“ก่อนหน้านี้คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิง แต่ต่อมาเพียงชั่วข้ามคืน ตระกูลหยางกลับพังพินาศ ส่วนเฉียนเปียวก็หายตัวไป รอตอนเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ตามอยู่รอบตัวหยางเฉินแล้ว หรือว่าแต่ละท่านไม่คิดว่าการสูญสิ้นของตระกูลหยางอาจจะเกี่ยวข้องกับหยางเฉินเหรอ?”
เว่ยเชินนำทุกอย่างที่ตนเองรู้ บอกออกมาทั้งหมดแล้ว
เว่ยหู่ที่เดิมทียังอยากจะเย้ยหยันเว่ยเชิน เวลานี้ก็นิ่งเงียบไป
ชื่อของเฉียนเปียว พวกเขาต่างเคยได้ยินมา
ไม่เพียงแค่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหยางแห่งเมืองโจวเฉิง ยังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองโจวเฉิงอีกด้วย
ตระกูลหยาง เป็นเพราะมีเฉียนเปียวอยู่ ถึงสามารถก้าวข้ามจากตระกูลเล็กๆ แห่งหนึ่ง กลายมาเป็นตระกูลระดับหนึ่งของเมืองโจวเฉิง
“ผู้นำครับ เรื่องพวกนี้ที่ผมพูดมา เป็นจริงทุกประโยค! ถ้าไม่ขอความช่วยเหลือจากสมาคมบูโด เกรงว่าตระกูลเว่ยคงเจอความยุ่งยากมากมายจริงๆ ครับ!”
เว่ยเชินเอ่ยปากอีกครั้งหนึ่ง มองทางเว่ยเฉิงโจวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ตั้งนาน ในที่สุดเว่ยเฉิงโจวถึงตัดสินใจได้ เอ่ยปากบอกว่า “ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นไปขอการสนับสนุนจากสมาคมบูโด!”
“ครับ ผู้นำ!”
ในใจของเว่ยเชินดีอกดีใจยกใหญ่ ขอเพียงมีผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดช่วยสนับสนุน หยางเฉินคงไม่พอให้หวาดกลัวอะไร
แน่นอนว่าในความคิดของเขา บางทีหยางเฉินเดิมก็ไม่มีทางรอดออกมาจากตระกูลเมิ่งได้
ในขณะเดียวกัน โฟล์คเภาตันสีดำคันหนึ่งกำลังแล่นตรงมาทางตระกูลเว่ยด้วยความรวดเร็ว
ยี่สิบนาทีต่อมา ในที่สุดหยางเฉินก็มาถึงตระกูลเว่ยจนได้
เขากับหลายคนของตระกูลเว่ยเคยรู้จักกันมาก่อน แต่มาที่ตระกูลเว่ย ยังเป็นครั้งแรก
“ผู้นำครับ ไม่ดีแล้ว หยางเฉินมาแล้วครับ!”
เว่ยเฉิงโจวกำลังอยู่ในห้องโถงใหญ่ ต้อนรับผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดด้วยตนเอง ทันใดนั้นมีคนพุ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่โดยตรง พูดแบบสีหน้าหวาดกลัวเต็มที่
“ลนลานอะไร?”
เว่ยเฉิงโจวหยักคิ้วขึ้น ตวาดใส่ “ผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดอยู่ที่นี่แล้ว จะกลัวอะไร?”
คนคนนั้นถึงเห็นว่าข้างกายของเว่ยเฉิงโจวยังมีชายวัยกลางคนอยู่คนหนึ่ง
“คุณหนิว เรื่องต่อไปนี้มอบให้ท่านแล้วนะครับ!”
เว่ยเฉิงโจวพูดแบบท่าทางเคารพนับถือ
ที่สมาคมบูโด ความสามารถคือลำดับฐานะ หมัดของใครฝีมือดี ตำแหน่งของคนนั้นยิ่งสูง
คุณหนิวเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของสมาคมบูโด และไม่ใช่บุคคลทรงอำนาจที่ตระกูลเว่ยสามารถล่วงเกินได้
“ตระกูลเว่ย ยิ่งผ่านไปยิ่งถอยหลังจริงๆ คนกระจอกๆ ที่อายุไม่ถึงสามสิบปี ยังจัดการไม่ได้”
คุณหนิวลุกขึ้นมาแล้ว หรี่ตาบอกว่า “รอฉันจัดการเขาเสร็จ กลับไปสมาคมบูโด ต้องไปพูดกับหัวหน้าสาขาสักหน่อย”
คุณหนิวพูดจบ หมุนตัวเดินออกจากห้องโถง
เว่ยเฉิงโจวสีหน้าดูแย่ถึงขีดสุด เดิมทีเรียกคุณหนิวมา เพื่อจะจัดการเฉียนเปียว และปัจจุบันนี้ เฉียนเปียวกลับไม่ได้มา ทว่ามีเพียงหยางเฉิน
ในสายตาของเขา ต่อให้หยางเฉินเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่คุ้มค่าให้พูดถึง
เฉียนเปียวต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกถึงการมีตัวตนที่น่าปวดหัว เพียงแต่เขาจะรู้ได้อย่างไรกัน เฉียนเปียวติดตามลั่วปิงไปยังเยนตูตั้งนานแล้ว
ตอนที่คุณหนิวเดินออกจากห้องมา หยางเฉินก็มาถึงด้านหน้าคฤหาสน์เรียบร้อย ส่วนด้านหลังของเขาล้มลงเป็นแถบ
เวลานี้ โดยรอบหยางเฉินล้วนเป็นยอดฝีมือของตระกูลเว่ย กลับไม่มีสักคนกล้าเข้ามา ในสายตาของแต่ละคนเป็นความตื่นตระหนก
“ไอ้หนุ่ม นายคือหยางเฉินคนนั้นที่เว่ยเฉิงโจวพูดถึง?”
