บทที่3 ฉันกลับมาแล้ว
ห้าปีที่ไม่เจอ คุณแม่ฉินก็ยังเหมือนเดิม รูปลักษณ์ก็ดูจะไม่เปลี่ยนแปลง
ประสบการณ์ชีวิตทหารมาหลายปี ถึงแม้ว่ารูปร่างของหยางเฉินจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก แต่ท่าทางจิตวิญญาณกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ในสายตาของคุณแม่ฉิน หยางเฉินนั้นก็เหมือนกับเป็นคนที่ตายไปแล้ว จึงทำให้เธอที่เจอกับหยางเฉินอีกครั้งทั้งตกใจและโมโห
“แม่ครับ! ผมเองครับ!”
ใบหน้าหยางเฉินเผยรอยยิ้มที่เป็นมิตร การกลับมาครั้งนี้ เขาเพียงแค่อยากจะชดเชยให้ฉินซีอย่างดี
“เป็นไอ้ขยะไร้ประโยชน์อย่างแกจริงๆด้วย!”
ในที่สุดคุณแม่ฉินก็มั่นใจ ชายหนุ่มตรงหน้าก็คือหยางเฉิน สองมือเท้าสะเอว และท่าทางร้ายกาจ พูดอย่างโมโหว่า “แกกลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันกลับมาตอนที่ฉินซีกำลังจะแต่งงานใหม่ จงใจจะมาก่อกวนงั้นหรอ?”
ในตอนนี้ คุณพ่อฉินเองก็วิ่งมา และเจอเข้ากับหยางเฉินพอดี และก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ฉินด้วย ไม่พูดกล่าวอะไรทั้งนั้นแล้วก็เหวี่ยงหมัดใส่พร้อมกับพูดอย่างโมโหว่า “ฉันจะตีไอ้สาระเลวอย่างแกให้ตาย ยังจะกล้ากลับมาอีก!”
“พั่บ!”
ทันใดนั้นก็มีร่างกายสูงใหญ่เข้ามา แล้วจับแขนของคุณพ่อฉินไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีใครมีสิทธิ์แตะต้องเขา!”
ชายหนุ่มที่รั้งคุณพ่อฉินไว้ ก็คือหม่าชาวนั่นเอง
ติดตามสู้รบกับหยางเฉินมาหลายปี ร่างกายสูงใหญ่ หน้าตาก็ดุดัน การโผล่มาของเขา ทำให้สถานการณ์นิ่งค้าง ใบหน้าของคุณพ่อฉินตกใจกลัว
“ถอยออกไป!”น้ำเสียงของหยางเฉินเย็นชา สายตาดั่งมีดคมมองไปที่หม่าชาว
ถึงแม้หม่าชาวจะไม่เต็มใจ แต่เพราะเป็นคำสั่งของหยางเฉิน เขาไม่มีทางขัดคำสั่ง จึงทำได้เพียงปล่อยมือ “ขอโทษครับ พี่เฉิน!”
“รู้ว่าผิดก็ถอยไปซะ วันนี้ถ้าไม่มีคำสั่งจากฉันห้ามเข้ามาแทรกสักเรื่อง” ใบหน้าหยางเฉินเต็มไปด้วยความเย็นชา
หยางเฉินในตอนนี้ อำนาจในตัวเขาถูกเผยออกมานิดหน่อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ แค่เพียงเล็กน้อยนี้ แต่กลับทำให้คุณพ่อคุณแม่ฉิน รู้สึกว่าลูกเขยขยะในสายตาพวกเขาที่กลับมาหลังจากหายไปห้าปี เหมือนว่าจะมีอะไรต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ความคิดอย่างนี้ ก็เป็นเพียงความคิดแวบเข้ามาเท่านั้น ในสายตาของพวกเขา หยางเฉินก็เป็นแค่ขยะ
เมื่อมีการออกตัวของหม่าชาว คุณพ่อคุณแม่ฉินก็ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับหยางเฉินอีก
“ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ แม้แต่ฉันยังกล้าแตะ แกไปไกลๆเลยนะ ไปเดี๋ยวนี้!”คุณพ่อฉินพูดอย่างโมโห ถ้าไม่ได้กลัวชายหนุ่มคนเมื่อกี้ เขาคงลงไม้ลงมือไปนานแล้ว
ในใจของหยางเฉินมีอารมณ์โมโห แต่เมื่อนึกถึงคนที่เขาคิดถึงมานานห้าปี ก็พยายามเก็บอารมณ์โมโห พูดเตือนตัวเองไม่หยุดว่าที่เขากลับมาครั้งนี้ ก็เพื่อกลับมาชดเชยให้ฉินซี เขาทนได้ทุกอย่าง
“ไอ้ขยะนี่ไปไม่ได้ มันกลับมาได้ถูกเวลาพอดี วันนี้ให้มันกับฉินซีไปทำเรื่องหย่าเลย พรุ่งนี้พวกเราก็ให้ฉินซีกับหวังเจี้ยนหมั้นกัน จะได้ไม่ต้องไปทำใบมรณบัตรที่ยุ่งยากอย่างนั้นแล้ว”คุณแม่ฉินรีบจับแขนข้างหนึ่งของหยางเฉินไว้ เหมือนกลัวว่าหยางเฉินจะจากไปจริงๆ แล้วหาตัวไม่เจออีก
คุณพ่อฉินเองก็เพิ่งเข้าใจได้ แล้วก็จับแขนอีกข้างของหยางเฉินไว้ “ที่รักพูดถูก รอเสี่ยวซีกลับมา พวกแกก็ไปทำเรื่องหย่าซะ”
หยางเฉินถูกลากเข้าไปในลานบ้าน คนที่ไม่รู้ คงจะคิดว่าพ่อตาแม่ยายกระตือรือร้นดีใจที่ลูกเขยกลับมาแล้ว
เมื่อเข้าไปในบ้าน ก็เห็นโต๊ะจัดเลี้ยงที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่น มีคนนั่งอยู่เต็ม ล้วนเป็นญาติของคุณแม่ฉินทั้งนั้น
ในกลุ่มญาติพวกนี้ ยังมีคนหนึ่งนี่หน้าตาไม่คุ้นเคย เป็นชายหนุ่มที่ทั้งตัวมีแต่ของแบรนด์เนม และโชว์นาฬิกาที่ใส่ไว้อย่างกับไม่ได้ตั้งใจ ใส่นาฬิกา Rolex ที่มูลค่าไม่น้อย ญาติที่อยู่รอบๆเหมือนกับว่ากำลังนั่งล้อมรอบเขา
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังจ้องมองหยางเฉินที่ถูกคุณพ่อคุณแม่ฉิน “เชิญ” เข้ามา
บนโต๊ะอาหาร มีเค้กก้อนใหญ่วางอยู่ ดูแล้วเหมือนกับว่ามีคนจะจัดงานเลี้ยงวันเกิด
แต่ว่าในความทรงจำของหยางเฉิน ไม่ว่าจะคุณพ่อฉิน คุณแม่ฉิน หรือแม่แต่ฉินซี ก็ไม่ใช่วันเกิดวันนี้ แล้วนี่เป็นวันเกิดของใคร?
ญาติทั้งหลายที่เมื่อกี้ยังพูดคุยกันเรื่องจะทำใบมรณบัตรให้หยางเฉิน แล้วตอนนี้เจ้าตัวก็มาปรากฏตัว ในใจทุกคนถึงกับตื่นตกใจ แต่ไม่นานสายตาก็เป็นประกาย ท่าทางกระตือรือร้นขึ้น สีหน้าเหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุก
“หยางเฉิน มันหายตัวไปห้าปีแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ๆถึงกลับมาละ?”
“กลับตอนไหนไม่กลับ ดันกลับมาตอนที่คุณชายหวังกำลังจะแต่งงานกับเสี่ยวซี เขากลับมา คงจะเพราะมีแผนอื่นแน่เลย”
“มีแผน? เทียบกับคุณชายหวัง มันก็แค่ขยะ อยากจะแย่งกับคุณชายหวัง มันมีสิทธิ์งั้นหรอ?”
ญาติของคุณแม่ฉิน ต่างก็ซุบซิบนินทาเสียงเบา แต่ก็ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่จงใจ ถึงแม้จะเสียงเบา แต่ทุกคนที่อยู่ก็ได้ยินกันหมด ส่วนชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายหวัง ก็ได้ยินชัดเจนเช่นกัน
แต่คุณชายหวังกลับทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไร มองดูคุณแม่ฉิน แล้วถามอย่างสงสัย “คุณป้าครับ คนนี้คือ?”
คุณแม่ฉินยิ้มเยาะ มองดูหยางเฉินอย่างรังเกียจ “มันก็คือไอ้คนที่หายตัวไปห้าปี ฉันกำลังจะไปทำใบมรณบัตรให้มันแล้วเชียว แล้วอยู่ๆไอ้ขยะนี่ก็โผล่มา แต่ว่านายสบายใจได้นะ ทำใบมรณบัตรต้องใช้เวลา แต่ถ้าทำเรื่องหย่า ทำเสร็จได้ในวันนี้เลย”
แล้วก็มองหวังเจี้ยนด้วยใบหน้านิ่งๆ “ถ้าหากฉินซีจะหย่ากับฉัน ฉันก็จะไม่เกาะติดอยู่ตระกูลฉินแน่นอน แต่ถ้าหากเธอไม่ยินยอม ไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะแทรกระหว่างเรื่องของพวกเรา”
ถ้าหากมีพวกพี่น้องที่ชายแดนเหนืออยู่ในสถานการณ์ จะต้องรู้ได้แน่นอน ว่าหยางเฉินที่สงบนิ่งแบบนี้ เป็นสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด
ดวงตาของหวังเจี้ยนค่อยๆหรี่ลง ชายหนุ่มตรงหน้า ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันนิดหน่อย ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ชอบใจที่สุด
คนอื่นๆกลับมีท่าทางสมน้ำหน้า กล้ามีปัญหากับหวังเจี้ยน ก็เหมือนกับการหาเรื่องตายแท้ๆ
ในขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด มีเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังขึ้น จากนั้นก็เห็นร่างสองคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ปรากฏ นั่นก็คือฉินซีกับเด็กสาวคนหนึ่ง
“หวังเจี้ยน ทำไมนายถึงมาอีกแล้ว? นี่คือบ้านฉัน ไม่ต้อนรับนาย กรุณาออกไปเดี๋ยวนี้!”เมื่อฉินซีมองเห็นหวังเจี้ยน ใบหน้าก็มืดมนทันที แล้วก็ออกคำสั่งไล่แขก
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ หยางเฉินที่นั่งหันหลังให้ประตู ร่างกายถึงกับกระตุก
เขาคิดถึงภาพที่จะได้เจอกันกับฉินซีอีกครั้งอย่างนับไม่ถ้วน และก็แอบฝึกนับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน แต่เมื่อเขาจะต้องพบเจอกับฉินซีจริงๆ กลับรู้ตัวว่า การฝึกที่ผ่านมาไม่มีประโยชน์อะไรเลย ในตอนนี้ เขาไม่กล้าหันหลังไปมองคนที่เขารู้สึกผิดด้วยอย่างมากและคนที่เขาคิดถึงมาตลอดห้าปีเต็ม”
“พ่อจ๋า!”
หยางเฉินยังไม่ทันได้หันหลัง ด้านหลังก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ร่างกายกระตุก หันหลังไปก็เจอกับร่างตัวเล็กๆ พุ่งเข้ามาอย่างดีใจ
เมื่อกี้ที่อยู่สนามบิน ก็คือเด็กน้อยคนนี้ เกาะติดเขาแล้วเรียกว่าพ่อ
หยางเฉินย่อตัวลง แล้วอุ้มเด็กสาวไว้ในอ้อมกอดอย่างเป็นธรรมชาติ
เป็นไปอย่างธรรมชาติ เหมือนกับว่าเขาเคยอุ้มเด็กสาวตรงหน้านับครั้งไม่ถ้วน
ในตอนนี้ ฉินซีเองก็มองเห็นหยางเฉินแล้ว สองตาประสานกัน ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งหมดรอบตัวเหมือนกับหยุดนิ่งลง มีเพียงแค่เขาและเธอสบตากัน
ห้าปีที่ผ่านมา เงาของร่างนี้ปรากฏอยู่ในสมองเขานับครั้งไม่ถ้วน ความคิดถึงและความรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนี้ เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะให้เหมาะสมกับเธอ หยางเฉินถึงได้กัดฟันอดทนผ่านมาได้
สายตาของฉินซีจ้องเขม็งไปที่ร่างนั้น ใบหน้าที่งดงาม มีหลากหลายอารมณ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“เสี่ยวซี ฉันกลับมาแล้ว!”หยางเฉินเป็นคนพูดทำลายความเงียบขึ้นก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...