การกระทำของเฉินซิงไห่ไวมาก รีบรวบรวมญาติพี่น้องในตระกูล ปรึกษาหารือในเรื่องที่จะจัดการตระกูลหยวน
ตอนที่คนของตระกูลเฉินรับรู้ว่าต้องลงมือกับตระกูลหยวน ต่างทำหน้าตื่นตกใจ
หลายปีมาขนาดนี้ ตระกูลหยวนและตระกูลเฉินร่วมมือกันปีนขึ้นยอดบนสุดของเมืองโจวเฉิง ภายนอกดูกลมกลืนกันมากมาโดยตลอด
เพราะเหตุนี้ ตำแหน่งของสองตระกูลใหญ่ที่เมืองโจวเฉิง จึงไม่มีทางถูกสั่นสะเทือนมาโดยตลอด
ปัจจุบันนี้ เฉินซิงไห่อยากลงมือกับตระกูลหยวนแบบกะทันหัน แค่คิดก็รู้ถึงความตกใจของทุกคน
“เรื่องนี้ จัดเป็นความลับสุดยอดของตระกูลเฉิน ถ้าให้ฉันรู้ว่ามีใครกล้าเปิดเผยไป ตายสถานเดียว!”
เฉินซิงไห่นั่งอยู่ตำแหน่งหัวหน้า หน้าตาเย็นชา
“ผู้นำครับ ผมอยากรู้ว่าทำไมถึงอยากลงมือกับตระกูลหยวนขึ้นมากะทันหันครับ?”
มีคนเอ่ยปากถามว่า “ตระกูลหยวนกับตระกูลเฉินของพวกเราความสามารถพอๆ กัน ถ้าลงมือมีแต่จะสร้างเหตุการณ์ที่พังเสียหายทั้งสองฝ่าย ถึงตอนนั้นเกรงว่าสถานการณ์ทั้งเมืองโจวเฉิงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเราตระกูลเฉินจะต้องชดใช้มหาศาลเพราะเหตุนี้”
เฉินซิงไห่มองคนที่พูดนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา “ฉันเคยทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจตั้งแต่เมื่อไร? พวกแกแค่ต้องไปทำตามคำสั่งของฉันเท่านั้นก็พอ!”
“ครับ ผู้นำ!”
ทุกคนต่างตอบรับ
เฉินซิงไห่ในฐานะผู้นำ แต่ไหนแต่ไรพอพูดออกไปแล้วย่อมทำได้แน่นอน ที่ตระกูลเฉิน มีคนสงสัยในการตัดสินใจของเขา แต่กลับไม่มีคนกล้าไม่เชื่อฟัง
ไม่นานคนตระกูลเฉินต่างฟังคำสั่งของเฉินซิงไห่ ออกไปทำธุระแล้ว
ส่วนเฉินซิงไห่ก็โทรศัพท์เข้าไปหาลั่วปิง “ทุกคนตระกูลเฉินเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สามารถลงมือได้ทุกเมื่อ!”
แม้ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่กลับอธิบายการตัดสินใจของตระกูลเฉินได้แล้ว
ลั่วปิงฉีกมุมปากขึ้น ค่อยๆ เอ่ยปากบอกว่า “งั้นก็เริ่มเลยเถอะ!”
ในเวลาเดียวกัน ตระกูลหยวน
คฤหาสน์เดี่ยวที่หรูหราหลังหนึ่ง โดยรอบห้องหนังสือ แขวนศิลปะคัดลายมือชื่อดังสารพัดแบบไว้เต็มไปหมด
ผู้นำตระกูลหยวน หยวนซื่อหวู่ เวลานี้ในมือถือพู่กันขนอีเห็นชั้นดี กำลังก้มหน้าฝึกฝนการคัดลายมือ
ปลายพู่กันลื่นไหลบนกระดาษสีขาว ตวัดพู่กันออกมาได้อย่างเฉียบแหลม
“ฮ่าๆ! ตัวนี้เขียนได้ดี!”
หลังจากหยวนซื่อหวู่เขียนตัวอักษรหนึ่งเสร็จ หัวเราะเสียงดังขึ้นมาแบบพึงพอใจมาก
“ปึง!”
ในเวลานี้เอง ประตูห้องหนังสือโดนคนกระแทกเปิดฉับพลัน
“ผู้นำครับ ไม่ดีแล้วครับ!”
พ่อบ้านที่ผมสีดอกเลาคนหนึ่ง หน้าตาเต็มไปด้วยความสับสน
หยวนซื่อหวู่ที่เมื่อสักครู่อารมณ์ดีมากๆ อยู่ ถูกพ่อบ้านพังประตูเข้ามาแบบนี้ ทำลายอารมณ์หมดแล้ว
“รีบร้อนอะไร? ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ก็มีคนต้านเอาไว้อยู่ดี!”
หยวนซื่อหวู่พูดอย่างเย็นชา “ว่ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”
“ผู้นำครับ เมื่อสักครู่นี้ ได้รับสายทวงหนี้จากธนาคารทางนั้น บอกว่ามูลค่าทรัพย์สินของพวกเราตระกูลหยวนไม่ผ่านเกณฑ์ จะเอาเงินกู้คืนครับ”
“แล้วยังมีอินลวนกรุ๊ปที่ถูกศาลตรวจสอบและอายัด บอกว่าเรื่องบัญชีมีปัญหาครับ”
“ยังมีผู้บริหารระดับสูงของเฉิงกงกรุ๊ป รวมตัวกันลาออกด้วยครับ อีกทั้งหุ้นของเฉิงกงกรุ๊ปยังถูกเทขายไปจำนวนมากภายในช่วงห้านาทีสั้นๆ ราคาของบริษัทในตลาดก็หายไปถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับ!”
“แล้วยังมี......”
พ่อบ้านบอกข่าวที่ทำให้คนตื่นตกใจมาหลายเรื่องในรวดเดียว
บนหน้าที่เรียบเฉยใบนั้นของหยวนซื่อหวู่ ชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปมาก “สรุปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมถึงเกิดปัญหามากขนาดนี้ได้?”
“ผู้นำครับ ใครๆ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านรีบหาวิธีจัดการดีกว่าครับ! ภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้ายังไม่สามารถรวบรวมเงินสดก้อนใหญ่ได้ ตระกูลหยวนคงต้องจบเห่จริงๆ แล้ว!”
พ่อบ้านใกล้จะร้องไห้แล้ว หน้าดูร้อนรนเต็มที่
ตอนที่ตระกูลหยวนเจอกับสถานการณ์ที่วุ่นวาย เฉินซิงไห่ก็รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยวน หัวใจของเขาเต้นรัวตุบๆ
เดิมทีเขายังสงสัยอยู่บ้าง จนกระทั่งตอนนี้ถึงรู้ว่าหยางเฉินสามารถทำให้ตระกูลหยวนพังพินาศไปได้อย่างง่ายดายจริงๆ
หยวนซื่อหวู่กล่าวอย่างเดือดดาล
“เห็นแก่ที่มีมิตรไมตรีกันมาหลายปี ขอแค่นายเอาหยวนมู่กับหยวนเซ่าออกมาให้ ฉันสามารถให้โอกาสรอดกับนายได้สักครั้ง!”
เฉินซิงไห่เอ่ยปากบอก
เหตุผลที่เขาพาคนมาที่ตระกูลหยวน นอกจากไล่ตระกูลหยวนออกไปจากเมืองโจวเฉิงแล้ว ยังมีอีกภารกิจหนึ่ง นั่นก็คือพาตัวหยวนมู่และหยวนเซ่าไป
หยวนซื่อหวู่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ทันใดนั้นเขานึกขึ้นได้แล้ว สาเหตุที่ตระกูลหยวนเจอกับหายนะใหญ่เช่นนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับหลานชายสองคนนี้
คนอื่นในตระกูลหยวนก็มีความคิดเช่นเดียวกัน สายตาต่างมองไปบนตัวของหยวนมู่และหยวนเซ่า
เวลานี้ หยวนมู่แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ส่วนหยวนเซ่าตกใจจนสั่นเทาไปทั้งตัวแล้ว
เรื่องที่หานักฆ่ามาลอบสังหารเฉินอิงจวิ้น เป็นสิ่งที่หยวนมู่กับเขาทำ ตอนนี้เฉินซิงไห่พาคนจำนวนมากมาถึงตรงหน้า ทั้งยังอยากเอาตัวพวกเขาไปอีก ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน
“คนที่ยิ่งใหญ่ต่อให้ตกที่นั่งลำบากก็แกร่งกว่าพวกที่เพิ่งก้าวขึ้นมามีอำนาจ นายคิดว่าตระกูลหยวนของฉันรังแกได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?”
หยวนซื่อหวู่ร้องคำรามอย่างแค้นเคือง
ถึงแม้เขาพอจะคาดเดาได้คร่าวๆ กลับไม่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าเฉินซิงไห่
เฉินซิงไห่ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ในเมื่อนายไม่ยอมส่งคนมาให้ งั้นคงทำได้เพียงเป็นฉันลงมือเองแล้วสินะ!”
พอพูดจบ เฉินซิงไห่ก็โบกฝ่ามือใหญ่ “เอาตัวไอ้หนุ่มสองคนนั้นมาให้ฉัน!”
“ฉันจะดูว่าใครกล้า?”
หยวนซื่อหวู่ตวาดขึ้นเสียง ชายกำยำที่รูปร่างสูงใหญ่สิบกว่าคนปรากฏตัวขึ้น รีบขวางด้านหน้าทุกคนตระกูลหยวนไว้
“หยวนซื่อหวู่ ขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะ เอาเจ้าสองคนนั้นมาให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อยคนอื่นๆ ไป ไม่อย่างนั้นไม่เหลือเลยสักคน!”
เฉินซิงไม่ได้รีบร้อนลงมือ แต่ท่าทีกลับแข็งกร้าวอย่างยิ่ง
หยวนมู่และหยวนเซ่าเป็นคนที่จ้างมือสังหารไปฆ่าหลานชายเขา และเป็นคนที่หยางเฉินต้องการตัว ไม่ว่าอย่างไรล้วนจำเป็นต้องเอาตัวไป
คิดดูแล้วนี่คือบททดสอบหนึ่งที่หยางเฉินมอบให้ตนเอง ถ้าแม้แต่เรื่องเล็กน้อยนี้ยังทำไม่ได้ หยางเฉินจะให้เขามาบริหารเมืองโจวเฉิงได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...