ลี่เฉินขมวดคิ้ว มองหยางเฉินและถามว่า “คุณคิดจะอาศัยเผยเชียนอิน เพื่อค้นหาธิดาหิมะเหรอ?”
หยางเฉินพยักหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตอนนี้มีเพียงของสุดเย็นเท่านั้น ถึงจะสามารถระงับพลังของดวงสายมังกรที่อยู่ในร่างกายของหม่าชาว และดูเหมือนว่าฉินยีจะสืบทอดพลังที่เย็นยะเยือกบางอย่าง ผมเดาว่าเธอต้องมีของสุดเย็นอย่างแน่นอน”
ลี่เฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังกังวลอะไร
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ลี่เฉินก็มองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “หยางเฉิน วิธีนี้ไม่ได้ผลหรอก เรามาคิดหาวิธีอื่นเถอะ!”
หยางเฉินรู้สึกกังวลในทันที “เวลานี้มีทางเดียวที่อยู่ตรงหน้า แล้วทำไมยังต้องคิดหาวิธีอื่น? ผู้อาวุโส หรือว่าท่านรู้อะไร?”
ลี่เฉินพูดว่า “คุณจำได้ไหม ก่อนหน้านี้เผยเชียนอินคุกเข่าต่อหน้าฉินยี และเรียกฝ่ายตรงข้ามว่าธิดาหิมะ?”
หยางเฉินพยักหน้า แม้ว่าตอนนั้นสถานการณ์ของเขาจะอยู่ในช่วงวิกฤตมาก แต่เขาก็สังเกตเห็นที่เผยเชียนอินคุกเข่าตรงหน้าฉินยี
เมื่อกี้เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่สงบ เขาถึงได้สติ เผยเชียนอินถึงกับคุกเข่าลงต่อหน้าฉินยี
ฉินยีไม่ใช่ลูกศิษย์ของเผยเชียนอินเหรอ? แต่ทำไมจู่ๆเผยเชียนอินจึงคุกเข่าให้ฉินยี
ยิ่งคิด ในใจหยางเฉินก็ยิ่งประหลาดใจมาก
หยางเฉินสีหน้าเคร่งขรึม ถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่ฉินยีถูกจิตวิญญาณของผู้แข็งแกร่งโบราณกาลคนไหนครอบครองร่างกาย?”
ก่อนหน้านี้เขาก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในเมื่อจิตวิญญาณของเทพมารก็ยังเคยอยู่ในร่างกายของเขาเช่นกัน
โชคดีที่จิตวิญญาณของเทพมารไม่ได้คิดร้ายต่อเขา ตรงกันข้ามยังช่วยเหลือตัวเองได้รับสายเลือดของโบราณกามเทพมารและเทพธิดาและยังมีราชาผู้แข็งแกร่งทั้งสามท่านนี้
และเป็นการหลอมรวมสายเลือดของผู้มีอิทธิพลของดบราณกาลทั้งสามท่านนี้ ความแข็งแกร่งภายในร่างของตนเองจึงได้แข็งแกร่งเหมือนในตอนนี้ และพลังของเขาก็ได้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่า
หยางเฉินกำลังคิดฟุ้งซ่าน แต่ลี่เฉินส่ายหัว และพูดด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “อยู่ในสำนักเซิ่งกง มีวิธีการบำเพ็ญสืบทอดอย่างหนึ่ง มีเพียงเจ้าสำนักและเทพธิดาในสำนักเซิ่งกงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการบำเพ็ญ และวิธีการบำเพ็ญนี้ เรียกอีกอย่างว่าวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด หากผมทายไม่ผิด สิ่งที่ฉินยีบำเพ็ญก็คือวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด”
หยางเฉินสงสัย “วิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด? แต่ว่า เรื่องนี้กับเรื่องที่เขาจะไปหาฉินยี แล้วเกี่ยวข้องอะไร?"
ลี่เฉินพูดว่า “คุณอาจไม่เข้าใจมากนักเกี่ยวกับวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด หากคุณรู้ถึงความร้ายกาจของวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด ก็จะเข้าใจ ทำไมผมถึงห้ามคุณไม่ให้ไปตามหาฉินยี”
“ก่อนหน้านี้ที่เผยเชียนอินคุกเข่าต่อหน้าฉินยี เรียกอีกฝ่ายว่าธิดาหิมะ แต่ธิดาหิมะก็คือผู้ก่อสร้างสำนักเซิ่งกง ในยุคเทพนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดเป็นผู้แข็งแกร่งที่น่าเคารพในระดับแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด และอาจกล่าวได้ว่า อีกฝ่ายได้ก้าวข้ามแดนนภาไปแล้ว”
“เพียงแต่ ในช่วงเวลาโบราณกาล เวลาการฝ่าฟันภัยพิบัติ ภัยพิบัติสวรรค์ที่ต้องการชีวิต เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิดของเธอนั้น ถึงกับได้ปกป้องชีวิตของเธอไว้”
“ดังนั้น ฉินยีในวันนี้ ไม่ใช่แค่เป็นเธอในชีวิตนี้ แต่เป็นธิดาหิมะที่หลอมรวมวิถีการกลับชาติมาเกิดอย่างสิ้นเชิง!”
“หากต้องการให้เธอออกตัวช่วยหม่าชาว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากทำให้เธอโกรธขึ้นมา บางทีเธออาจฆ่าคุณด้วยซ้ำ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของลี่เฉิน สีหน้าของหยางเฉินเฉื่อยชา
ฉินยีไม่ใช่ฉินยีคนเดิมอีกต่อไปแล้วเหรอ?
เป็นไปได้อย่างไร?
แต่หากไม่ใช่แบบนี้ แล้วทำไมเผยเชียนอินถึงเรียกฉินยีว่าธิดาหิมะ?
หากตัวเองไปหาเธอจริงๆ เธอจะฆ่าตัวเองจริงไหม?
หยางเฉินเหลือบมองหม่าชาวที่ยังอยู่ในอาการโคม่า ด้วยสีหน้าที่สับสน
ถ้าหากฉินยีเป็นธิดาหิมะผู้แข็งแกร่งและน่านับถือของโบราณกาลจริง ถ้างั้น เธอยังจำตัวเองได้ไหม?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยางเฉินพูดด้วยความโกรธ “ผมไม่เชื่อ เธอจะลืมผมจนหมดสิ้น แม้ว่าเธอจะฆ่าผม ผมก็จำเป็นต้องไปพบเธอ!”
ถึงแม้ไม่มีเรื่องของหม่าชาว แต่หยางเฉินก็จำเป็นต้องไปหาฉินยี
ทั้งสองเดินออกไปไม่นาน ไป๋หลี่จิงหวินก็วิ่งตามมา
“หยางเฉิน คุณอย่าวู่วาม เวลานี้ไปหาธิดาหิมะ เป็นการไปหาที่ตายชัดๆ ถึงแม้จะเป็นโลกบู๊โบราณบน ธิดาหิมะก็เป็นบุคคลชั้นยอดในตำนาน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมช่วยคุณ?”
ไป๋หลี่จิงหวินยืนขวางอยู่ข้างหน้าหยางเฉินกับลี่เฉิน และพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “สำหรับคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การช่วยคน แต่ควรหาวิธีซ่อนตัวมากกว่า”
“หม่าชาวพี่น้องที่ดีของคุณฆ่าไป๋หลี่ว่างเยว่ ราชวงศ์ไป๋หลี่ไม่มีวันปล่อยพวกคุณแน่”
หยางเฉินค่อยๆมองไปที่ไป๋หลี่จิงหวินแล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องขอพวกงเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ หากคุณไม่อยากเดือดร้อน คุณควรจะจากไปเดี๋ยวนี้”
ไป๋หลี่จิงหวินโกรธทันที และพูดอย่างโมโหว่า “หยางเฉิน คุณรู้จักพลังของโลกบู๊โบราณชั้นยอดไหมว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน? ราชวงศ์ไป๋หลี่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นยอด ฉันยอมรับว่าพลังของคุณแข็งแกร่งมาก และพรสวรรค์ด้านบูโดก็สูงมากเช่นกัน แต่อาศัยคุณในตอนนี้ แต่ถ้าผู้แข็งแกร่งของโลกบู๊โบราณแดนนภาขั้นสามชั้นยอดมา คุณสามารถรับมือไหวไหม?”
“ตอนนี้ คุณทำได้เพียงยอมตกลงเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์เท่านั้น หลังจากกลายเป็นจอมพลทั้งสิบของพันธมิตรพิทักษ์แล้ว ถึงจะสามารถปกป้องตัวเองได้ และปกป้องคนรอบข้างของคุณ”
หยางเฉินขมวดคิ้ว และมองไป๋หลี่จิงหวินแล้วพูดว่า “ผมพูดอย่างชัดเจนแล้ว ให้ผมเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ มันเป็นไปไม่ได้! คุณสามารถบอกผมเรื่องพวกนี้ ผมรู้สึกขอบคุณมาก และขอเชิญคุณไปจากที่นี่เถอะ!”
ไม่ว่ายังไง ไป๋หลี่จิงหวินก็คือคนที่คุ้มค่าที่จะคบหาเป็นเพื่อน แต่หยางเฉินตระหนักชัดเจนถึงสถานการณ์ของตนเองในตอนนี้ เป็นเพื่อนกับไป๋หลี่จิงหวินนั่นก็คือการชดใช้ให้กับ ไป๋หลี่จิงหวิน
และเขาก็ไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ แต่ว่า เขาไม่เชื่อใจพันธมิตรพิทักษ์ ถึงแม้จะเข้าร่วมจริงๆ ก็ต้องรอตนเองเข้าใจเรื่องพันธมิตรพิทักษ์มากพอ มั่นใจว่าพันธมิตรพิทักษ์เป็นกองกำลังที่คุ้มค่าจะเข้าร่วม เขาถึงจะตกลง
อย่างน้อยตอนนี้ เขาไม่มีความคิดที่จะเข้าร่วม
สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการระงับดวงสายมังกรในร่างกายของหม่าชาว
“ผมจะไม่ยอมเห็นคุณไปตายฟรีๆ อยากไปหาธิดาหิมะก็ได้ เอาชนะผมก่อนค่อยว่ากัน!”
ไป๋หลี่จิงหวินตะโกนอย่างโกรธเคือง และพุ่งเข้าหาหยางเฉินโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...