บทที่ 14 คำยุยง /2
ด้วยเพราะพลานุภาพอัคคีนิลกาฬในกายของรวี่เยว่ มาจากศิลามหาเทวะธาตุหยินหยาง จึงทรงพลังยิ่งกว่าอัคคีนิลกาฬของผู้ที่มีตบะในระดับเดียวกันไปมากโข ชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนลึกลับที่เกิดขึ้น ร่างสูงแวบหายจากตำหนัก มาปรากฏกายอยู่หน้าประตูใหญ่ในเสี้ยวลมหายใจ
ครั้นเห็นว่าเป็นใคร สุ้มเสียงทุ้มต่ำกล่าวถ้อยคำขึ้นอย่างยินดี
“รวี่เยว่! เป็นเจ้านั่นเอง ข้าดีใจที่เจ้ายอมรับคำเชิญของข้า”
อวี้เหวินเทียนหยาร่อนลงพื้นสาวเท้ามาหาร่างเล็กด้วยท่วงท่างามสง่า
“เส้นทางขึ้นภูผาลำบากไม่น้อย แต่เจ้าก็สามารถผ่านขึ้นมาได้โดยปราศจากรอยขีดข่วน นับว่าฝีมือล้ำเลิศจริงๆ”
ชายหนุ่มกล่าววาจาชื่นชมร่างเล็กอย่างอ่อนโยน ก่อนปรายตามองเฉียนเยียนหรานด้วยสายตาคมกริบ ถึงไม่ถามเขาก็พอคาดเดาสถานการณ์ออก
คนถูกมองสะดุ้งเฮือก เหงื่อกาฬแตกเต็มเผ่นหลัง รีบก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาผู้เป็นใหญ่รองจากองค์ราชาของตำหนักเทวาอนธการ
“กักบริเวณเฉียนเยียนหรานสามเดือน งดโอสถเสริมพลังทุกชนิดครึ่งปี! ส่วนบ่าวไพร่ที่ติดตามมาลงโทษตามกฎ ความผิดฐานปล่อยให้นายของตน กระทำการหยาบคายกับแขกของข้า!”
“ท่านอ๋อง ไม่นะเพคะ” เฉียนเยียนหรานเงยหน้าส่งเสียงคร่ำครวญ
“หุบปาก!!” อวี้เหวินเทียนหยากล่าววาจาเสียงเย็นเนิบนาบ โดยที่ไม่คิดจะชายตาแล
‘โห แค่คำว่าหุบปากคำเดียว แต่ละคนทำหน้าอย่างกับโดนสั่งประหาร น่านับถือจริงๆ’ รวี่เยว่แอบอุทานและชื่นชมชินอ๋องในใจ
คำสั่งของอวี้เหวินเทียนหยาคือประกาศิต บทลงโทษถูกจารึกลงในหอบำเพ็ญและหอโอสถของตำหนักทันที
ร่างสูงหันมาหาร่างเล็ก แบมือให้รวี่เยว่จับและแวบหายไปจากตรงนั้น
“เจ้าเดินทางมาไกลคงเหนื่อยแล้ว มาเถอะ ข้าจะพาไปพัก”
ทิ้งให้เฉียนเยียนหราน รวมถึงข้ารับใช้ของนางที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้นเย็นๆ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาคำโต เป็นผลพวงจากการถูกแรงกดดัน ของตบะระดับกึ่งเทพเล่นงาน…ไม่ตายอยู่ตรงนั้นก็นับว่าชินอ๋องเมตตามากแล้ว
เวลาปัจจุบัน…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง