ก่อนหน้านี้ เธอพยายามฝ่าฝืนคำสั่งของตระกูลเย่ คิดวางแผนให้ลูกสาวแท้ๆ ของตนแต่งงานกับราชาเจียงผิง เหลียงเหลียนเคยเสนอความเห็นมาแล้ว
วันนี้ เหลียงเหลียนได้เสนอความเห็นขึ้นมาอีกครั้ง
สองครั้งนี้ ได้ทำให้เย่ม่านเกิดความไม่พอใจเหลียงเหลียนเป็นอย่างมาก
“คุณหญิง ผมแค่เป็นห่วงว่าภารกิจในครั้งนี้จะล้มเหลว! ดังนั้น…”
“หุบปาก!”
เหลียงเหลียนกำลังจะอธิบาย แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเย่ม่านขัดจังหวะ แล้วพูดอย่างโกรธเคือง “อย่าลืมสิ ฉันเป็นคนที่ได้รับคำสั่งให้ทำงานนี้ ฉันมีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างในเจียงผิง!”
“ครับ คุณหญิง!”
เหลียงเหลียนแอบทอดถอนใจ จำต้องคล้อยตาม
เย่ม่านย่อมไม่ยินยอมรายงานเรื่องการแทรกแซงของสมาคมบูโดกับทางวงศ์ตระกูล ทันทีที่รายงาน ทางตระกูลต้องมอบหมายให้คนอื่นเข้ามารับดูแลเรื่องนี้ต่อแน่นอน
พอถึงตอนนั้น แผนการทั้งหมดของเธอจะสูญเปล่า
“เรื่องนี้ พวกเราจะคอยตั้งตารอดู สมาคมบูโดอาจจะไม่สามารถเอาชนะราชาเจียงผิงก็ได้!”
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เย่ม่านก็แสร้งทำเป็นพูดอย่างใจเย็น “ถ้าไม่อย่างนั้น สมาคมบูโดจะไม่มีทางเชิญบรรดาตระกูลมั่งคั่งในเจียงผิงไปงานต่อสู้เจียงผิงที่ศูนย์ยุทธ์แห่งเมืองเอกอีกครั้งหรอก”
เหลียงเหลียนไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาแค่พยักหน้าและปิดปากเงียบ
“เรื่องเจียงผิง ห้ามบอกทางตระกูลเด็ดขาด!”
ทันใดนั้นเย่ม่านก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เหลียงเหลียนถึงพูดขึ้นว่า “คุณหญิงไม่ต้องกังวล ที่เจียงผิง ภารกิจของผมคือปกป้องท่านเท่านั้น!”
“ไปเถอะ ถ้ามีข่าวอะไรให้รีบแจ้งฉันทันที!”
เย่ม่านเอ่ยขึ้นพร้อมกับโบกมือ
หลังจากที่เหลียงเหลียนออกไป ก็เหลือเพียงเย่ม่านอยู่ในคฤหาสน์ตามลำพัง ท่าทีแข็งแกร่งเมื่อครู่ของเธอจางหายไปราวกับกระแสน้ำเพียงชั่วพริบตา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่กลัวผลที่ตามมาเมื่อภารกิจล้มเหลว แต่สำหรับเธอ การเดินทางสู่เจียงผิงในครั้งนี้ เป็นโอกาสเดียวที่จะเธอได้เลื่อนขั้น
ขอเพียงทำให้ฉินซีกับราชาเจียงผิงได้อยู่ด้วยกัน เธอไม่เพียงทำงานที่ได้รับมอบหมายจากตระกูลเย่ได้สำเร็จเท่านั้น แต่ยังจะได้เจอลูกสาวแท้ๆ ของเธอด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือคุณหยางที่คอยควบคุมราชาเจียงผิงอยู่ จะกลายเป็นลูกเขยในอุดมคติของเธออีกด้วย
ต่อไปสถานะของเธอในตระกูลเย่ จะทะยานสูงขึ้นอย่างแน่นอน
“หยางเฉิน คุณต้องเลิกกับลูกสาวของฉัน!”
เมื่อนึกถึงผลประโยชน์มหาศาลที่จะเกิดขึ้นกับเธอหากราชาเจียงผิงและฉินซีอยู่ด้วยกัน ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีคำกล่าวที่ว่าคนที่น่าสงสารก็ต้องอยู่ในที่ที่น่ารังเกียจ เย่ม่านก็เช่นเดียวกัน
หากเธอรู้ว่า หยางเฉินที่เธอดูถูก ใช้อำนาจคุกคามให้ไปจากฉินซี คือคุณหยางราชาเจียงผิงที่เธอตามหามาตลอด คนที่ตระกูลเย่อยากดึงมาเป็นพวก เธอจะคิดอย่างไรนะ?
