ติณห์กับเธอห่างกันตั้งสิบห้าปี เลิกกับเขาเมื่อไหร่ ยกเครื่องหน่อยเธอก็หาผัวใหม่ได้สบายๆ
แต่บอกกับตัวเองยังไงก็ตัดใจจากเขาไม่ได้
เธอรักเขา รักทุกช่วงเวลาที่อยู่กับเขา อยากให้เขารัก แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ติณห์จะรัก เขาดีกับเธอก็จริง แต่เขาก็มีคนที่รักแล้ว
วันหนึ่งอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นซึ่งเธอต้องทำใจยอมรับให้ได้ ในเวลานี้ก็อยู่ในที่ของตัวเอง เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ดีดีเหล่านี้เอาไว้ เผื่อว่าวันหนึ่งที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เธอจะได้มีความทรงจำแสนหวานร่วมกับเขา
“ว้าว วันนี้คุณติณห์ใจดีอะไรคะเนี่ย ถึงพาบลูมากินอาหารเหลาแบบนี้”
บุรฉัตรมองเป็ดปักกิ่งตรงหน้าและอาหารจีนอื่นๆที่เคยเห็นในรูปอย่างสนใจ เคยเห็นแต่ไม่เคยกิน วาสนาปากโดยแท้ที่ติณห์พามากินอะไรแบบนี้
“ก็อยากให้บลูได้ลองกินอะไรแบบนี้ดูบ้าง เวลาที่เราโตขึ้นสังคมของเราก็จะกว้างขึ้น ต่อไปบลูอาจจะมีลูกค้านักธุรกิจระดับที่ใหญ่ขึ้น เผื่อต้องเลี้ยงรับรองแบบนี้บลูจะได้เข้าสังคมได้ไม่เคอะเขิน”
ติณห์สาธิตวิธีการกินเป็ดปักกิ่งให้เธอดู เขาพันแป้งกับเป็ดนำมาวางลงบนจานของเธอ
“ลองชิมเป็ดปักกิ่งดูเอาน้ำซอสราดแบบนี้...อร่อยไหมครับ”
บุรฉัตรพยักหน้า อร่อยมาก ไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน อร่อยกว่าเป็ดย่างที่พ่อเคยซื้อมาให้กินตอนที่ถูกหวยเสียอีก
บุรฉัตรมองอาหารในจานแล้วก็นึกถึงพ่อกับแม่และน้องขึ้นมา อยากจะให้พวกเขาได้ลองชิมดูบ้าง
“อร่อยแล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
ติณห์เห็นบุรฉัตรทำหน้าเศร้าก็อดสงสัยไม่ได้
“บลูคิดถึงพ่อกับแม่แล้วก็น้องมันอร่อยจนบลูอยากจะให้เขาได้กินด้วย”
ติณห์ฟังแล้วยิ้มออกมา สิ่งหนึ่งที่เขาชอบในตัวบุรฉัตรคือเธอเป็นคนกตัญญูและคิดถึงครอบครัวก่อนเสมอ
เธอไม่เคยอายที่จะเล่าถึงครอบครัวของตัวเอง ไม่เคยอายที่พูดถึงความลำบากหรือความไม่มีในวัยเด็ก นี่คือสิ่งที่ติณห์ประทับใจในตัวบุรฉัตร
หม่าม๊าเคยบอกเสมอว่า เขยหรือสะใภ้ของหม่าม๊าไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยหรือนามสกุลดัง ยากดีมีจนหม่าม๊าไม่สนใจขอแค่เป็นคนดีและรักลูกของหม่าม๊าจริงก็พอแล้ว
ในตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าบุรฉัตรเป็นคนดี เธอน่ารักขยันสู้ชีวิตตั้งใจทำมาหากินและเป็นคนเก่งคนหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ว่ารักเขาจริง เขาคิดว่าเขามองไม่ผิด บุรฉัตรรักเขา
สายตาของเธอที่มองมาที่เขา เขารู้ว่ามันมีความรักความศรัทธาอยู่ในนั้น ประกอบกับที่พายุญาติของเขา ที่น้อยคนมากจะรู้ว่าพายุกับเขาไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องแต่เป็นญาติกัน
พายุเล่าให้เขาฟังว่า ในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของ บุรฉัตร แนทตี้บอกว่าบุรฉัตรแอบรักซงจุงกิ ฟังแค่นั้นเขาก็รู้แล้วว่าผู้ชายที่บุรฉัตรมีใจคือเขาไม่ใช่ไอ้ผู้ชายเจ้าของค่ายมวยคนนั้น เพราะบุรฉัตรเคยบอกเขาว่าเขาเหมือนซงจุกิ
พอพายุบอกแบบนั้นวันนั้นเขาเลยใจดีกับเธอเป็นพิเศษ ใจดีจนบุรฉัตรงง นึกถึงหน้าเธอในตอนนั้นเขายังขำไม่หาย
“คุณติณห์โอนเงินมาให้บลูทำไมคะ”
บุรฉัตรถามอย่างแปลกใจ ยิ่งอยู่กันนานติณห์ยิ่งชอบทำตัวป๋าชอบโอนเงินมาให้เธอแบบไม่มีสาเหตุ เดือนละห้าหมื่นบ้างแสนบ้าง ไม่รวมเสื้อผ้าข้าวของที่ขนซื้อให้ประจำ
“โอนให้พาพ่อกับแม่ไปกินข้าว มีคนออกให้บลูไม่ได้ออกเอง พ่อกับแม่คงยอมไป บอกว่าเป็นสวัสดิการจากบริษัทก็ได้”
บุรฉัตรตาโตเมื่อเขาบอกแบบนั้น บริษัทนี้ทำไมสวัสดิการดีขนาดนี่เนี่ย มีงบสำหรับพาพ่อแม่ไปกินข้าวด้วย วาสนาอีบลูจริงๆที่ได้ทำงานที่นี่
“ป๋าใจดีมากเลย ขอบคุณนะคะ”
บุรฉัตรกราบลงแทบอกติณห์แบบให้รู้ว่าล้อเลียน ติณห์หัวเราะชอบใจที่เธอเรียกเขาว่าป๋าอีกแล้ว มันจั๊กกะจี้ก็จริงแต่มันดูน่ารัก
และชวนให้คิดไปไกลถึงบทบาทอีหนูกับป๋า
“ไม่เป็นไร ถ้าอยากขอบคุณป๋าจริงๆวันนี้นวดให้ป๋าก็พอ”
“โอ๊ยห้าหมื่นแบบนี้ ไม่ใช่แค่นวดแล้วล่ะค่ะ แถมนาบให้ด้วยเลย”
ติณห์หัวเราะเสียงดัง เมื่อบุรฉัตรพูดแบบนั้น หัวเราะดังจนถ้าไม่ได้อยู่ในห้องวีไอพีกันสองคน แขกโต๊ะอื่นคงแตกตื่นกันหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา