนว่าเอาเกี๊ยว กลับไม่เชื่อ

พวกเขาดูเหมือนคนที่ไม่สามารถกินเกี๊ยวได้หรือ? มองคนเพียงแค่เปลือกนอก “เจ้าดูถูกคนแบบนี้ สมน้ำหน้าที่ทั้งชีวิตเจ้าต้องมาเป็นเสี่ยวเอ้อร์เพราะตาเจ้าสองดวงเห็นแต่โลกแคบ”

เขาพูดจบก็แบกหมี่โซ่ว พาภรรยากับลูกสาวเดินไปทางสถานที่ที่มีผู้คนคึกคัก

เฉียนหมี่โซ่วคิดว่าท่านลุงจะต้องโมโหมาก เขาตกใจจนไม่กล้าออกเสียงและคอยสังเกตสีหน้าของซ่งฝูเซิง

แต่ไม่คิดว่าพี่สาวจะใจกล้ามาก นางหัวเราะออกมาเสียงดัง

เฉียนเพ่ยอิงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

“แม่ลูกสองคนนี่จริงๆ เลย เฮ้อ” ซ่งฝูเซิงพูดจบ เขาก็ยิ้มให้กับตนเอง แม่ลูกสองคนนี้อารมณ์ดีเสียจริง ต้องนับถือเลยจริงๆ คนอื่นดูถูกยังสามารถหัวเราะออกมาได้

ทั้งสี่คนเดินตรงไป มีผู้คนเดินขวักไขว่ผ่านไปมา และมองเห็นรถม้าของครอบครัวใหญ่หลายครอบครัวผ่านไป-มา

พวกเขาทั้งสี่ไม่รู้จักเส้นทาง แต่อาศัยความรู้สึกเดินไปยังถนนที่คึกคักมากที่สุด

เดินตามผู้คนไปแล้วเลี้ยวไปมุมหนึ่งก็เห็นถนนที่มีผู้คนเดินกันอย่างคึกคัก มีร้านค้าเยอะแยะเต็มไปหมด

หน้าประตูบางร้านก็มีรถม้าจอดอยู่

ที่จอดรถม้าในยุคโบราณเทียบได้กับที่จอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าในยุคปัจจุบัน บนถนนสายนี้ดูเหมือนจะมีสินค้าราคาแพงขายไม่น้อย

ซ่งฝูเซิงยืนมองอยู่หน้าโรงเตี๊ยมสี่ชั้น

สายตาของเขามองไปยังโรงเตี๊ยมใหญ่ แต่มือกลับยื่นชี้ไปทางด้านข้าง “พวกเราเข้าไปกินในโรงเตี๊ยมไม่ได้ แต่ก็สามารถกินร้านอาหารเล็กๆ นั่นได้ ไปเถอะ ข้าเห็นร้านนั้นดูดี นั่งกินอยู่ข้างนอกยังมีเต็นท์กางให้”

สถานการณ์ตามเดิม เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นพวกเขาก็ถามว่าจะเติมแผ่นแป้งไหม?

ซ่งฝูเซิงตอบกลับเสียงดัง “เอาเกี๊ยวที่มีเนื้ออยู่ด้านใน” แม่เจ้า ทำไมถึงชอบถามแบบนี้กัน “เอามาห้าชาม” พวกเขาดูเหมือนคนที่จะมากินเกี๊ยวเพียงไม่กี่ลูกหรือ หลังจากนั้นในชามมีแต่แผ่นแป้งหรือไง?

“ต้องขอโทษนายท่านด้วย โปรดรอสักครู่”

เกี๊ยวร้อนๆ ในชามที่มีไอน้ำขาวลอยออกมา ถูกวางไว้บนโต๊ะ

เฉียนหมี่โซ่วนั่งอยู่ข้างกายท่านลุง เขาใช้ปากเล็กๆ เป่าไอร้อนๆ แต่เขาก็ทนรอให้หายร้อนไม่ไหวจึงกัดเข้าไปคำหนึ่ง มีเนื้อที่อยู่ด้านในเกี๊ยวจริงๆ ด้วย

ว้าว อร่อยมาก

“ท่านลุง อร่อยมาก”

“อร่อยก็กินเยอะๆ หน่อย” ซ่งฝูเซิงช่วยหมี่โซ่วเป่าไล่ไอร้อนที่อยู่ในชาม แต่ก็ไม่ได้เป่าจนเย็น ส่วนเขาก็ยกชามเกี๊ยวของตนเองขึ้นมากิน

สมาชิกคนในครอบครัวของพวกเรามีน้อย จะได้รับเสบียงอาหารบรรเทาทุกข์ได้เท่าไรกัน? นำมารวมกันก็ไม่คุ้มกับจำนวนเงิน ตอนที่พวกเราเข้าหมู่บ้านก็ได้ให้ผลประโยชน์กับหลี่เจิ้งไปไม่น้อย มีมูลค่ามากกว่าเสบียงอาหารบรรเทาทุกข์นี้เสียอีก

“นี่ แม่ของเจ้าล่ะ?”

ท่านยายถามถึงท่านย่าหม่าทำไมถึงไม่ได้มาด้วย

“อยู่บ้าน ทำความสะอาดบ้านมุงจากอยู่”

ท่านยายรีบบอกกับเฉียนเพ่ยอิงว่า บ้านของนางที่ได้พักอาศัยอยู่ก็ธรรมดามาก แต่ไม่ใช่บ้านมุงจาก

ยังคงเป็นประโยคเดิม ทำไมถึงไม่รังแกพวกเขาและไม่แบ่งบ้านที่พังแล้วให้? เพราะเงินจำนวนมากที่ให้ไว้เป็นของกำนัล

เฮ้อ เมื่อเอ่ยถึงก็รู้สึกเศร้าใจ นอกจากนี้ครอบครัวของพวกเขาถึงแม้จะไม่ได้อยู่บ้านที่ผุพัง แม้ว่าบ้านนั้นจะไม่ใช่บ้านกระท่อมมุงจาก แต่พวกเขาก็ต้องใช้เงินซื้ออิฐราคาแพงจากชาวบ้าน ถ้าให้เงินเยอะก็มีคนมาคอยช่วยพวกเขา แต่พวกเขาก็ต้องเสียเงินจำนวนมากไป มันต้องมีส่วนหนึ่งที่ต้องสละไป

ซ่งฝูหลิงอาศัยช่วงเวลาที่พวกผู้ใหญ่พูดคุยกันสอบถามทางร้านว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน

พวกผู้ใหญ่ก็กำลังพูดคุยกัน ผู้ติดตามของท่านคหบดีก็เข้าร้านไปช่วยเสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารออกมา ไม่มีใครคอยสังเกตดูเฉียนหมี่โซ่วที่กินเสร็จแล้ว

หมี่โซ่วกินเกี๊ยวอร่อยเสร็จแล้ว เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดท้อง เขาค่อยๆ ลงมาจากเก้าอี้แล้วหันไปมองดูบรรยากาศรอบด้าน ที่นี่มีบรรยากาศคึกคักมากกว่าเมืองเดิมที่พวกเขาเคยอยู่

เอ๊ะ? เขาคนนั้นนิ

ใช่เขาจริงๆ เป็นเขาแน่ เฉียนหมี่โซ่วดีใจอย่างมาก

เขาดึงชายเสื้อของท่านลุง แต่ไม่ได้พูดแทรก ท่านลุงก็ไม่ได้สนใจเขา

“ท่านป้า”

เฉียนเพ่ยอิงต้องทำตัวมีมารยาท ท่านยายท่านนี้ช่างเป็นคนพูดเก่ง นางจึงพูดตัดบทเฉียนหมี่โซ่ว “นั่งอยู่ด้านข้างรอพี่สาวของเจ้า ข้ากับท่านยายกำลังคุยกันอยู่” หลังจากนั้น นางก็หันกลับไปพูดคุยกับท่านยายต่อ

เฉียนหมี่โซ่วร้อนใจ กังวลว่าท่านแม่ทัพจะเดินไปแล้ว

หมี่โซ่วพบว่าแม่ทัพน้อยมีคนตัวใหญ่ขนาดเท่าเขาหลายคนเดินตามเข้าไปยังโรงเตี๊ยมที่อยู่ด้านข้าง

หมี่โซ่วควักเห็ดหูหวังจวินจำนวนหนึ่งที่ตากแห้งแล้วอยู่ในตะกร้าที่วางอยู่ด้านข้างโต๊ะ เขาหันกลับไปมอง กะระยะห่างระหว่างโรงเตี๊ยมกับร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้ ระยะทางไม่ไกลนัก สักครู่เขาสามารถเดินกลับมาได้ คงไม่หลงทางแน่

เด็กน้อยรีบวิ่งออกไป ตามลู่พั่นเข้าไปในโรงเตี๊ยม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว