The king of War นิยาย บท 296

สายตาของหยางเฉินขยับเล็กน้อย ก็ได้ตกอยู่บนตัวของเมิ่งฮุย

ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ได้ยืนอยู่ที่เดิม และบอดี้การ์ดที่เมิ่งฮุยภูมิใจนักภูมิใจหนานั้น ก็ได้โดนฆ่าไปในพริบตา

สีหน้าของเมิ่งฮุยได้เปลี่ยน นัยน์ตาได้หดลงเล็กน้อย

“นี่......นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

เขาก็ได้พูดออกมาเบาๆ สายตาก็ได้เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

โซโรสามารถที่จะถูกส่งมาคุ้มกันเขาได้ ก็สามารถที่จะบอกถึงความแข็งแกร่งของโซโร ขนาดนักสู้ที่มีฝีมือระดับนี้ ต่อหน้าของหยางเฉิน ก็ยังไม่นับอะไรเลย หยางเฉินคนนั้น มันแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?

หยูเหวินหวูได้เตือนเขาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าอย่าดูถูกหยางเฉิน ถ้าไม่มีเปอร์เซ็นต์ที่จะจัดการสำเร็จละก็ ไม่ต้องไปหาเรื่องหยางเฉิน

วันนี้ บอดี้การ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ก็ได้ตายไปแล้ว

ถ้าเกิดวันนี้หยางเฉินไม่ตาย เกรงว่าตระกูลเมิ่ง ก็ต้องเจอกับวิกฤตขนาดใหญ่แน่

ถึงแม้จะพูดว่าหยางเฉินเป็นคนที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทิ้ง แต่ว่ายังไงซะก็ได้มีเลือดของตระกูลอวี๋เหวินไหลอยู่ เรื่องนี้ถ้าตระกูลอวี๋เหวินรู้เข้าละก็ ตระกูลเมิ่งต้องโดนล้างโคตรแน่

เพราะงั้น หยางเฉินต้องตาย!

“แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก!”

ใบหน้าของเมิ่งฮุย ก็ได้กลับมานิ่งเรียบแบบเดิมอีกครั้ง

แค่จุดนี้ ก็สามารถบ่งบอกได้เลยว่า เขาเป็นอัจฉริยะ ในตระกูลเมิ่ง ก็คู่ควรแก่การเรียกว่าคุณชายเมิ่งจริง

แต่แค่ คู่ต่อสู้ที่เขาได้เจอ เป็นหยางเฉิน!

“จริงเหรอ?”

หยางเฉินหัวเราะอย่างเยือกเย็น พูดจบ ก็ได้ก้าวขาเดินไปทางเมิ่งฮุย

“ถ้าเกิดแกไม่อยากให้เมียของแกตาย ก็หยุดอยู่ตรงนั้น!”

เมิ่งฮุยก็ได้รีบตะโกน เขารู้ ถ้าเกิดหยางเฉินอยากฆ่าเขา ก็ง่ายเอามากๆ

ได้ยินคำพูดนี้ของเมิ่งฮุย ฝีเท้าของหยางเฉินก็ได้หยุดลงทันที สีหน้าบนใบหน้า ก็ได้ค่อยๆน่ากลัวขึ้น

“แค่ประโยคนี้ของนาย วันนี้ นายต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

สีหน้าของหยางเฉินได้เยือกเย็น

“ฮ่าๆ!”

เมิ่งฮุยหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ประโยคนี้ น่าจะเป็นฉันที่พูดให้แกมากกว่า!”

“แกคงไม่ได้คิดว่า ฉันที่กล้าเรียกแกมาที่ตระกูลเมิ่ง แล้วไม่มีแผนอื่นเตรียมไว้ก่อนเหรอ?”

“วันนี้ เมียของแก เกรงว่าได้ตกอยู่ในมือของฉันแล้ว ขอแค่แกกล้าที่จะก้าวเข้ามาก้าวหนึ่งละก็ ชีวิตเมียแก ตกอยู่ในอันตรายแน่!”

ใบหน้าของเมิ่งฮุยได้ยิ้ม คนที่เป็นคนชอบคิดมาอย่างเขา ต่อให้มั่นใจขนาดไหน แต่ว่าถ้าเกี่ยวกับเรื่องการอยู่รอดของตระกูลเมิ่งละก็ ก็ไม่กล้าที่จะละเลย

เพื่อที่จะฆ่าหยางเฉิน เขาก็ได้สืบทุกอย่างของหยางเฉิน มาอย่างละเอียดเรียบร้อย

เขามั่นใจ ขอแค่เอาชีวิตของฉินซีมาข่มขู่หยางเฉิน หยางเฉินก็จะยอมแพ้

“จริงเหรอ? ไหนๆแกก็มั่นใจขนาดนั้น งั้นก็ให้ฉันดูหน่อยว่า คนของแก ได้จับเมียของฉันไปได้จริงหรือเปล่า?” อยู่ๆหยางเฉินก็ได้พูดด้วยสีหน้าที่ล้อเลียน

“เห็นที แกไม่เชื่อ! งั้นฉันก็จะแกให้แพ้อย่างยอมใจ!”

เมิ่งฮุยหัวเราะแล้วก็พูด แล้วก็เอาโทรศัพท์ออกมา วิดีโอคอลไปหาคนคนหนึ่ง

ไม่นาน ปลายสายก็ได้รับ เขาก็ได้เอาหน้าจอโทรศัพท์จ่อไปทางหยางเฉิน “เห็นหรือยัง? เมียของแก อยู่ในมือฉันจริงๆใช่ไหม?”

“พี่เฉิน พี่วางใจเถอะครับ ทางเจียงโจว มีผมอยู่ ไม่มีใครที่จะทำร้ายครอบครัวพี่ได้!”

เสียงที่คุ้นเคย ก็ได้ดังออกมาจากโทรศัพท์ของเมิ่งฮุย

เห็นชายร่างกำยำร่างหนึ่ง ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เป็นสหายรักที่ตามหยางเฉินออกมาจากชายแดนเหนือ หม่าชาว

ใบหน้าที่ยังมีความได้ใจของเมิ่งฮุยเมื่อกี้ ตอนที่ได้ยินเสียงของหม่าชาวนั้น รอยยิ้มก็ได้แข็งไปเลยทันที

“แกเป็นใคร? คนของฉันล่ะ?”

เมิ่งฮุยก็ได้มองมองหน้าจอโทรศัพท์ ก็ได้ตะคอกออกมา

“ไอ่โง่!”

หม่าชาวก็ได้ตอบไปสองคำ แล้วก็วางสายวิดีโอคอลไป

หยางเฉินรู้อยู่แล้วว่าเมิ่งฮุยได้ใช้การยั่วโมโหเขา ให้เขานั้น “ไปติดกับเอง” ก่อนที่จะออกจากเจียงโจว จะไม่สนใจความปลอดภัยของครอบครัวได้ยังไง?

“แล้วก็ฉัน! ตระกูลกวนแห่งเจียงโจว!”

จากนั้น ก็ได้มีคนอายุน้อยอีกคนปรากฏตัว ข้างหลังของเขา ก็ได้มีนักสู้มีฝีมืออีกหลายสิบคนด้วยเหมือนกัน

“แล้วก็ฉัน! เมืองคิงแห่งเจียงโจว!”

หลังเฉินซิงไห่กับกวนเสว่ซง หวังเฉียงก็ได้พาคนมาด้วย

ในเวลานั้น ทั้งตระกูลเมิ่ง ก็ได้มีนักสู้ของเจียงโจวกับเมืองโจวเฉิงเต็มไปหมด

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยตีนกาของเมิ่งหงเย่ ก็ได้มีสีหน้าที่ไม่ดีทันที

ตระกูลเมิ่งยืนอยู่ในเมืองเอกมาหลายปี ไม่เคยที่จะเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน?

ถ้าเกิดมีอำนาจเทียบเท่ากันตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น ก็แล้วไป

แต่ว่านี่ เป็นตระกูลเล็กที่มีอำนาจน้อยกว่าตระกูลเมิ่งทั้งนั้น

“ก็แค่พวกนาย ก็กล้าที่จะกดดันตระกูลเมิ่งของฉัน” เมิ่งหงเย่ก็ได้พูดอย่างเย็นชา

จากนั้น สายตาของเขาก็ได้มองไปยังเฉินซิงไห่ หรี่ตาแล้วพูดว่า “คิดว่าตระกูลเฉินได้ควบคุมเมืองโจวเฉิงไปแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะมาต่อกรกับตระกูลเมิ่งได้เหรอ?”

“แล้วก็ตระกูลกวน ก็ได้ส่งรุ่นเล็กมาแบบนี้ ก็กล้าที่จะพาคนมาหาเรื่องตระกูลเมิ่ง?”

“พวกแก ไม่กลัวเหรอว่า จะไม่มีโอกาสกลับไป?”

ถึงแม้ว่าเมิ่งหงเย่ได้อายุเจ็ดสิบแล้ว แต่ว่าเวลานี้ ก็มีท่าทางที่น่าเกรงขามมากๆ คำพูดที่พูดออกมาก็ได้ลั่นดังไปทั่ว ทำให้หูของแต่ละคนสะเทือนไม่หยุด

“ปู่ของฉันก็ได้มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ฉันแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันก็คือผู้นำของตระกูลกวน!”

แม้ว่าในใจของกวนเสว่ซงได้กลัวเล็กน้อย แต่ว่าใบหน้าไม่ได้มีความกลัวอยู่เลย ก็ได้มองไปทางเมิ่งหงเย่อย่างเย็นชา

“หึ!”

เมิ่งหงเย่ก็ได้ขำแล้วพูด “ไอ้แก่กวนวางแผนเป็นจริงๆ ตัวเองไม่กล้ามาที่ตระกูลเมิ่ง กลับส่งรุ่นหลังมาตาย!”

“แกคิดจริงๆเหรอว่า ไอ้แก่กวนให้แกนั่งรถของเขาแล้วมาหาเรื่องตระกูลเมิ่ง ก็จะยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้แกที่เป็นรุ่นเล็ก?”

ในคำพูดของเมิ่งหงเย่ ก็ได้เต็มไปด้วยการล้อเลียน

ในสายตาของเขา กวนเจิ้งซานก็แค่ส่งกวนเสว่ซงมาตายเท่านั้น ยังไงซะนี่เป็นตระกูลเมิ่ง ตระกูลที่น่ากลัวที่สามารถที่จะล้างโคตรตระกูลกวนได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War