บทที่805 เจอป๋าในหุบเขา
รอจนหลังจากที่หม่าหย่งซินคิดจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับไปนั้นก็สายไปเสียแล้ว
เนื่องจากแสงสีทองนี้ขัดขวางได้ยากยิ่งนัก อีกทั้งยังกะทันหันมากอีกด้วย
ถูกกวาดสายตาไปโดยตรง และตามมาด้วยถอยหลังไปสองสามก้าว และถูกทำให้มึนอยู่ตรงที่เดิมตรงนั้น
และก็อาศัยโอกาสนี้เอง
เฉินเกอรีบวิ่งเข้าไปดึงโจวโน่แล้วหนีออกไปเลย
“ไอ้เด็กสารเลว กล้าใช้แผนนี้ลอบกัดฉัน วันนี้ฉันหม่าหย่งซิน จะต้องชำแหล่ะศพแกให้แหลกละเอียดให้ได้!”
จิตใจของหม่าหย่งซินนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก เวลานี้มองตามเบื้องหลังที่จากไปของเฉินเกออย่างไม่ยอม แล้วกัดฟันขึ้นมาด้วยความเกลียดชัง
เฉินเกอไม่กล้าโอ้เอ้อีก
เขารู้ ว่าตอนนี้กำลังของตัวเองนั้นค่อนข้างอ่อนแอ แม้กระทั่งยืมดวงตาทิพย์มานั้น เป็นเพียงแค่การถ่วงหม่าหย่งซินไว้ได้เป็นการชั่วคราวเพียงเท่านั้น แผนในตอนนี้ การหลบก็คงจะไม่สามารถหลบได้แล้ว
มีเพียงแค่จะต้องอาศัยพึ่งพาแผนที่หุบเขาโยวหมิงที่อยู่ในมือเพียงเท่านั้น เข้าไปภายในหุบเขาโยวหมิง อาศัยแผนการ ขัดขวางหม่าหย่งซิน
ตลอดทางเฉินเกอมองตาล่อกแล่ก จดจำแผนในแผนที่ทั้งหมดนี้ไว้ในหัวของเขาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ทำลายแผนที่แผ่นนั้นไป
แล้วพาโจวโน่ เข้าไปท่ามกลางหุบเขาลึกที่เต็มไปด้วยหมอกสีดำ
“เฮ้อ ตอนนี้พวกเราคงจะเข้ามาในตำแหน่งกลางหุบเขาโยวหมิงแล้ว หม่าหย่งซินนั่น คงจะไม่ตามมาแล้วใช่ไหม?”
โจวโน่หายใจหอบ มองสภาพแวดล้อมมืดๆที่อยู่รอบๆด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้
“ไม่แน่หรอก หม่าหย่งซินนั่นไม่ใช่ว่าจะรับมือได้ง่ายๆแบบนั้น พวกเรายังจะต้องระวังตัวกันเอาไว้อยู่!”
เฉินเกอเอ่ยพูดขึ้นพลางขมวดคิ้ว
ในขณะเดียวกัน ก็มองพิจารณาไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง
ตั้งแต่เข้ามาในหุบเขาจนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าเฉินเกออาศัยแผนที่ หลบเลี่ยงค่ายกลและแผนการมากมาย
แต่นั่นก็ไม่ใช่ยาทิพย์ สัตว์ป่าเล็กๆที่อยู่ในสมัยโบราณตามทาง ก็ทำให้ทั้งสองคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นกัน
อย่างเช่น งูหวงยิน ถ้าหากไม่ใช่ว่าเฉินเกอมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วนั้น งูที่มีพิษแบบนั้น ก็คงจะสามารถเอาชีวิตของทั้งสองคนไปได้ในทันทีทันใด
ดังนั้น เฉินเกอจึงต้องระวังเป็นอย่างมาก
จี๊ดๆๆ.....
และในเวลานี้เอง เสียงกระดานไม้ที่กำลังสั่นไหวอยู่ดังขึ้นมาอย่างชัดเจนเข้าหูของทั้งสองคน
“เฉินเกอนายรีบฟังสิ อะไรเคลื่อนไหวน่ะ!”
ส่วนโจวโน่นั้นก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน มองไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนก
เสียงนี้ ยิ่งดังชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว
“ได้ยินแล้ว ชู่ว!”
เฉินเกอทำมือให้เงียบเสียงลง
แล้วมีสมาธิจดจ่อในขณะนั้น ในที่สุด ในสภาพแวดล้อมที่มืดมิดนี้ เฉินเกอได้ล็อกตำแหน่งที่มาของเสียงนั้นเอาไว้แล้ว ตอนที่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างคลุมเครืออยู่นั้น
“อา!”
โจวโน่ร้องขึ้นมาอย่างตกใจ แล้วไปหลบอยู่ทางด้านหลังของเฉินเกอในทันที
ตรงหน้า มีรถกระดานไม้อยู่คันหนึ่ง และด้านบนนั้นมีโลงศพขนาดใหญ่สีแดงวางอยู่
รถเข็นคันนี้ ที่ไม่มีใครเข็นกำลังลากโลงศพนี้มาทางเฉินเกอ
จี๊ดๆ
เสียงแตกของกระดานไม้นั้นดังขึ้นมาตลอดเวลา นั่นแสดงให้เห็นว่า ภายในโลงศพนั้นเป็นไปได้ว่าจะมีสิ่งของใหญ่ๆอยู่
เฉินเกอเองก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ ขณะนั้นในใจจะบอกว่าไม่กลัวก็คงโกหก
“คงไม่ใช่ป๋าใช่ไหม?”
เฉินเกอเอ่ยพูดกับตัวเองด้วยความมึนงง
ป๋า หรือง่ายๆก็คือศพแห้ง หรือที่โบราณเรียกว่าผีดิบนั่นเอง
สิ่งนี้เป็นศพที่ดูดรับพลังสุริยะจันทราพิเศษ ฝึกฝนจนกลายเป็นผี
ดุร้ายกระหายเลือด ทรงพลังและเป็นอมตะ
สิ่งเหล่านี้เป็นเบาะแสที่เฉินเกอรู้มากจากภาพยนตร์นั่นเอง
“ผีดิบ? เฉินเกอ นายอย่าทำให้ฉันตกใจสิ!ในหุบเขาลึกนี่ จะมีอะไรแบบนี้ได้อย่างไร?”
โจวโน่กลืนน้ำลาย
“หุบเขาลึกนี่จะว่าไปอย่างน้อยๆก็มีประวัติศาสตร์มากว่าร้อยปีได้ ถึงแม้จะมีไดโนเสาร์ปรากฏตัวออกมา ฉันไม่แปลกใจหรอก!”
เฉินเกอกล่าว
เฉินเกอคิดที่จะดึงโจวโน่ เพื่อจะเดินอ้อมโลงศพนี้ไป
แต่คิดไม่ถึง
ตึง!
รถไม้กระดานนี้จะทำงานเองโดยที่พุ่งจู่โจมไปยังเฉินเกอ
“หลบไปข้างๆก่อน!”
เฉินเกอผลักตัวโจวโน่ออก
แล้วชักดาบออกมา แล้วแสงจากดาบนั้นก็พุ่งตรงไปที่รถไม้กระดานคันนั้น
แต่รถไม้กระดานราวกับเป็นสิ่งที่มีชีวิต หลบไปได้เสียอย่างนั้น
โครม!
แล้วยิงแสงสีทองอันทรงพลังนั้นไปยังผีดิบ
ปึง!
แต่การยิงถล่มไปยังร่างของผีดิบ นอกจากจะทำให้เขาหยุดชะงักไปได้ชั่วคราวนั้น ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
เฉินเกออยากจะเหาะขึ้นไป
แต่ผีดิบก็มาจับไหล่ของเฉินเกอเอาไว้
แรงนี้เหมือนกับถูกล็อคมาจากเหล็กที่ทำมาจากเหล็กอายุเป็นพันๆปีอย่างไรอย่างนั้น
ยากที่จะหลุดพ้นออกมาได้
เสียงขู่!
ผีดิบโยนเฉินเกอลงไป
ชนก้อนหินสามสิบกว่าก้อนจนแตกละเอียด
การโจมตีครั้งนี้ ทำให้ร่างของเฉินเกอนั้นแทบจะแยกออกจากกันอยู่แล้ว อยากจะรวบรวมเจินชี่ ก็รวบรวมขึ้นมาไม่ได้เลย
สัตว์ร้ายตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เฉินเกอจับหน้าอกด้วยความหวาดผวา
ส่วนผีดิบที่ในปากมีอากาศสีดำลอยอยู่ นั้นก็เริ่มที่จะค่อยๆเดินมาทางเฉินเกอ
“สัตว์ร้ายอย่างแกอย่าขยับอีกเลย แกกับลูกชายที่เพิ่งเกิดถูกศัตรูสังหาร ฝังอยู่ที่นี่ ความอาฆาตรุนแรงมาก ถ้าหากแกกล้าขยับอีกก้าวเดียวล่ะก็ ฉันจะทำลายผ้าที่ห่อหุ้มตัวของลูกชายแก!”
และเมื่อตอนที่เฉินเกอกระอักเลือดนั้น ตอนที่ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไร
โจวโน่วิ่งไปในโลงศพสีแดงนั่น แล้วทนกับกลิ่นที่เหม็น เพื่อหยิบผ้าห่มคลุมตัวที่มีสีสันฉูดฉาดออกมาผืนหนึ่ง
ศพของเด็กทารกด้านใน ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ทิ้งไว้เพียงแค่ผ้าห่มคลุมตัวที่ห่อหุ้มทารกเอาไว้
แต่เห็นได้ชัดว่าผีดิบได้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
ขณะนั้น มันหยุดเดินอย่างที่คิดไว้จริงๆ
เสียงขู่!
ส่งเสียงขู่โจวโน่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
แท้ที่จริงแล้ว เมื่อครู่ตอนที่เฉินเกอต่อสู้กับผีดิบอยู่นั้น ในขณะที่โจวโน่กำลังร้อนใจอยู่ข้างๆ ก็ได้เห็นฝาโลงศพเข้าพอดี ที่มีการบันทึกเรื่องราวบางอย่างของเจ้าของโลงศพเอาไว้
และก็ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่า ดังนั้นจึงเกิดฉากนี้ขึ้นมา
แต่เห็นได้ชัดว่าโจวโน่ทายถูกแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
พระเอกแม่งโครต looser จัดสภาพ...