ฟิลิปโปตัดสินใจไปคอนโดของวิตโตริโอ หลังจากเขาได้ยินลูกน้องของหลานรักพูดกันว่า สงสารหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกหลานรักจับมาทรมาน ทำให้คำถามมากมายอยู่ในสมองของเขา มีทางเดียวที่จะไขข้อข้องใจนี้ได้ คือพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง
“ลุงลิปโป้มาได้ยังไงครับ ทำไมไม่บอกผมก่อนล่ะครับ”
วิตโตริโอตกใจเล็กน้อยที่เห็นฟิลิปโปที่นี่ ซึ่งตอนนี้เขาไม่อยากให้ใครมาคอนโดของเขา ก่อนจะปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
“ลุงคิดถึงหลานมาหาไม่ได้หรือไง” ฟิลิปโปทำท่าทางให้เป็นปกติ “ครั้งก่อนๆ ลุงก็มาโดยไม่บอกหลานล่วงหน้า หลานก็ไม่เห็นจะพูดแบบนี้เลย หรือว่ามีอะไรปิดบังลุง ถึงได้ไม่อยากให้ลุงมาเงียบๆ”
“เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่มีอะไรปิดบังคุณลุงเลยครับ” เจ้าของห้องแก้ตัว
“ลุงเป็นคนตรงๆ พูดและทำอะไรตรงๆ ที่ลุงมาวันนี้เพราะอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องที่ได้ยินมา” เขาเริ่มเข้าเรื่อง
“พิสูจน์อะไรครับ” วิตโตริโอยังคงทำสีหน้าและแววตาเป็นปกติ ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของผู้เป็นลุง
“พิสูจน์ว่าหลานของลุงพาผู้หญิงคนหนึ่งมาทรมานที่นี่ ตามที่ลูกน้องของหลานพูดกันหรือเปล่า อย่าปิดลุงเลยถ้าคิดว่าลุงเป็นคนในครอบครัว” วิตโตริโอมองใบหน้าของผู้พูด เขาไม่เคยคิดว่าฟิลิปโปเป็นคนอื่นคนไกล นึกทุกลมหายใจว่าฟิลิปโปเป็นลุงและคนในครอบครัวของเขา ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาจะปิดบังผู้เป็นลุงได้
“ถ้าผมเล่าให้ลุงฟัง ลุงต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใคร”
“เรื่องของหลานลุงจะไม่พูดต่อ วิโตก็รู้” ฟิลิปโปรักวิตโตริโอเหมือนลูกคนหนึ่ง เขาดูแลและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด มีหลายเรื่องที่หลานรักปิดบังผู้เป็นพ่อและแม่ ซึ่งเขาเองไม่เคยแพร่งพรายให้ทั้งสองรู้ เพราะกลัวว่าหลานสุดที่รักจะถูกลงโทษ นี่กระมังที่ทำให้วิตโตริโอนิสัยเอาแต่ใจ เหลิง เพราะเขาเป็นคนให้ท้าย คอยอุ้มร่างเด็กน้อยหนีทุกครั้งที่จะถูกทิพย์ธาราจะลงโทษ
ฟิลิปโปฟังเรื่องราวต่างๆ ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก สำหรับเขา เขาคิดว่า ความผิดของปรางค์รวียังไม่แน่ชัด วิตโตริโอฟังความข้างเดียว ไม่ให้โอกาสปรางค์รวีได้อธิบาย หรือถ้าอธิบายก็คงไม่ฟัง เพราะอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นที่ฝังลึกในใจ จึงโยนความผิดทุกสิ่งอย่างให้กับเธอเพียงผู้เดียว หากเรื่องนี้เข้าหูทิพย์ธารามีหวังระเบิดลูกใหญ่ลงใส่ศีรษะของหลานสุดที่รักเป็นแน่
“ถ้าทาร่ารู้ หลานโดนหนักแน่” เขาพูดอย่างอ่อนใจกับการกระทำของวิตโตริโอ
“คุณแม่ไม่รู้หรอกครับถ้าลุงไม่บอก”
“วิโตก็รู้ว่าลุงไม่บอกแม่ของหลานแน่นอน” ทุกเรื่องของหลานรักที่เป็นความลับ มันก็จะเป็นความลับตลอดไป “ว่าแต่หลานแน่ใจนะว่าผู้หญิงคนนี้ทำแท้งจริงๆ อาจจะมีสาเหตุอื่นก็ได้ ภาพที่หลานเห็นอาจจะไม่ใช่ตามที่เพื่อนของโซเฟียบอก”