เจียงโจว ซานเหอกรุ๊ป
รถเบนซ์อเนกประสงค์สีดำคันหนึ่งจอดลงที่ประตู
เวลาเลิกงาน เงาร่างงดงามค่อยๆ เดินออกมาจากอาคารสำนักงาน
ภายในรถอเนกประสงค์ เย่ม่านตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นฉินซี ดวงตาของเธอแดงก่ำ จับจ้องอยู่ที่เงาร่างงดงามที่ดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ฉินซีกำลังจะไป ดูเหมือนเธอจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงทอดสายตามองไปยังรถอเนกประสงค์สีดำที่อยู่ไม่ไกลโดยสัญชาตญาณ
แต่เนื่องจากกระจกรถเป็นสีดำมืด จึงไม่สามารถมองเห็นภายในได้เลย
เธอเพียงแค่เหลือบมองครู่หนึ่ง แล้วดึงสายตากลับมา กำลังจะออกไป
ในขณะนั้นเอง ประตูรถอเนกประสงค์ก็เปิดออกอย่างฉับพลัน หญิงวัยกลางคนในชุดกี่เพ้ากำลังก้าวเดินเข้ามาหาเธอ
“ท่านคือ?”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าตน ฉินซีก็ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นเย่ม่าน เธอก็รู้สึกตื่นตระหนกอย่างน่าประหลาดในทันใด
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอมีความรู้สึกเหมือนเคยรู้จักมาก่อน
เมื่อเย่ม่านได้เห็นฉินซี สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
“ไม่ทราบว่า คุณคือประธานซานเหอกรุ๊ป คุณฉินซีใช่หรือไม่?”
“คืออย่างนี้ค่ะ ฉันวางแผนจะตั้งบริษัทสาขาของแมมบ้าแดงในเจียงโจว อยากเชิญคุณมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทสาขา”
เย่ม่านบอกวัตถุประสงค์ในการมาด้วยรอยยิ้ม “สถานการณ์ของซานเหอกรุ๊ป ฉันรู้อย่างทะลุปรุโปร่ง”
“เป็นกิจการชั้นนำในเจียงโจว โดดเด่นมากในเจียงโจว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกิจการบางแห่งในเมืองเยี่ยนตู ก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น!”
“ด้วยความสามารถของประธานฉิน กิจการขยะเล็กๆ แบบนี้จะคู่ควรกับคุณได้ยังไง?”
“ฉันวางแผนจะลงทุนห้าร้อยล้านเพื่อก่อตั้งบริษัทสาขา และฉันตัดสินใจที่จะมอบหุ้นจำนวนสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทสาขาให้คุณ!”
“ฉันเตรียมสัญญาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณยินดี สามารถเซ็นสัญญาตอนนี้ได้เลย”
เย่ม่านพูดพลางออกคำสั่งเหลียงเหลียนที่อยู่ข้างกาย “รีบเอาสัญญามาเร็ว!”
เธอพูดเองเออเองโดยไม่ได้สังเกตแม้แต่นิดเดียวว่า สีหน้าของฉินซีบึ้งตึงจนถึงขีดสุด
บริษัทสาขาที่มีทุนจดทะเบียนห้าร้อยล้าน สิบเปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมดมีมูลค่าห้าสิบล้าน ถ้าเป็นคนอื่น มันสามารถแสดงความจริงใจของเย่ม่านได้
แต่บังเอิญว่า ฉินซีไม่ได้เป็นเหมือนคนพวกนี้
เพราะเธอเป็นคนก่อตั้งซานเหอกรุ๊ปขึ้นมากับมือ มันมีความหมายอันลึกซึ้งยาวไกลกับเธอมาก
ขอเพียงเธอยินดี การจะเป็นผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จะมีอะไรยาก?
เย่ม่านยังกล้าด้อยค่าซานเหอกรุ๊ปว่าเป็นกิจการขยะอย่างไม่มีชิ้นดี
ในฐานะผู้ก่อตั้งซานเหอกรุ๊ป ฉินซีจะทนอยู่ได้อย่างไร?
“ประธานเย่บอกว่าซานเหอกรุ๊ปเป็นกิจการขยะเหรอคะ?” ฉินซีเอ่ยถาม
“ใช่! ฉันได้ตรวจสอบรายได้ประจำปีของซานเหอกรุ๊ปแล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณห้าสิบล้านเท่านั้น”
“ยกตัวอย่างบริษัทสาขาของแมมบ้าแดงที่ฉันจะตั้งในเจียงโจว ลำพังทุนจดทะเบียนก็ห้าร้อยล้านแล้ว!”
“ด้วยศักยภาพของตระกูลเย่ในเมืองเยี่ยนตู สามารถจินตนาการได้เลยว่า ทันทีที่บริษัทสาขาของแมมบ้าแดงก่อตั้งขึ้น จะดึงดูดความร่วมมือเข้ามาได้มากน้อยแค่ไหน?”
“ฉันรับรองได้เลยว่า ภายในระยะเวลาไม่ถึงสี่เดือนที่เหลืออยู่ในปีนี้ กำไรสุทธิของบริษัทสาขาจะแซงหน้าซานเหอกรุ๊ปได้แน่นอน!”
“คุณว่า ถ้าซานเหอกรุ๊ปไม่ใช่ขยะแล้วเป็นอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...