The king of War นิยาย บท 293

“ตอนที่เธอไลฟ์สดตอนเช้า ก็ได้พูดกับลูกสาวตัวเองแล้ว ว่าเป็นไปได้ที่ตัวเองจะถูกหยางเฉินฆ่า”

“นี้มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านสะใภ้ ทำไมถึงได้โหดร้ายแบบนี้!”

“เขายังเป็นผู้จัดการหลักของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว ปีศาจแบบนี้ ทำไมถึงมาเป็นผู้จัดการได้?”

……

ข่าวที่ได้เกี่ยวกับโจวยู่ชุ่ยทั้งหมด ก็ได้ถูกคนในโซเชียลด่าไปหมด

เวลาเดียวกัน เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ได้มีผลกระทบขนาดใหญ่ ตอนเช้าเพราะว่าการไลฟ์สดของโจวยู่ชุ่ย ก็ได้ทำให้มูลค่าตลาดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปต่ำลง

นี่พึ่งผ่านไปครึ่งวัน ข่าวการตายของโจวยู่ชุ่ย ก็ได้กลายเป็นข่าวดังของหลายสำนักข่าวอย่างรวดเร็ว

สำหรับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว มันก็ได้แย่ลงกว่าเดิม

โดยเฉพาะเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว แรงกดดันเยอะกว่าคนอื่น

คนในโซเชียลมากมาย ก็ได้มาที่หน้าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว ประท้วงให้หยางเฉินไสหัวไป

เดิมฉินยีก็ได้ยุ่งเพราะว่าบริษัทได้เจอกับความวุ่นวายอยู่แล้ว อยู่ๆ ก็ได้ข่าวการตายของโจวยู่ชุ่ย เธอก็ได้อึ้งไปเลย

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้แน่นอน! แม่ยังไม่ตาย! หยางเฉินรับปากกับฉันไว้แล้ว ต้องพาตัวแม่กลับมาอย่างปลอดภัยแน่!”

ทั้งคนของฉินยีก็ได้สติหลุด ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยน้ำตา

“เสี่ยวยี เธออย่าเป็นแบบนี้ ตอนที่ยังไม่ได้รู้ความจริง ทั้งหมดก็เป็นแค่ข่าวลือ เห็นได้ชัดว่ามีคนได้ปั่นข่าวอยู่เบื้องหลัง ก็เพื่อที่จะทำลายเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ถ้าเกิดเธอล้มในตอนนี้ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ได้หมดกันแล้วจริงๆ”

เพื่อนสนิทของฉินยีซุนเถียน ก็ได้กอดฉินยีแน่น พูดไปด้วยตาที่แดง

ตั้งแต่หยางเฉินได้มอบอำนาจให้ฉินยีนั้น ก็ได้พูดออกมาว่าให้ซุนเถียนมาเป็นเลขาของฉินยี

ตอนนี้ซุนเถียนก็ไม่ได้เป็นพนักงานที่ได้เข้ามาทำงานใหม่คนนั้นแล้ว กับเรื่องที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเจอมาทั้งหมด ก็ได้มองเห็นอย่างละเอียด

“ใช่! เธอพูดถูก! ทั้งหมดมันเป็นแค่ข่าวลือ ถ้าเกิดแม่ตายไปแล้วจริงๆ หยางเฉินก็ต้องบอกความจริงกับฉันแน่”

ได้ยินคำพูดของซุนเถียน ฉินยีก็ได้เช็ดน้ำตา พูดออกไปอย่างมั่นใจว่า “ตอนนี้ ฉันต้องใช้กำลังทั้งหมดมาปกป้องบริษัท จะให้คนที่กำลังตั้งตารอให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปล้มไปพวกนั้นหัวเราะไม่ได้!”

“นี่สิถึงจะเป็นเพื่อนรักที่เต็มไปด้วยกำลังของฉัน! สู้ๆ ! ฉันสู้ไปกับเธอ ช่วยให้บริษัทก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้!” ซุนเถียนก็ได้กุมมือของฉินยีแน่นแล้วก็พูด

ฉินยีก็ได้ปรับเข้าสู่สภาพการทำงานอีกครั้ง ก็ได้สั่งไปว่า “ผู้บริหารระดับสูงของบริษัททั้งหมด รีบมาประชุมที่ห้องประชุมใหญ่เดี๋ยวนี้!”

“ค่ะ ประธานฉิน!”

ในตอนที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้เจอกบวิกฤตขนาดใหญ่นั้น ฉินซีที่ได้อยู่โรงพยาบาล ก็ได้เห็นข่าวดัง กับข่าวการตายของโจวยู่ชุ่ย

ตอนที่เธอเห็นข่าวนี้นั้น ทั้งคนก็ได้เหมือนว่าได้โดนฟ้าผ่ามา ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยน้ำตา “แม่ แม่ตายแล้ว?”

“แม่คะ เป็นหนูที่ทำให้ท่านเจอกับอันตราย!”

“ถ้าเกิดไม่เป็นเพราะว่าหนูไล่ท่านออกไป แม่จะไปเจอกับอันตรายพวกนั้นได้ยังไง?”

“แม่คะ ขอโทษค่ะ เป็นหนูที่ทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย!”

ฉินซีก็ได้ตกอยู่ในความสิ้นหวัง ฟุบตัวร้องไห้อย่างหนักอยู่บนเตียงของฉินต้าหย่ง

เวลานี้ ในใจของเธอก็ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดแล้วก็ความสิ้นหวัง

ถึงแม้ในเน็ต ต่างพากันบอกว่าเป็นหยางเฉินที่ได้ฆ่าโจวยู่ชุ่ย แต่ว่าเธอไม่เชื่อเลยแม้แต่นิด

เธอเป็นคนเห็นเองกับตา คนของหยางเฉินได้พาโจวยู่ชุ่ยไป

เธอนั้นได้เห็นไลฟ์สดของโจวยู่ชุ่ยกับตาตัวเอง ได้ต่อว่าหยางเฉินที่ทรมานเธอ ต่อยตีเธอ

แต่ว่าหยางเฉินเป็นคนยังไง เธอเข้าใจดี

ก่อนหน้าได้โทรไปหาหยางเฉิน ถามเขาว่าโจวยู่ชุ่ยอยู่ที่ไหนนั้น ก็ได้ร้อนใจไปหน่อย

ไม่นาน เธอก็ได้เข้าใจทั้งหมด ถ้าเกิดหยางเฉินอยากที่จะลงมือกับโจวยู่ชุ่ยจริง แล้วจะไปทนถึงตอนนี้ได้ยังไง?

จะทำให้โจวยู่ชุ่ยระเหยหายไปเลย หยางเฉินก็สามารถทำได้

ในสายตาของฉินซี การไลฟ์สดของโจวยู่ชุ่ย เห็นได้ชัดว่าถูกคนบังคับ ข่มขู่เธอให้เธอพูดแบบนี้

ซูซานโมโหมากๆ ตั้งแต่ซูเฉิงอู่รู้ ว่าเธอกับหยางเฉินรู้จักกัน อีกอย่างตัวเองก็ยังถูกหยางเฉินช่วยด้วยหลายครั้ง ซูเฉิงอู่ก็ได้พยายามที่จะให้เธอไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหยางเฉิน

เดิมทีเธอก็ดีใจมากๆ คิดว่าตัวเองสามารถอาศัยจังหวะนี้ มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหยางเฉินกว่าเดิม

แต่ว่าวันนี้ ซูเฉิงอู่รู้ว่าหยางเฉินมีปัญหากับตระกูลเมิ่งแล้วนั้น กลับเลือกที่จะมองเฉยๆ ทำให้ซูซานละอายมากๆ

“หุบปาก!”

ซูเฉิงอู่โมโหแล้วพูด “แกรู้ว่า คนที่ได้ติดต่อฉันมาเมื่อกี้ เป็นใครไหม?”

“เป็นตระกูลอวี๋เหวินหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเย็นตู พวกเขามาเตือนพ่อว่า ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างหยางเฉินกับตระกูลเมิ่ง”

“ก็ขนาดตระกูลเว่ย ตระกูลซูก็ไม่อาจจะเป็นคู่ปรับให้ด้วยได้ ส่วนตระกูลใหญ่ในเมืองเอก ตระกูลซูนั้นยิ่งห่างชั้นกว่าอีก ส่วนแปดตระกูลแห่งเย็นตู ตระกูลซูก็ไม่ต้องพูดถึง!”

“แกบอกพ่อ ขนาดตระกูลอวี๋เหวินได้มาเตือนตระกูลซูแล้ว แกให้พ่อทำยังไง? ถ้าเกิดแกเป็นผู้นำตระกูลซู แกจะเลือกยังไง?”

ซูเฉิงอู่โมโหจนตะโกนออกมา เขาไม่ได้ไม่เข้าใจฐานะของหยางเฉิน อีกอย่างหานเทียนเฉิงของตระกูลกวนแห่งตระกูลอวี๋เหวิน ก็ได้มาเน้นย่ำกับเขาจริงๆ ว่า ให้เขาช่วยหยางเฉินลับๆ

แต่ว่าเมื่อกี้ ตระกูลอวี๋เหวิน คนที่ได้มีอำนาจมากกว่าหานเทียนเฉิง ก็ได้โทรมาหาเขาด้วยตัวเอง เขานั้นไม่มีทางที่จะเลือกได้จริงๆ

ซูซานได้ยิน ก็ได้อึ้ง “ขนาดตระกูลอวี๋เหวิน ก็อยากที่จะทิ้งหยางเฉินเหรอคะ?”

ก็ตอนที่ซูเฉิงอู่รับสายของตระกูลอวี๋เหวินแล้วนั้น จากนั้น เจียงโจวตระกูลกวน ก็ได้รับสายจากตระกูลอวี๋เหวิน

วางสายไปนั้น กวนเจิ้งซานก็ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด

“คุณปู่ครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?”

กวนเสว่ซงถาม เขานั้นไม่ได้เห็นกวนเจิ้งซานที่ได้มีสีหน้าที่เครียดแบบนี้ นานมากแล้ว

“เสว่ซง ปู่ถามแก ถ้าเกิดมีวันหนึ่ง แปดตระกูลแห่งเย็นตูอยากที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเรา แต่ว่าขอมาว่า พวกเราจำเป็นต้องยืนอยู่ตรงข้ามกับหยางเฉิน แกจะเลือกยังไง?” อยู่ๆ กวนเจิ้งซานถาม

กวนเสว่ซงได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ได้ซีดไปเลยทันที เขาไม่ได้ตอบไปทันที แต่เป็นการคิดไปสักพัก

เวลานี้ ในหัวของเขา อยู่ๆ ก็ได้มีภาพมากมายเกิดขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War