“เรื่องนั้นมันคงอีกยาวไกล เอาเรื่องใกล้ๆ ตัวก่อนดีกว่า ถ้าลุงรู้ระแคะระคายมีหรือที่พ่อกับแม่ของหลานจะไม่รู้ หูตาอย่างกับสับปะรด ลุงกลัวจริงๆ ว่าแม่ของหลานจะรู้ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าทาร่ารู้จะเป็นยังไง” ฟิลิปโปรู้นิสัยของน้องสาวบุญธรรมเป็นอย่างดี บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายขึ้นมาจากแมวตัวน้อย กลายร่างเป็นสมิงสาว ขนาดแมวตัวใหญ่ยังต้องกระเจิง สงบเสงี่ยมอย่างกับผ้าพับไว้
“คุณแม่ไม่รู้หรอกครับ ผมสั่งให้คนของผมทางนี้ปิดปากเงียบ แต่ที่คุณลุงได้ยินเป็นเพราะเหตุบังเอิญมากกว่า” ถูกอย่างที่วิตโตริโอเขาได้ยินเรื่องนี้โดยบังเอิญ แต่กลัวว่าทิพย์ธาราจะได้ยินเรื่องนี้โดยบังเอิญเหมือนกับเขาเช่นกัน มีหวังงานนี้ไม่ใครก็ใครต้องเจ็บตัวกันบ้าง
“ลุงก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น” ฟิลิปโปภาวนา “ว่าแต่พรุ่งนี้หลานจะไปเชียงใหม่หรือเปล่า งานนี้ลุงว่าหลานน่าจะไปด้วยนะ คู่แข่งของเราคนนี้แรงมาก” งานนี้วันพรุ่งนี้คืองานประกวดการออกแบบเครื่องเพชรระดับโลก ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ มีนักออกแบบและร้านจิวเวลรี่จากทุกมุมโลก ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด หนึ่งในนั้นคือโรเจอร์ เจมส์ ร้านเครื่องเพชรที่กำลังโด่งดังในยุคนี้ พยายามจะเทียบชั้นกับของดิมาร์ชี จิวเวลรี่
“ใครกันครับลุง โรเจอร์ เจมส์คนนี้ ผมได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่ไม่เคยเจอตัวสักที” ระยะสามปีมานี้ เครื่องเพชรของร้านโรเจอร์ เจมส์ พยายามตีตลาดในประเทศอิตาลี หากแต่ฐานลูกค้าและมาตรฐานของดิมาร์ชี จิวเวลรี่ เหนือชั้นกว่ามาก บริษัทคู่แข่งจึงตีตลาดไม่สำเร็จ จึงหันมาตีตลาดในแถบเอเชียแทน ทว่าก็ตีได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อความไม่ประมาท เขาพัฒนาและออกแบบเครื่องเพชรคอลเลคชั่นใหม่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ตกกระแส
“ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเหมือนกัน มีแต่ลูกน้องที่คอยออกตามงานสังคมต่างๆ แทน แต่ว่ากันว่าจะมางานนี้นะ หลานจึงต้องไปงานนี้ด้วย ทำความรู้จักและดูการออกแบบเครื่องเพชรของคู่แข่งไว้ เขาอยู่ในเงามืดมานาน ลุงคิดว่าการออกงานของเขาครั้งนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน” ฟิลิปโปอยู่ในวงการมาเฟีย และธุรกิจนี้มานาน เห็นคู่แข่งในรูปแบบต่างๆ แต่คู่แข่งที่อยู่ในเงามืด ไม่เปิดเผยตัว ย่อมมีแผนการอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ดูเหมือนงานนี้วิตโตริโอจะเจอคู่แข่งตัวฉกาจ
“ผมตั้งใจจะไปอยู่แล้วครับ งานนี้สำคัญมากคุณพ่อก็เป็นห่วงเหมือนกัน เตือนผมมาบ้างเรื่องของนายโรเจอร์ ดูเป็นปริศนายังไงก็ไม่รู้”
“ลุงจะไปเตรียมคนของเราให้พร้อมนะ เพื่อความไม่ประมาท” ฟิลิปโปพูดจบก็ลุกขึ้นยืน “ลุงไปก่อนนะพรุ่งนี้เจอกันที่สนามบินตอนเก้าโมงเช้า” ฟิลิปโปกลับออกไปหลังจากสนทนากับหลานรักเสร็จ ก่อนจะกลับเขาหันไปมองประตูห้องที่คล้องด้วยลูกกุญแจดอกใหญ่ พร้อมกับถอนหายใจออกมา แล้วมีความรู้สึกว่า อีกไม่นานที่นี่คงจะมีระเบิดลง เป็นระเบิดแห่งเพลิงอารมณ์ที่ไม่มีใครหน้าไหน หยุดยั้งได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย