ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 255

เสี่ยว​เอ้อร์​กวาด​หิมะ​อยู่​หน้า​ร้าน​ พอ​เห็น​พวก​ย่า​หม่า​ออกมา​ก็​วาง​ไม้กวาด​ใน​มือ​ลง​ “ท่าน​ยาย​เดิน​ระวัง​นะ​ขอรับ​”

“อือ​ ไว้​เจอกัน​ๆ”

จนกระทั่ง​ย่า​หม่า​เข็น​รถ​เดิน​ออก​ไป​ไกล​แล้ว​ เสี่ยว​เอ้อร์​ถึงได้​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​

ท่าน​ยาย​คน​นี้​คุยเก่ง​จริงๆ​ มาประเดี๋ยวเดียว​ก็​ทำให้​เถ้าแก่​หัวเราะ​ได้​ นี่​ก็​เป็น​ความสามารถ​เฉพาะ​อย่างหนึ่ง​ เจรจา​การค้า​สำเร็จ​หรือไม่​ค่อย​ว่า​กัน​ แต่​ขอ​อารมณ์ดี​ไว้​ก่อน​ใช่หรือไม่​

โดยเฉพาะ​วันนี้​ เถ้าแก่​ไม่ใช่แค่​หัวเราะ​แบบ​เซ็งๆ อย่าง​ตอน​ปกติ​ แต่​หัวเราะ​หน้าบาน​ ดู​เบิกบานใจ​

“ท่าน​ยาย​มาส่งขนมเค้ก​อีกแล้ว​หรือ​เจ้าคะ​” ภายใน​ศาลา​หลัง​น้อย​ของ​หอ​นางโลม​ สาวใช้​ข้าง​กาย​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ทักทาย​

“อ้อ​ แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ทำไม​ตื่น​เช้าขนาด​นี้​อีกแล้ว​ล่ะ​” ย่า​หม่า​รู้​ว่าที่​สาวใช้​คน​นี้​มาทักทาย​ จริงๆ​ แล้ว​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​อยาก​เรียก​นาง​เข้า​ไปหา​

แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​อาจ​ไม่ใช่อันดับ​หนึ่ง​ของ​หอ​แห่ง​นี้​ แต่​ก็​ถูก​จัด​อยู่​ใน​สามอันดับ​แรก​อย่าง​แน่นอน​

อีก​ฝ่าย​มีสถานะ​ระดับ​นั้น​แล้ว​ มีหรือ​จะมาแหกปาก​ตะโกนเรียก​นาง​ได้​ แบบ​นั้น​จะเป็นการ​เสีย​บุคลิก​ ย่อม​ให้​สาวใช้​มาเรียก​แทน​

ท่าน​ย่า​หม่า​พา​พี่​ๆ น้องๆ​ รีบ​เดิน​ไป​ที่​ศาลา​หลัง​น้อย​ “แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ ข้า​พา​คน​พวก​นี้​มาทักทาย​เจ้า วันหน้า​ข้า​อาจ​มาไม่ได้​แล้ว​ เจ้าดู​ไว้​นะ​ คน​นี้​พี่สาว​ของ​ข้า​ นาง​จะมาส่งของ​แทน​”

ทำไม​ล่ะ​

ย่า​หม่า​พูด​อย่าง​ไม่อวดดี​ว่า​ เมือง​เฟิ่งเทียน​มีตลาด​ที่​ใหญ่​กว่า​รอ​นาง​อยู่​ ที่นั่น​มีสาว​ๆ กับ​คุณหนู​จำนวนมาก​รอ​ให้​นาง​ไป​ส่งขนมเค้ก​ ตลาด​ใหญ่​กำลัง​อ้าแขน​รอ​นาง​เข้าไป​อยู่​

นาง​พูด​ต่อ​อี​กว่า​ “นี่​ก็​ญาติ​ๆ กัน​ทั้งนั้น​ ช่วยเหลือ​กัน​ คน​ที่นี่​จิต​ใจดี​ ไม่มีทาง​เกิดเรื่อง​ที่​ทำให้​พวก​นาง​ลำบาก​ พวก​นาง​ไม่มีประสบการณ์​ก็​ให้​พวก​นาง​มาส่ง ส่วน​ข้า​ก็​ไป​ที่​ใหม่​ แม่นาง​ ถ้าวันหน้า​พวก​นาง​มีตรงไหน​ที่​รบกวน​เจ้า หรือ​ไป​รบกวน​แม่นาง​คน​ไหน​ พวก​เจ้าก็​อย่า​ได้​ถือสา​เลย​นะ​”

ย่า​หม่า​พูด​จบ​ก็​ส่งสัญญาณบอก​ให้​พี่​ๆ น้องๆ​ ที่​โพก​ผ้า​เข้ามา​ทักทาย​

เหล่า​หญิง​ชรา​ดู​ตื่นตาตื่นใจ​ตั้งแต่​เข้ามา​ที่นี่​

ไม่เคย​เห็น​บ้าน​แบบนี้​ ไม่เคย​เดิน​ใน​เรือน​ที่​มีบริเวณ​ส่วนตัว​เช่นนี้​ ไม่เคย​เห็น​หญิง​งามที่​ตื่น​แต่​เช้าตรู่​ อากาศ​หนาว​ขนาด​นี้​ยัง​เอา​พัด​มาโบก​ได้​

พวก​นาง​รู้สึก​เกร็ง​ การกระทำ​จึงเงอะงะ​ไป​หน่อย​

ย่า​หม่า​ยิ้ม​ พูด​กู้​สถานการณ์​ “เจ้าดู​สิ เจ้าดู​สิ แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ หลิ่ว​เยี่ย​คิ้ว​โค้ง​มน​ ริมฝีปาก​ดุจ​อิง​เถา ใคร​เห็น​ก็​อยาก​ชายตามอง​ พี่​ๆ น้องๆ​ ของ​ข้า​มอง​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ยจน​เคลิ้ม​ไป​หมด​แล้ว​”

สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ หลุด​หัวเราะ​ หัวเราะ​เสร็จ​ก็​รีบ​มอง​สีหน้า​ของ​หลิ่ว​เยี่ย​

หลิ่ว​เยี่ย​ก็​ใช้พัด​บัง​สีหน้า​ตอน​หัวเราะ​ ทำ​ท่าทาง​บอก​ให้​ท่าน​ย่า​หม่า​นั่งลง​ ทั้ง​ยัง​ให้​สาวใช้​ไป​เรียก​ท่าน​แม่ บอ​กว่า​เวลานี้​ท่าน​แม่น่าจะ​ตรวจ​บัญชี​เสร็จ​แล้ว​ ให้​ท่าน​ย่า​หม่า​พูดคุย​กับ​นาง​ก่อน​ อีก​ประเดี๋ยว​ท่าน​แม่จะมาคิดเงิน​ให้​ที่นี่​

ย่า​หม่า​รู้อยู่​ใน​ใจว่า​หลิ่ว​เยี่ย​อยาก​ฟังเรื่อง​เมื่อวาน​ ตอนนั้น​นาง​เล่า​ไป​แค่​ครึ่ง​เดียว​ แม่เล้า​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ความรีบร้อน​ กระซิบ​ข้าง​หู​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ คาด​ว่า​คง​มีบุรุษ​ท่าน​ไหน​มา ต้องการ​พบ​หลิ่ว​เยี่ย​ ด้วยเหตุนี้​จึงเล่า​ไม่จบ​

