ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 47

พิธีฌาปนกิจศพของสดศรีกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกยี่สิบนาทีข้างหน้า แขกเริ่มทยอยเข้ามาในศาลา โดยมีร่างของปรางค์รวีที่มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่มากแต่ดีกว่าวันวานยืนรอรับแขกอยู่หน้าศาลา กมลเนตรเดินเข้ามาในงานพร้อมกับครอบครัวดิมาร์ชีและฟรานซิสโก

ดวงตาสีเขียวของวิตโตริโอมองปรางค์รวีที่ยืนเคียงข้างศาสตรานิ่ง เขาไม่มีวันยอมให้ใครพรากเธอไปจากเขาได้อีกแล้ว ชายหนุ่มตั้งใจจะบอกความจริงทั้งหมดให้กมลเนตรได้รับรู้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ วิตโตริโอทำใจไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก และทนไม่ได้ที่เห็นปรางค์รวีมีชายอื่น

ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะนั่ง ร่างของชายคนหนึ่งเดินตรงมาทางศาลา ด้านหลังมีชายร่างหนาอีกหลายคนเดินตาม วิตโตริโอหรี่ตามองบุคคลที่เดินนำหน้า ผู้ชายคนนั้นคือโรเจอร์ เจมส์ แล้วโรเจอร์มาที่นี่ทำไม เป็นคำถามที่เขาสงสัยไม่น้อย

“พลิสซิลล่าครับผมมาตามนัดแล้วนะ” โรเจอร์ไม่แค่พูดทักทาย มือหนาฉวยมือนุ่มของปรางค์รวี กดปลายจมูกจุมพิตกลางฝ่ามืออย่างรวดเร็ว ปรางค์รวีรีบชักมือกลับทันที เธอไม่กลัวสายตาของบุคคลอื่น แต่กลัวสายตาของใครคนหนึ่งที่มองมาดั่งไฟบรรลัยกัลป์มากกว่า

โรเจอร์มองหน้าปรางค์รวีนิ่ง ผู้หญิงคนนี้ยิ่งมองยิ่งสวย เพลิดเพลิน ไม่เบื่อเหมือนหญิงสาวคนก่อนๆ ของเขา ยิ่งทำให้เขาอยากครอบครองเธอมากขึ้น

และแล้วคำตอบที่วิตโตริโออยากรู้ก็ได้รู้ ที่แท้โรเจอร์มาหาปรางค์รวี แต่ทว่าก็มีคำถามใหม่ขึ้นมาว่า โรเจอร์รู้จักปรางค์รวีได้อย่างไร แล้วเหตุใดเขาถึงไม่รู้มาก่อนว่า โรเจอร์กำลังสนใจผู้หญิงที่เขารัก และยิ่งสายตาของโรเจอร์ที่มองมายังปรางค์รวี ทำให้วิตโตริโอนั่งแทบไม่ติด จะลุกขึ้นไปตะบันหน้าศัตรูอยู่หลายครั้ง หากไม่มีมือหนาของบิดาและฟิลิปโปช่วยกันจับข้อมือเขาคนละข้าง ไม่อย่างนั้นที่นี่แหลกเป็นแถบ

“ใจเย็นๆ ดูท่าทีมันไปก่อน” ผู้เป็นพ่อกระซิบบอกข้างหูของลูกชาย พายุร้ายจำต้องสงบลงชั่วคราว

โรเจอร์หันมามองศัตรูคู่อาฆาตทางหางตา เขาเหห็นวิตโตริโอตั้งแต่เดินเข้ามาในศาลาแล้ว แต่ทำเป็นไม่สนใจเพราะเขามีคนที่น่าสนใจมากกว่า แต่ก็อยากรู้เช่นกันว่า วิตโตริโอมาที่นี่ทำไม รู้จักใครในที่นี้ ทว่าท่าทางและสีหน้าของศัตรูรายนี้ที่เขาสังเกต ฉายชัดว่าไม่ชอบใจยามที่เขาเข้าใกล้ปรางค์รวี หรือว่าวิตโตริโอสนใจในตัวปรางค์รวีเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น งานนี้สนุกแน่

วิตโตต้องใช้น้ำเย็นที่มีทั้งหมดในโลกใบนี้ชโลมรดร่างกาย เป็นเพราะภาพของโรเจอร์เอาอกเอาใจนั่งชิดติดกับปรางค์รวี แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามเบี่ยงตัวหนีแล้วก็ตาม มันทิ่มตาทิ่มใจเขาเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนั่งมองอยู่เงียบๆ อย่างรุ่มร้อนในจิตใจ จนกระทั่งงานในวันนี้เสร็จสิ้น

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณพลิสซิลล่านะครับ วันนี้ทอมสันไม่มา”

โรเจอร์เป็นคนที่ทำให้ศาสตรมาร่วมงานศพไม่ได้ ด้วยการให้ครูซไปหาศาสตรา บอกความต้องการของเขาเรื่องที่จะนำเครื่องเพชรมูลค่ากว่าห้าร้อยล้านบาท ฝากไว้ในตู้นิรภัยในบริษัทของศาสตรา และนั่นทำให้ศาสตรากับครูซต้องมีเรื่องคุยกันยาว จนศาสตราไม่อาจมาร่วมงานในวันนี้ได้ เพราะถึงอย่างไรศาสตราก็ต้องเลือกเงินที่จะได้รับนับสิบล้านบาทไว้ก่อน แผนนี้โรเจอร์คิดขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับปรางค์รวีโดยไม่มีใครขัดขวาง

ปรางค์รวีแสดงท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด หากเธอไปกับชายตรงหน้าหญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าเสือร้ายต้องแผลงฤทธิ์แน่นอน เพราะตอนนี้เสือกำลังกลายร่างอยู่รอมล่อแล้ว

“ไม่รบกวนคุณโรเจอร์ดีกว่าค่ะ พลิสซิลล่ากลับเองได้ค่ะ”

“รบกวนที่ไหนครับ ผมเต็มใจ” วิตโตริโอทนลูกตื้อของโรเจอร์ไม่ไหว พูดแทรกออกมากลางวง

“ถ้าใจดีอย่างนี้ รบกวนช่วยไปส่งแขกที่มาร่วมงานกลับบ้านให้หมดทุกคนได้ไหมครับ ดูสิครับมีแต่ผู้สูงอายุทั้งนั้น เด็กก็มี สาวก็มาก คุณโรเจอร์ชอบคนไหนเลือกได้เลยนะครับ อย่ายุ่งกับคนที่มีเจ้าของดีกว่า เพราะเสี่ยงอย่างมากที่จะโดนบาทา” วิตโตริโอพูดเสียงเข้ม แววตาที่มองไปยังโรเจอร์คล้ายจะประหัตประหารกันก็ว่าได้ ซึ่งโรเจอร์เองก็มองสบตาคู่นั้นกลับอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน

คำพูดของวิตโตริโอ มันบ่งบอกอะไรหลายอย่าง มีความหึงหวง ไม่พอใจราวกับว่า ปรางค์รวีเป็นคนรัก ทั้งที่ในความเป็นจริงจากที่นักสืบรายงานให้เขาทราบ คนรักของวิตโตริโอคือกมลเนตร ตามที่นักสืบของเขารายงาน คนรักของวิตโตริโอคือหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของวิตโตริโอ แต่ดูท่าทางมันอาจจะไม่ใช่ตามที่เขาคิด

“รถของผมไม่ใช่รถสาธารณะ เลือกเฉพาะคนที่ถูกใจเท่านั้นที่จะได้ขึ้นไปนั่ง บังเอิญเหลือเกินที่คุณพลิสซิลล่าคือคนที่ผมถูกใจและถูกใจมากๆ เสียด้วย แล้วผมก็ไม่สนใจว่า พลิสซิลล่ามีเจ้าของหรือเปล่า ถ้าผมอยากได้ก็ต้องได้ ส่วนบาทาน่ะผมไม่กลัวหรอกเพราะผมก็มีเหมือนกัน” โรเจอร์พูดอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่เกรงกลัวสายตาดุเข้มดั่งมัจจุราชของวิตโตริโอ

ปรางค์รวีมองดูเหตุการณ์ที่เริ่มตึงเครียดอยู่นาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี สมองเธอคิดอะไรไม่ออก

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ปรางค์กลับกับแม่นะลูก แม่จะไปส่ง”

ทิพย์ธาราแก้ไขสถานการณ์

“ก็ดีค่ะคุณแม่ ไปกันเลยดีกว่าคะ” ปรางค์รวีรีบตอบรับทันที “คุณโรเจอร์คะ พลิสซิลล่าขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่สละเวลามาร่วมงานศพแม่ของปรางค์” ปรางค์รวีเอ่ยขอบคุณโรเจอร์ ก่อนจะเดินตามทิพย์ธาราไปยังรถยนต์คันใหญ่

“มึงอย่างยุ่งกับเมียกู ถ้ามึงไม่เชื่อ มึงเจอดีแน่”

เสียงของวิตโตริโอลอยมา หลังจากที่ร่างของปรางค์รวีเดินลงไปจากศาลาพร้อมกับมารดาและกมลเนตร

“ใครเมียมึงมิทราบ มึงมีเมียด้วยเหรอ” อีกฝ่ายถามอย่างยอกย้อน

“ปรางค์หรือที่มึงเรียกว่าพลิสซิลล่า ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียกู มึงอย่างแตะต้องเธอเด็ดขาด หากมึงไม่อยากตายก่อนวัยอันควร”

“ความตายไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับกู สิ่งที่ยิ่งใหญ่คือชัยชนะเหนือมึงต่างหาก มึงอย่าคิดว่ามึงจะเหนือกว่าคนอื่น สูงกว่าคนอื่น ระวังนะตกลงมาจากที่สูงเมื่อไหร่ กูจะกระทืบซ้ำให้จมดินเลย”

“ก่อนทึ่งจะกระทืบกู กูคงคงสอยมึงไปลงนรกแล้ว” วิตโตริโอจ้องหน้าคู่กรณี ดวงตาสีเขียวมรกต แดงฉานด้วยความโกรธที่ลุกลามไปทั่วร่าง

“แล้วกูจะคอยดูว่าใครลงนรกก่อนกัน” โรเจอร์จ้องดวงตาคู่ร้ายนิ่ง ไม่หวาดหวั่นกับสงครามที่กำลังจะอุบัติขึ้น ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำลายล้างชายตรงหน้าให้ย่อยยับ ให้ตายทั้งเป็น จากนั้นเขาจะมอบความตายที่ทุกข์ทรมานให้กับวิตโตริโอ ให้สาสมกับที่ทำให้มาเรียน้องสาวสุดที่รัก

“สงสัยงานนี้ไอ้โรเจอร์มันเอาจริงนะ สายตาของมันที่มองปรางค์ พ่อดูออกว่ามันต้องการอะไร” อเล็สซานโดรพูดกับลูกชาย หลังจากที่โรเจอร์เดินห่างออกไป

“มันจะไม่มีวันแตะต้องปรางค์ได้ ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติหน้า”

“ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ ไอ้นี่มันรอบจัด ครั้งก่อนก็ส่งคนมาวางเพลิงโกดังไม่ใช่เหรอ”

“ตาบ้า ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว” ภัทราอายจนไม่สามารถสู้หน้าเขาได้ มีทางเดียวเท่านั้นคือเดินหนี

“ที่รักจ๋า เดี๋ยวไปส่งนะจ๊ะ” เขาวิ่งมาดักหน้าสาวน้อยหน้าแดง

“ไม่ ฉันมีมือมีเท้ากลับเองได้”

“รู้แล้วว่ามีมือมีเท้า แต่อยากไปส่ง จะไปดีๆ หรือว่าจะให้อุ้มไป เลือกเอา” รังสรรค์รู้วิธีจัดการกับแม่จอมยุ่งของเขา ภัทราหน้างอเธอรู้ว่าเขาทำจริงอย่างที่พูดแน่ หญิงสาวทำได้เพียงเดินกระแทกเท้าไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกล

“แล้วคุณไม่ต้องตามไปปรนนิบัติเจ้านายของคุณหรือไง” ภัทราถามเมื่อเข้ามานั่งบนรถหรู

“ไม่หรอกผมขออนุญาตเจ้านายมาหาเมียหาแม่ของลูกในอนาคต เจ้านายบอกรีบไปหาเลยก่อนที่จะไม่มีแรงทำลูก” เป็นอีกครั้งที่เธออยากจะกรีดร้องให้ลั่นรถ เจ้านายกับลูกน้องเหมือนกันจริงๆ ตั้งท่าจะผลิตแต่ลูก

“ก็ไปหาสิ มาหาฉันทำไม” เธอพูดไปหน้าแดงไป แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าคนที่เขาหมายถึงคือตัวเธอ

“คุณคือผู้หญิงที่ผมรักและเลือกที่จะเป็นคู่ชีวิต เป็นแม่ของลูก ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพร้อม ไม่ร่ำรวย แต่ผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้คุณลำบาก คุณมั่นใจในตัวของผมได้” รังสรรค์พูดออกมาจากหัวใจ เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน ตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกในลิฟต์ตัวนั้น มันทำให้หัวใจของเขาผลิบานไปด้วยความรัก เขาเฝ้าดู เฝ้ามองหญิงสาวตรงหน้านี้มานานแรมปี ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึก เพราะเจอหน้ากันทีไรก็เป็นไม่เบื่อไม้เมากันทุกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาอยากจะบ้า “ฉันเกลียดเจ้านายคุณ ก็เลยเกลียดหน้าคุณไปด้วย”

ภัทราหน้าแดงกล่ำด้วยความเขินอาย เป็นความเขินอายที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในชีวิต ไม่คิดว่าชายตรงหน้าที่ปั่นป่วนหัวใจของเธอมาตลอดนั้น อยากให้มีชีวิตคู่ร่วมกับเธอ

“คุณ...คุณขอฉันเป็นแฟนหรือยังล่ะ ถ้ายังก็รีบขอจะให้แต่งงานด้วยแต่ไม่ขอเป็นแฟน มีที่ไหน” ภัทราพูดโดยไม่มองหน้า จะมองได้ยังไงแค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว รังสรรค์ยิ้มกว้าง จับมือนุ่มด้วยมือที่แสนอบอุ่นของเขา ยกขึ้นจูบที่กลางฝ่ามือ

“เป็นแฟนกับผมได้หรือเปล่าครับคุณภัทรา” ภัทราหันมามองใบหน้าผู้พูด เธอส่งยิ้มหวานให้กับเขา

“คุณกล้าขอ ฉันก็กล้ารับ” หญิงสาวตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาทันทีที่พูดจบ ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมนุ่ม ไล่มาตามลำคอ แก้มนวล อีกเพียงนิดจะถึงปากนุ่ม ภัทรารีบเอามือปิดปากเขาได้ทันท่วงทีก่อนที่เขาจะทาบทับเรียวปากของเธอ

“ที่นี่อยู่ในเขตวัดนะคะ ไม่สมควรอย่างแรง” ภัทราร้องห้าม

“แต่ถ้าเป็นที่อื่นไม่ห้ามใช่ไหม” เขาถามยิ้มๆ ใบหน้ากวนสุดๆ ยักคิ้วหลิ่วตาน่าหมันไส้จริงๆ

“บ้า...ฉันอยากกลับบ้านแล้ว” เธอผลักร่างหนาให้ออกห่าง เดินหนีไปดื้อๆ ในที่สุดความรักของหนุ่มจอมกวนกับสาวจอมยุ่ง ก็ลงเอยกันเสียทีเหลือเพียงความรักที่เคล้าน้ำตาของหญิงชายอีกสองคู่ ที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย