บทที่ 218 สายเรียกเข้าจากซูมู่หาน
“คุณชายหลิว……”
ลี่เชาที่อยู่ข้าง ๆ ได้พูดขึ้น ตอนแรกก็ยังทำเป็นสั่นนาฬิกาที่ข้อมืออย่างไม่สนใจใครอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับยืนขึ้นตรงนิ่ง
ราวกับเด็กนักเรียนที่มีนิสัยดื้อ ๆ แล้วเจอเข้ากับคุณครูที่โหด ๆ
“พี่เชา พี่พูดถึงคุณชายหลิวคนไหนหรอ”
ในเวลานั้น ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ กับลี่เชาถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ยังจะเป็นใครไปได้อีก ก็คือหลิงลี้ไงที่เป็นคุณชายของเหมืองแร่ในอำเภอผิงอัน ซึ่งเป็นผู้ที่เหี้ยมโหดคนหนึ่ง”
“เป็นเขาเองหรอกหรือ”
“คิดไม่ถึงว่า ตัวจริงเขาจะหล่อขนาดนี้”
ในเวลานั้น ลี่หมิงเฉว่และซูลี่กับผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างก็หมายปองจ้องมองไปยังคุณชายหลิงลี้
และผู้ชายที่เหลือ ต่างก็กลัวแทบจะไม่กล้าหายใจเสียงดัง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพนักงานคิดตังค์ที่เคาน์เตอร์เลย เธอนั้นยืนตรงยิ่งกว่าอะไรดี แล้วก็พยายามยิ้มอย่างวิถีของการให้บริการ
หลิงลี้พาคนมาด้วยสี่ ห้าคน เดินเข้าไปโดยไม่ทันสังเกตเห็นเฉินเกอ แล้วก็แทรกแถวเข้าไปจ่ายตังค์ยังหน้าเคาน์เตอร์
“คิดตังค์หน่อย”
หลิงลี้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ
“ได้ค่ะคุณชายหลิว ค่าอาหารในครั้งนี้ 7888 หยวนค่ะ ทางร้านลดให้สามสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ คุณชายหลิว”
พนักงานคิดตังค์ที่เคาน์เตอร์พูดแล้วยิ้มออกมา
ในขณะที่พูด ก็ไม่ลืมที่จะทำตามจรรยาบรรณของการบริการ
ถ้าหากกิริยาถูกใจคุณชายหลิวล่ะ
“เฮอะ ๆ ส่วนลดห่าอะไร คิดเต็มราคาไปเลย”
เมื่อหลิงลี้พูดจบลง ก็นับเงินแล้วโยนไปที่เคาน์เตอร์
“ใช่แล้วค่ะ คุณชายหลิว ไม่ทราบว่าอยากจะได้ของชิ้นไหนเป็นของที่ระลึกหรอคะ ทางร้านเราสามารถให้แก่คุณได้ค่ะ”
พนักงานคิดตังค์พูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว รีบเขียนบิลให้ฉันเร็ว”
“โอ้ว นี่คือคุณชายหลิวหรอ ช่างหยิ่งยโสจังเลย”
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ กับลี่เชามองเขาจนตาค้าง
แม้แต่ลี่หมิงเฉว่และซูลี่เองก็หันไปมองเขาเหมือนกัน
ในใจก็ได้แต่คิดว่า เมื่อไหร่แฟนของตัวเองจะเป็นแบบนี้ได้อย่างเขาหนอ
“นี่ ๆ ๆ ฉันว่านายน่าจะรู้จักการมาก่อนจ่ายก่อน มาหลังจ่ายหลังนะ พวกเราเองต่างก็รอคิดตังค์อยู่เหมือนกัน แล้วนายทำไมถึงได้จ่ายเงินก่อนพวกเราล่ะ”
ตอนแรกจ้าวถงถงเองก็ไม่พอใจเฉินเกอ และเพื่อนสมัยมัธยมของเฉินเกออยู่แล้ว
และตอนนี้ยังมีคนมาลัดคิวแทรกแถวอีก ตัวเธอเองเลยรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ใช่แล้ว ต้องรู้จักการมาก่อนจ่ายก่อน มาหลังจ่ายหลังนะ นายดูสิ ฉันเองก็ยืนรออยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว”
เฉินเกอเองก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหลิงลี้ที่นี่ และยังเห็นแผลที่อยู่บนใบหน้าของเขา
ที่วันนั้นโดนไปก็ไม่เบา
แต่ว่า ผ่านไปแค่วันสองวันก็ยังกล้าออกมาหากินเหล้าอีกแล้วหรอ
จากนั้นเลยพูดขึ้นว่า
“ฮืม พวกแกหุบปากไป เกี่ยวอะไรกับพวกแกล่ะ คุณชายหลิวอยู่ที่นี่ ดูแลเขาให้ดี ๆ หน่อย”
ในเวลาเดียวกันพนักงานคิดตังค์ก็ได้พูดออกมา
จากนั้นก็มองเฉินเกอด้วยหางตาเบา ๆ
“แม่ง ช่างไม่มีตาจริง ๆ ไม่รู้จักคุณชายหลิวหรอ และอีกอย่างอารมณ์ของคุณชายหลิวก็ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย เฉินเกอ นายหาเรื่องตายหรอ”
ลี่เชาที่อยู่ข้าง ๆ ได้พูดขึ้น
ส่วนเฉินเกอ เมื่อเห็นพนักงานคิดตังค์เยาะเย้ยตัวเอง และหลิงลี้ ก็ทำเหมือนไม่ได้ยินที่ตัวเองพูดไป
ตอนนั้นก็มีอารมณ์โมโหเกิดขึ้นมา
จากนั้นเลยยกเท้าขึ้น แล้วถีบไปที่ก้นของหลิงลี้
“เอ้า”
หลิงลี้ร้องอุทานขึ้น และก็รู้สึกเจ็บแผลที่อยู่ทั่วตัว
“แม่ง อยากตายหรอ”
หลิงลี้ตบไปที่โต๊ะ
ส่วนลี่เชาและคนอื่น ๆ ต่างก็ตาค้างไปตาม ๆ กัน ที่เห็นเฉินเกอนั้นกล้าถีบคุณชายหลิว
และในขณะที่ลี่เชากำลังคิดว่าเฉินเกอจะถูกตีคืนนั้น
กลับคิดไม่ถึงว่า หลิงลี้ที่เตรียมจะฟาดกลับคืนนั้น กลับต้องหยุดหมัดของตัวเองเอาไว้แค่กลางอากาศ
“เฉิน……เฉินเกอหรอ”
หลิงลี้เองถึงกลับตะลึง
คนที่อยู่เบื้องหน้านี้ ก็คือเฉินเกอ คนที่สองวันก่อนนั้นได้เรียกคนมาจัดการตัวเองที่ KTV ใช่ไหม
และคนเหล่านั้นตีเขาจนไม่กล้าที่จะแลกหมัดกลับ
กระหน่ำใส่ตัวเองจนเกือบจะพิการ แต่บาดแผลบนร่างกายก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไร
และที่ตัวเองโดนตีไปนั้น เรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะจบ และในคืนวันนั้น พ่อของตัวเองก็โดนคนกลุ่มหนึ่งจับตัวไปคุยด้วย
ตอนแรกกลับคิดว่าพ่อคงจะแก้แค้นให้ได้
“ฉัน……ค่ะ”
พนักงานคิดตังค์หน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด และจากนั้นก็มองไปที่ลี่เชา
ลี่เชาเองก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันใด จากนั้นก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วรีบเดินออกจากร้านไป
ในตอนนั้นเองก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
นอกจากเสียใจ
ส่วนเฉินเกอนั้น ก็พูดกับหลิงลี้ไปอย่างนั้นแหละ จากนั้นก็พาฉินหยาและคนอื่น ๆ เดินออกไป
เพราะหลิงลี้คนนี้เป็นคนที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และก็ไม่ใช่คนดีอะไรด้วย เฉินเกอเลยไม่อยากที่จะสนิทด้วยกับเขา
หลังจากที่ออกมาแล้ว ก็เห็นลี่เชายืนอยู่ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไม่ไกล
ตอนแรกยังอยากจะดูความอับอายของเฉินเกออยู่เลย แต่ก็ต้องหน้าแหกกลับไป
โดยเฉพาะลี่เชา ที่มีสีหน้าที่ดูไม่ได้เลย
“เฉินเกอรู้จักกับหลิงลี้”
ซูลี่พูดขึ้นด้วยอาการแปลกใจ
แค่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ฮืม เขาแค่ไว้หน้าไอ้นั่นเฉย ๆ หรอก พวกเธอดูสิ เมื่อครู่เฉินเกอก็ได้จ่ายเงินไปแล้วไม่ใช่หรอ นั่นมันก็เป็นเรื่องของหน้าตาศักดิ์ศรี คุณชายหลิวเขาเป็นใครล่ะ จะเห็นหัวคนอย่างเฉินเกอได้อย่างไร”
และลี่เชามีความรู้สึกอิจฉา
เมื่อพูดไปถึงเฉินเกอ เขาก็ได้ปกบิดเรื่องของหลิงลี้กับฉินหยาและคนอื่น ๆ ได้
เมื่อทุกคนกลับไปแล้ว
“เฮ้ย เฉินเกอเขาพักอยู่ที่โรงแรมหรูขนาดนี้เลยหรอ”
และก่อนหน้านี้จ้าวถงถงและคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยที่จะได้เข้าไปข้างใน ดังนั้น ครั้งนี้เมื่อได้กลับมาแล้ว น้องสาวของจ้าวถงถงเองก็รู้เลยสึกแปลกใจขึ้นมา
และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เฉินเกอเลี้ยงข้าวแล้วก็จ่ายเงินไปตั้งเยอะ แถมยังรู้จักคนอีกมากมาย จนทำเอาญาติของจ้าวถงถงนั้นกลับรู้สึกแปลกใจตาม ๆ กันไป
ตอนแรก ยังมีผู้ชายตั้งหลายคนที่จะเข้ามาจีบฉินหยา
แต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบแล้ว ตัวเองแม้นแต่เฉินเกอก็ยังสู้ไม่ได้
ส่วนเฉินเกอ ก็ได้วางโทรศัพท์ลง แล้วก็ไปล้างผลไม้ออกมาให้แก่พวกเธอ
“ว้าว พี่ถงถง พี่รีบดูโทรศัพท์ที่เฉินเกอใช้เครื่องนี้สิ”
น้องสาวของจ้าวถงถงตกใจแล้วก็หยิบโทรศัพท์จากโต๊ะรับแขกขึ้นมาดู
จ้าวถงถงเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน เชี่ย โทรศัพท์เครื่องนี้ตั้งสองหมื่นหยวนเลยนะ เฉินเกอใช้อันนี้หรอ
และในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์ของเฉินเกอก็ได้ดังขึ้น
“ซูมู่หานที่รักหรอ เธอเป็นใครหรอ” น้องสาวของจ้าวถงถงเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏที่หน้าจอ ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
พระเอกแม่งโครต looser จัดสภาพ...