“หยางเฉิน ที่ต้าหย่งโดนรถชนมันก็เพราะแกใช่มั้ยที่เป็นคนจ้างคนมาทำ?”
โจวยู่ชุ่ยหันมาโจมตีใส่หยางเฉิน จากนั้นก็หันไปพูดกับฉินซีว่า “เสี่ยวซี แกห้ามเชื่อใจหยางเฉินเด็ดขาดเลยนะ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของที่นี่ก็พูดมาแล้ว ว่าพ่อของแกนั้นไมทมีทางฟื้นขึ้นมาได้อีก แล้วผู้หญิงที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแม่นี่ จะไปรักษาพ่อแกให้หายได้ยังไง?”
“อีกอย่าง จนถึงตอนนี้ ความจริงที่เกิดเรื่องกับพ่อแก ยังสืบหาความจริงไม่ได้เลย แล้วถ้าหยางเฉินมันคิดที่จะฆ่าพ่อแกล่ะ?”
“ไม่แน่ ผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะเป็นผู้หญิงที่มันแอบเลี้ยงอยู่นอกบ้านก็ได้ ที่มาวันนี้ ก็ตั้งใจมาเพื่อทำร้ายพ่อแกนี่แหละ!”
โจวยู่ชุ่ยพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว
อ้ายหลินไม่รู้ว่าหยางเฉินนั้นมีแม่ยายที่เป็นแบบนี้อยู่ด้วย จนเธอนั้นทำหน้าอึ้งไปเลย
ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ทุกคนต่างก็ต้อนรับเธออย่างให้เกียรติไม่ใช่รึไง?
ทั่วทั้งโลก คนใหญ่คนโตที่อยากให้เธอไปรักษาให้ ก็มีมากมายเต็มไปหมด
ผู้หญิงคนนี้ ที่สงสัยในตัวเธอนั้นยังไม่เท่าไหร่ นี่ยังมาใส่ร้ายว่าเธอเป็นกิ๊กกับหยางเฉินด้วย
สีหน้าของหยางเฉินค่อยๆ เคร่งขรึมลง หรี่ตามองโจวยู่ชุ่ยแล้วพูดไปว่า “นี่แม่กลัวว่าพ่อจะถูกรักษาจนหายมากถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“หยางเฉิน นี่แกพูดบ้าอะไร?”
โจวยู่ชุ่ยอายจนรู้สึกโกรธ เริ่มเอะอะโวยวาย และพูดออกมาทั้งน้ำตาว่า “เสี่ยวซี แกเห็นแล้วใช่มั้ย? หยางเฉินมันพูดกับแม่ยังไง? ตอนนี้พ่อแกหลับไม่ยอมตื่น หยางเฉินมันก็ไม่เห็นแม่อยู่ในสายตาสักนิด”
“ชีวิตขิงฉัน ทำไมมันถึงได้ทุกข์ทนขนาดนี้เนี่ย? ที่ต้องมาเจอกับลูกเขยแบบนี้!”
นี่คือท่าไม้ตายที่โจวยู่ชุ่ยถนัดที่สุด มีแต่ต้องใช้การโวยวายอย่างไร้เหตุผล ฉินซีจึงจะยอมใจอ่อน
“แม่คะ ถ้าเกิดว่าแม่ยังโวยวายอยู่แบบนี้ แม่ก็ออกจากโรงพยาบาลไปซะเถอะค่ะ!”
ฉินซีพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว โจวยู่ชุ่ยเป็นคนยังไง เธอนั้นรู้ดีกว่าใคร
ถ้าไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นไล่โจวยู่ชุ่ยออกไป เป็นเหตุให้เธอถูกคนอื่นจับตัวไป ได้รับความทรมานไปบ้าง แล้วฉินซีจะยอมให้เธออยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง?
“เสี่ยวซี นี่แกเชื่อจริงเหรอว่าผู้หญิงคนนี้ รักษาคนเป็น?”
โจวยู่ชุ่ยพูดทั้งน้ำตา “ตอนนี้แม้แต่แม่แกก็ไม่ยอมเชื่อ แต่กลับไปเชื่อใจคนนอกคนหนึ่ง?”
“นี่แกไม่เห็นเหรอ ว่าหยางเฉินกับผู้หญิงคนนี้ อยู่ต่อหน้าแก ยังเล่นหูเล่นตาให้กันเลย ไม่กลัวว่าพวกมันจะมีอะไรกันลับหลังแกรึไง?”
โจวยู่ชุ่ยยกมือขึ้นมาชี้ไปทางหยางเฉินกับอ้ายหลิน พร้อมกับน้ำตาที่เต็มหน้า
“คุณน้าคะ ขอให้คุณอย่าพูดอะไรมั่วๆ นะคะ ฉันสามารถสาบานด้วยชีวิตของฉัน ระหว่างฉันกับหยางเฉิน เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นค่ะ!”
อ้ายหลินดวงตาแดงก่ำ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอ ถูกคนอื่นกล่าวหาแบบนี้
“การที่เธอสาบานแบบนี้ ใครทำไม่ได้บ้าง?”
โจวยู่ชุ่ยพูดเยาะเย้ยออกมา “เธอมันแค่อยากจะปิดบังความจริงเท่านั้น สามีของฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วยรักษาไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“หุบปาก!”
ในที่สุดหยางเฉินก็ทนไม่ไหว ถึงขั้นตวาดออกมาเสียงดัง
โจวยู่ชุ่ยจะกล่าวหาตัวเองยังไงก็ได้ แต่อ้ายหลินเป็นเพื่อนของเขา และเป็นสหายร่วมรบด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเขา แล้วเธอจะต้องมารับการถูกกล่าวหาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่หยางเฉินตวาดใส่โจวยู่ชุ่ยต่อหน้าฉินซีด้วย
“ถ้าแม่ยังกล้าใส่ร้ายเพื่อนผมอีกแม้แต่คำเดียว แม่ก็อย่ามาหาว่าผมเสียมารยาทกับแม่แล้วกันนะครับ!”
หยางเฉินทำหน้าเย็นชา แล้วมองไปที่อ้ายหลิน “พี่อ้าย ตอนนี้พี่ช่วยตรวจให้พ่อตาผมที ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าใครมันจะกล้ามาขวางบ้าง?”
หยางเฉินในตอนนี้ มีแต่ความเยือกเย็นปกคลุมอยู่รอบตัว ตาทั้งสองข้าง มีจิตสังหารแอบแฝงอยู่
โจวยู่ชุ่ยที่ถูกหยางเฉินจ้อง รู้สึกราวกับถูกสัตว์ป่าจับจ้องยังไงอย่างนั้น จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเว่ยเมื่อคืนเธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นไปทั้งตัว
แม้แต่ลูกชายของเว่ยเฉิงโจว ก็ยังต้องตายเพราะหยางเฉิน แล้วยังต้องพูดถึงตัวเองอีกเหรอ?
เมื่อกี้เธอแค่กลัวว่าพอฉินต้าหย่งฟื้นขึ้นมาแล้วตัวเองจะถูกเปิดเผย ด้วยความร้อนรน เธอจึงได้ร้องไห้โวยวายเพื่อขัดขวางการตรวจของอ้ายหลิน
ตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่า การที่ตัวเองแสดงออกมากไป มันกลับทำให้ดูน่าสงสัยขึ้นมา
ส่วนหยางเฉินนั้น ก็ไม่เคยพูดถึงว่าเขาเคยตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน
แต่เมื่อกี้โจวยู่ชุ่ยกลับพูดถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉินต้าหย่งว่ายังตรวจสอบไม่ชัดเจน เห็นได้ชัดว่าต้องมีอะไรอยู่ในใจแน่นอน
เดิมทีฉินซีก็เป็นคนที่ฉลาดมากๆ อยู่แล้ว ตอนนี้ เธอเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติเหมือนกัน
แต่ด้วยความที่โจวยู่ชุ่ยเป็นแม่ของเธอ เธอจึงไม่ยอมเปิดใจที่จะไปสงสัยเรื่องนี้
ตอนนี้ พอหยาเฉินได้พูดแบบนั้นออกมา ฉินซีก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาริงๆ แล้ว
“แม่คะ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับพ่อ แม่รู้เรื่องอะไรอยู่ใช่มั้ยคะ?”
จู่ๆ ฉินฉินซีก็ถามออกมา ส่วนลึกของนัยน์ตา ยังมีความเจ็บปวดที่แผงอยู่เต็มเปี่ยม
ฉินซีก็ไม่ใช่คนโง่ โจวยู่ชุ่ยเป็นคนยังไง เธอรู้ดี
หลังจากที่โจวยู่ชุ่ยถูกหยางเฉินช่วยหลับมา ก็เคยอธิบายแล้ว ว่าก่อนหน้านี้ที่เธอจะลงมือกับฉินต้าหย่งแล้วถูกเห็นเข้าก็คือตระกูลเว่ยนี่แหละที่เป็นคนบังคับ
แต่มาตอนนี้ ฉินซีกลับเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้ว
ด้วยนิสัยของโจวยู่ชุ่ย ครั้งก่อนที่เธอถูกเห็นเข้า ก็ต้องอธิบายว่าเธอถูกบังคับอยู่แล้ว แต่ก็ไม่
“เสี่ยวซี แม้แต่แก ก็สงสัยในตัวแม้แล้วเหรอ?”
ในใจของโจวยู่ชุ่ยรู้สึกร้อนรน แต่สีหน้าที่แสดงออกไปนั้นกลับเป็นสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
ฉินซีพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “แม่คะ หนูไม่ได้สงสัยแม่ แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ แม่ก็เอาแต่พูดโกหก แล้วแม่จะให้หนูเชื่อใจแม่ได้ยังไงคะ?”
ระหว่างที่พูด น้ำตาของฉินซีก็ไหลล้นออกมา
ต่อให้คำอธิบายของโจวยู่ชุ่ยจะมีแต่พิรุธ แต่ฉินซีก็ไม่เคยคิดที่จะเปิดโปง มันก็เพราะว่าในใจของเธอ โจวยู่ชุ่ยคือแม่ของเธอ คนที่เป็นลูกอย่างเธอ ไม่อยากที่จะรู้สึกสงสัย”
แต่ว่าการกระทำของโจวยู่ชุ่ย มันช่างน่าสงสัยจริงๆ
เดิมทีฉินซีก็เป็นคนที่ค่อนข้างกตัญญูอยู่แล้ว แค่เห็นก็รู้แล้ว ว่าในใจของเธอตอนนี้ มันกำลังเจ็บปวดแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...