ย่า​หม่า​เอง​ก็​หันไป​สั่งงาน​ ให้​ซ่งอิ๋นเฟิ่ง​พา​พี่​ๆ น้องๆ​ ของ​นาง​เอา​ขนม​ไป​ส่งตามที่​ที่​เคย​ส่งบ่อยๆ​ ก่อน​ เรียก​ยาย​กัว​ที่​อีกหน่อย​จะรับผิดชอบ​ส่งสินค้า​ใน​ถงเหยา​เจิ้น​มาฟังเส้นทาง​อย่าง​ละเอียด​

จากนั้น​นาง​ก็​อยู่​ใน​ศาลา​ เริ่ม​เล่าเรื่อง​เมื่อวาน​ที่​เล่า​ไม่จบ​ให้​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ฟัง หลิ่ว​เยี่ย​ฟังแล้ว​เดี๋ยว​ก็​ขมวดคิ้ว​ เดี๋ยว​ก็​ถอนหายใจ​ เดี๋ยว​ก็​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​คนเรา​ไม่นาน​ก็​ผ่าน​ไป​หลาย​สิบ​ปี​ ก็​มีอยู่​เท่านี้​

อีก​ทั้ง​ขณะ​ท่าน​ย่า​หม่า​เล่าเรื่อง​ก็​ยัง​ไม่ลืม​เรื่องสำคัญ​ มีแทรก​คำถาม​ แม่นาง​เกิด​เมื่อใด​ เพราะ​เล่า​ถึงอายุ​ของ​ตัวเอก​หญิง​ตอน​ตาย​จึงถามออกมา​ หลิ่ว​เยี่ย​ก็​ย่อม​ตอบ​เช่นกัน​

ดังนั้น​ ตอนที่​แม่เล้า​มาคิดเงิน​ให้​ ย่า​หม่า​จึงพูดว่า​ กำลังจะ​ถึงวันเกิด​ของ​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​แล้ว​ ไม่เอา​ขนมเค้ก​มาฉลอง​สักหน่อย​หรือ​

รู้​หรือไม่​ว่า​ทำไม​ถึงเรียก​ขนม​ชนิด​นี้​ว่า​ขนมเค้ก​

เพราะ​มีความหมาย​ว่า​ รื่นเริง​มีความสุข​

วันเกิด​ก็​ต้อง​รื่นเริง​มีความสุข​ใช่หรือไม่​

แม่เล้า​เป็น​คน​ขี้​งก​มาก​ ตอนแรก​ก็​ไม่พอใจ​ที่​ย่า​หม่า​พูด​แบบนี้​ ทว่า​เมื่อ​หลิ่ว​เยี่ย​พา​สาวใช้​เดิน​ออก​ไป​พลาง​จมอยู่กับ​เรื่อง​ที่​ย่า​หม่า​เล่า​ที่​ชีวิต​คนเรา​เอา​แน่​เอา​นอน​ไม่ได้​ ยาม​นี้​พูดคุย​สะดวก​แล้ว​ ย่า​หม่า​จึงเขยิบ​เข้าไป​ใกล้​แม่เล้า​พลาง​พูด​ “วันเกิด​แม่นาง​หลิ่ว​เยี่ย​ คน​พวก​นั้น​ไม่ต้อง​แสดงออก​หน่อย​หรือ​ อย่า​เอาแต่​พูด​คำหวาน​ ไม่คิด​จะจ่าย​เงิน​ซื้อ​ขนมเค้ก​ให้​หญิงสาว​หน่อย​รึ​ เกลียด​พวก​ปากหวาน​เป็น​ที่สุด​ ไม่มีอะไร​เป็นชิ้นเป็นอัน​”

แม่เล้า​ดวงตา​เป็นประกาย​

ย่า​หม่า​พูด​ต่อ​ “ไหนจะ​แม่นาง​เป่า​หวา​กับ​แม่นาง​อวิ๋น​อีก​”

“พูด​ต่อ​สิพูด​ต่อ​”

ย่า​หม่า​หรี่ตา​พูด​ต่อ​

“อย่า​เห็น​ว่า​ข้า​เดา​ไป​เรื่อยเปื่อย​ แต่​เอา​แค่​หญิงสาว​ใน​หอ​นางโลม​แห่ง​นี้​ พวก​เจ้าจำไว้​ให้​ดี​นะ​ วันดีคืนดี​พวก​นาง​อาจ​นึก​สนุก​เรียก​พวก​เจ้าเข้าไป​ให้​เล่าเรื่อง​ภายนอก​ ก็​พวก​นาง​ออก​ไป​ไหน​ไม่ได้​นี่​ พวก​เจ้าห้าม​เล่า​ชีวิต​ดี​ๆ ของ​พวกเรา​ให้​ฟังเป็นอันขาด​

พวก​นาง​ชอบ​ฟังแบบ​ที่ว่า​ ผู้หญิง​ใสซื่อ​อย่าง​พวกเรา​แต่งงาน​ไป​ พวกเรา​ก็​ต้อง​ไป​เป็น​หญิง​บ้านนอก​ดูแล​สามีแค่​คนเดียว​ ชีวิต​ลำบาก​เหลือเกิน​ เล่า​ให้​ยิ่ง​รันทด​ยิ่ง​ดี​”

“แบบ​นั้น​พวก​นาง​ฟังแล้ว​ไม่เศร้า​รึ​ ทำไม​ล่ะ​”

ย่า​หม่า​หยุด​เข็น​รถ​ สีหน้า​มีอารมณ์​ยิ่งกว่า​เดิม​ “ไอ๊ห​ยา​ อย่า​เห็น​ว่า​เป็น​แค่​หญิง​นางโลม​ แต่​ก็​ยัง​ดีกว่า​ผู้หญิง​บ้านนอก​ที่​ต้อง​ทำงาน​งก​ๆ พวก​นั้น​ พวก​นาง​ชีวิต​รันทด​จะตาย​ หญิง​ใน​เมือง​ฟังแล้ว​รู้สึก​ดี​”

“ฮ่าๆๆ”

เหล่า​หญิง​ชรา​หัวเราะ​กัน​ท้องคัดท้องแข็ง​ เก่​อเอ้อร์​นิว​หัวเราะ​จน​ตบหลัง​ย่า​หม่า​เบา​ๆ

ท่าน​ยาย​กัว​หัวเราะ​จน​น้ำตาไหล​ สูด​น้ำมูก​พลาง​เช็ด​น้ำตา​แล้ว​พูด​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ เจ้าวางใจ​ได้​ เรื่องเล่า​แบบนี้​ข้า​มีเป็น​กระบุง​ เรื่องเล่า​ของ​หญิง​บ้านนอก​ใสซื่อ​อย่าง​พวกเรา​ที่​วัน​ๆ เหนื่อย​แทบตาย​มีเยอะ​มาก​ ข้า​เล่า​ให้​ตาย​วัน​ละ​คน​ยัง​ได้​เลย​”

ณ ถงเหยา​เจิ้น​

ใน​ตลาดนัด​ บริเวณ​ตรอก​ที่​ใคร​จะออก​นอกเมือง​ไป​เยี่ยม​ญาติ​หรือ​มาหา​ซื้อ​ของ​จิปาถะ​ล้วน​ต้อง​ผ่าน​

หญิง​ชรา​ห้า​คน​รวม​ซ่งอิ๋นเฟิ่ง​อีก​หนึ่ง​ แบ่ง​ออก​เป็น​สามกลุ่ม​

เวลานี้​ทั้ง​สามกลุ่ม​แยกย้าย​กัน​ไป​แต่ละ​จุด​พร้อม​ตะโกน​

“รับซื้อ​อิฐ​เขียว​ อิฐ​แดง​ อิฐ​เก่า​ที่​ยัง​พอ​ใช้งาน​ได้​จ้า

รับซื้อ​หัวไชเท้า​ หัวไชเท้า​เนื้อ​แดง​ หัวไชเท้า​ไส้แดง​ หัวไชเท้า​ส้มจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว