The king of War นิยาย บท 10

บทที่10 ออกคำสั่ง

เช้าของวันถัดมา ชั้นบนสุดของซานเหอกรุ๊ป

ทุกๆวันจันทร์คือวันประชุมของบริษัท ตอนนี้สายเลือดตระกูลฉินต่างก็นั่งล้อมรอบโต๊ะประชุม

“ฉินซี ได้ข่าวว่าสามีไร้ประโยชน์ที่หายตัวไปห้าปีของเธอกลับมาแล้ว?”

ผู้ชายที่พูดคือลูกพี่ลูกน้องของฉินซี ชื่อฉินเฟย เห็นฉินซีเข้าห้องประชุมมา ใบหน้าเขาก็ยิ้มแย้ม

“เขากลับไม่กลับมา เกี่ยวอะไรกับนาย?”ฉินซีขมวดคิ้ว แล้วก็ถามกลับ

“ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ตระกูลฉินเกือบล้มละลายก็เพราะเรื่องอื้อฉาวของพวกเธอ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ตระกูลฉินคงจะเป็นตระกูลระดับหนึ่งของเจียงโจวแล้ว”

ฉินเฟยท่าทางประชดประชัน แล้วก็พูดต่อว่า “ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คงจะไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ไม่คิดเลยว่าเธอยังมีหน้าคลอดเด็กเวรนั่นออกมา ช่างเป็นความอัปยศของตระกูลฉินจริงๆ”

“นายหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”ฉินซีเด้งตัวลุกขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห

จะว่าเธอยังไงก็ได้ ยกเว้นแต่ลูกสาวเธอ นี่เป็นจุดอ่อนของเธอ ว่าไม่ได้แตะไม่ได้

สายเลือดของตระกูลฉินทั้งห้อง กลับไม่มีใครยื่นมือออกมาช่วยฉินซีพูดสักคน ต่างก็ทำหน้าท่าทางสมน้ำหน้าและรอดูเรื่องสนุก

“นายท่านมาแล้ว!”

ฉินเฟยกำลังจะพูด อยู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าประตู เขามองหน้าฉินซีอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

แล้วก็เห็นนายท่านฉินที่หัวหงอกเดินเข้าห้องประชุม นั่งที่ตำแหน่งท่านประธาน

ตระกูลฉินเองก็มีบริษัทในเครือไม่น้อย แต่ซานเหอกรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทเดียวที่เติบโตได้ดีที่สุด และก็เพราะอย่างนี้ หลังจากที่นายท่านฉินยึดซานเหอกรุ๊ปเป็นของตระกูลเมื่อสี่ปีก่อน ที่นี่ก็กลายเป็นฐานหลักของตระกูล

ทุกครั้งที่นั่งประชุมที่นี่ ในใจฉินซีก็จะเจ็บปวดเสมอ นี่คือธุรกิจที่เธอก่อตั้งมาเองกับมือ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นของตระกูล แม้ว่าในใจจะไม่พอใจมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างก็เป็นผลสรุปอย่างนี้ไปแล้ว

ถึงแม้ว่านายท่านฉินจะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะออกจากตำแหน่ง แต่กลับยึดตำแหน่งผู้นำของตระกูลไว้ในกำมืออย่างแน่นหนา

เขากวาดมองทุกคน จากนั้นก็พูดขึ้น “เดือนที่แล้ว ตระกูลอวี่เหวินแห่งเยนตู ก่อตั้งบริษัทสาขาในเจียงโจว ช่วงนี้ กำลังเป็นช่วงที่เตรียมการ ฉันได้ข่าวใหม่ล่าสุดมาว่า สาขาย่อยจะเปิดอย่างเป็นทางการในไม่กี่วันนี้ ตระกูลร่ำรวยมากมาย พยายามคิดหาวิธีที่จะร่วมธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป และตระกูลฉินของเรา ก็ห้ามรั้งท้ายเด็ดขาด พูดได้ว่า ตระกูลฉินจะขึ้นเป็นตระกูลระดับหนึ่งได้มั้ยก็ต้องดูว่าพวกเราสามารถร่วมธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปรึเปล่า”

ได้ยินคำพูดของนายท่าน ทุกคนต่างก็กระตือรือร้น มีคนถึงกับถามออกไปตรงๆว่า “นายท่าน ถ้าหากเอาสัญญาร่วมธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาได้ จะมีของรางวัลอะไรให้ใช่มั้ย?”

นายท่านมองดูคนที่พูดขึ้น หัวเราะเยาะ “ถ้าหากมีคนเอาสัญญาร่วมธุรกิจจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาได้ คนนั้นก็จะสามารถขึ้นมาอยู่ตำแหน่งของประธานซานเหอกรุ๊ป”

ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนถึงกับตะลึง เพื่อที่จะได้สัญญาร่วมธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป นายท่านถึงกับยอมเอาซานเหอกรุ๊ปมาเป็นรางวัล

ฉินซีกัดริมฝีปากสีแดงแน่น ซานเหอกรุ๊ปเป็นของเธอแต่แรก อยากได้สัญญาร่วมธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปนั้นเห็นได้ชัดว่ายากมาก ไม่อย่างนั้นนายท่านก็คงไม่เอาตำแหน่งท่านประธานมาเป็นของรางวัลหรอก

ชั่วขณะทุกคนก็มองไปยังฉินซีและฉินเฟยสลับกัน

“เสี่ยวซี เรื่องของเธอกับไอ้ขยะนั่น ทุกคนต่างก็รู้ เพิ่งแต่งงาน มันก็หายไปห้าปี ระหว่างพวกเธอไม่มีความรู้สึกต่อกัน ยังเทียบไม่ได้กับการแต่งงานกับหวังเจี้ยน อย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยเหลือตระกูล ยังไงก็ดีกว่าไอ้ขยะนั่นที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”นายท่านมองฉินซีแล้วพูด

ฉินซีกัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าหนักแน่น แล้วส่ายหัว “คุณปู่คะ ชีวิตนี้ หนูเป็นคนของหยางเฉิน และจะมีเขาเป็นสามีแค่เพียงคนเดียว”

ปัง!

นายท่านฟาดมือตบลงบนโต๊ะ ตะโกนอย่างโมโหว่า “ห้าปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องอื้อฉาวของแกกับไอ้สวะนั่น ตระกูลฉินก็คงเป็นตระกูลระดับหนึ่งแล้ว หรือว่าห้าปีหลัง แกยังจะทำลายอนาคตของตระกูลฉินอีกหรอ?”

ฉินซีกัดริมฝีปากแน่น สองมือกำหมัดแน่น แต่กลับไม่รู้สึกตัวว่าเล็บนั้นเจาะเข้าไปในเนื้อแล้ว เพราะว่าตอนนี้ในใจเธอเจ็บยิ่งกว่า

ฐานะที่ตระกูลฉินมีอยู่ทุกวันนี้ ก็พึ่งพาซานเหอกรุ๊ปทั้งนั้น นายท่านไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณความเสียสละที่เธอมีต่อตระกูลฉิน แต่กลับเอาเรื่องที่ตระกูลฉินไม่สามารถขึ้นเป็นตระกูลระดับหนึ่งมาลงที่ตัวเธออีก

“เรื่องนี้ตกลงอย่างนี้แหละ จบการประชุม ฉันจะติดต่อผู้นำตระกูลหวังเอง คุยเกี่ยวกับเรื่องของงานแต่งงาน”

นายท่านตัดสินใจ เหมือนกับไม่สนใจว่าฉินซีจะตอบตกลงมั้ย

“ผมยังมีชีวิตอยู่ดีๆ พวกคุณก็เอาแต่อยากให้ภรรยาของผมแต่งงานใหม่ สิ่งที่เธอไม่เต็มใจทำ คนอื่นจะออกคำสั่งได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ในตอนนี้เองน้ำเสียงที่เย็นชามากดังขึ้น จากนั้นก็เห็นร่างกายคนที่คุ้นเคยมาปรากฏตัวในห้องประชุม

ในระหว่างที่ผู้คนสายเลือดตระกูลฉินทั้งหลายกำลังตกใจ หยางเฉินเดินไปที่ข้างกายฉินซีแล้วก็นั่งลง มองเธออย่างอ่อนโยน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไปจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเธอทั้งนั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War