คุณหนิวหรี่ตามองทางหยางเฉิน ดูจากยอดฝีมือตระกูลเว่ยกลุ่มใหญ่ที่ล้มลงด้านหลังหยางเฉิน ก็รู้แล้วว่าหยางเฉินไม่ใช่คนธรรมดาเด็ดขาด
หยางเฉินยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ที่ตระกูลเว่ย คนที่สามารถเรียกเว่ยเฉิงโจวด้วยชื่อตรงๆ เป็นใครกันอีก?
“นายเป็นใครกัน?” หยางเฉินถามขึ้น
“ฉันกำลังถามนายอยู่ ฟังไม่เข้าใจเหรอ?”
คุณหนิวโกรธเคืองถลึงตาโต เขาไม่อนุญาตให้หยางเฉินสอบถามตนเอง
“ฉันกำลังถามนายอยู่ ฟังไม่เข้าใจเหรอ?” หยางเฉินหัวเราะเยาะ นำคำพูดของคุณหนิวมาถามกลับไปซ้ำอีกที
ตึง!
หยางเฉินพูดจบลง ชั่วขณะนั้นคุณหนิวโกรธจัด ชั่วพริบตาเดียวพื้นหินปูนที่อยู่ใต้เท้าก็แตกร้าว
“ไอ้หนุ่ม นี่นายกำลังวอนหาที่ตาย!”
“สารเลว นึกไม่ถึงว่าคุณหนิวจะสนใจนายเข้า!”
เว่ยหมิงเยว่กัดฟันแน่นพูดเสียงต่ำ
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอรับรู้มาว่าตระกูลเว่ยจะเชิญผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดมาจัดการหยางเฉิน ยังตื่นเต้นแทบแย่เลย
เดิมทีคิดว่าในที่สุดตนเองก็สามารถลบล้างความอัปยศอดสูได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าหนิวกึงเซิงกลับอยากให้หยางเฉินมาทำธุระให้ตนเอง
พอมาแบบนี้ วันหลังตำแหน่งของหยางเฉินคงจะอิงกับหนิวกึงเซิง ถ้าได้ดีก็ย่อมพลอยดีด้วย ต่อให้เป็นตระกูลเว่ย คงต้องเห็นเขาเป็นแขกพิเศษไปด้วย
ไม่เพียงแค่เว่ยหมิงเยว่ ยังมีคนอื่นของตระกูลเว่ย ซึ่งในใจยังมีความคิดแบบเดียวกัน
ใบหน้าเว่ยเชินเต็มไปด้วยความกังวล เขารู้ชัดเจนอย่างมากถึงเป้าหมายที่หยางเฉินมาตระกูลเว่ยในวันนี้
ปัจจุบันนี้ โจวยู่ชุ่ยอยู่ในมือของเขา ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ แต่ไม่ช้าก็เร็วจะตรวจสอบมาถึงตัวของตนเอง
ตอนนี้หนิวกึงเซิงอยากจะเก็บหยางเฉินไว้ทำธุระ ย่อมต้องช่วยเหลือหยางเฉินในการตามหาโจวยู่ชุ่ยแน่นอน
ถึงตอนนั้นทุกอย่างที่เขาทำไว้ลับหลัง ย่อมต้องเปิดโปงทั้งหมด
เขามองดูซ้ายขวา เห็นความสนใจของทุกคนอยู่ที่ตัวของหยางเฉินกัน จึงค่อยๆ ก้าวเล็กๆ ถอยหลัง คิดจะถือโอกาสออกไป
“ได้ งั้นตกลงตามนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายเป็นคนของฉัน ตอนนี้ฉันจะพานายไปที่สมาคมบูโด!”
หนิวกึงเซิงเอ่ยปากบอก เดิมทีไม่สนใจว่าหยางเฉินยินยอมหรือไม่ อยากบังคับจับหยางเฉินไป
หยางเฉินสู้กับยอดฝีมือตระกูลเว่ยมากขนาดนั้นจนล้มลงด้วยตัวคนเดียว สามารถอธิบายได้ว่าฝีมือของเขาแกร่งมาก
ประเด็นสำคัญคือเขายังอายุน้อยขนาดนี้ด้วย
“นายเป็นใครกัน คู่ควรให้ฉันทำธุระแทนนาย?”
หยางเฉินรู้สึกว่าน่าตลก มองหนิวกึงเซิงเหมือนกำลังมองคนโง่อยู่
ทั้งที่เกิดเหตุเงียบงัน!
ทุกคนต่างถลึงตาโต มองทางหยางเฉิน
เว่ยหมิงเยว่ที่เดิมทีไม่พอใจ ทันใดนั้นดวงตาเป็นประกายขึ้นแล้ว ในใจเต็มไปด้วยการรอคอย
ส่วนเว่ยเชินก็หยุดฝีเท้าที่ถอยหลังไปแล้วเช่นกัน มองทางหยางเฉินด้วยหน้าตาเยาะเย้ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...