ในขณะเดียวกัน หลิ่วเหวยลู่และฉู่หยุนซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ฉู่หลินเฉินถูกย้ายไปที่แผนกผู้ป่วยหนัก
ฉู่สวี่มีแผนในใจ เขาพูดขึ้น "ให้หลินเฉินรักษาที่โรงพยาบาลสักวัน พรุ่งนี้ค่อยพาเขากลับบ้าน"
"พรุ่งนี้? หมอบอกว่าต้องอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างน้อยหนึ่งเดือนถึงจะออกได้นี่!" หลิวเหวยลู่พูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย
"ที่โรงพยาบาลมีคนพลุกพล่าน ข่าวจะรั่วออกไปได้ง่าย และมันก็ไม่ปลอดภัย"
"ก็...." หลิ่วเหวยลู่รู้ว่าเขาพูดความจริง แต่เธอเป็นห่วงเรื่องการฟื้นฟูร่างกายของฉู่หลินเฉิน
ฉู่สวี่พูดด้วยความสงบ "เธอวางใจเถอะ ฉันจะจัดการทั้งหมดเอง ในช่วงเวลานี้ ให้ฉินซูช่วยดูแลหลินเฉิน พวกเราไว้ใจทักษะทางการแพทย์ของเธอได้ และเรื่องนี้ก็จะไม่ถูกเปิดเผยออกไปด้วย"
หลิวเหวยลู่ครุ่นคิดอย่างจริงจัง จากนั้นก็พยักหน้า
"คุณพ่อคุณแม่เชื่อใจฉินซูขนาดนั้นเลยเหรอ? อย่าลืมนะว่าพี่กำลังเตรียมตัวจะหย่ากับเธอแล้ว สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง แค่ให้อยู่ในบ้านก็ไม่เหมาะสมแล้ว นี่ยังจะให้ดูแลพี่อีก?"
ฉู่หยุนซีตอบโต้กลับทันที หลังจากที่พี่ชายเธอประสบอุบัติเหตุ เดิมที่เธอก็ต้องการใช้โอกาสนี้ ในการขับไล่ฉินซูออกไปอยู่แล้ว ไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะถึงขั้นให้เธออยู่ดูแลพี่ชายต่อแบบนี้
เธอพูดขึ้นอย่างไม่พอใจนัก “นอกจากนั้น ถ้าจะต้องมีคนดูแลพี่ล่ะก็ ก็ควรจะเป็นหวังอี้หลินสิ คุณพ่อคุณแม่ลืมความรู้สึกที่เขาสองคนมีให้กันแล้วหรือไง? หนูคิดว่าต้องเป็นเธอจึงจะเหมาะสมที่จะดูแลพี่ และเธอก็มีความสามารถพอ เรื่องคุณย่าคราวก่อนนั้นเป็นเพราะมันกะทันหันเกินไป มันเป็นอุบัติเหตุ สถานการณ์ของพี่ไม่เหมือนกันนะ แค่ดูแลทั่วไปเอง หวังอี้หลินทำได้อยู่แล้ว"
ฉู่หยุนซีพูดออกมาเป็นชุด
ฉู่สวี่และหลิวเหวยลู่มองตากันและต่างครุ่นคิด
"ที่หยุนซีพูดก็มีเหตุผล หวังอี้หลินคือคนที่หลินเฉินยินยอม ก็ถือว่าเป็นครอบครัวเราครึ่งนึงแล้ว เรื่องนี้ให้เธอลองดูก็ได้" ฉู่สวี่พูดอย่างสบาย ๆ
หลิวเหวยลู่ลังเลเล็กน้อย เธอตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเท่าไร "อย่างนั้นลูกก็โทรหาเธอสิ"
เพราะเรื่องของคุณท่านเมื่อคราวก่อน หลิวเหวยลู่เกิดความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกเกี่ยวกับหวังอี้ลิน
"ฉันไปพบศาสตราจารย์สมิธ และพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับการวิจัยทางการแพทย์”
หลิวเหวยลู่ยิ้มบาง ๆ ยิ้มแบบที่ดวงตาไม่ได้ยิ้มไปด้วย "ดูท่าทางคุณท่านรองจะสนใจเรื่องการแพทย์จริง ๆ นะคะ เมื่อวานนี้ในงาน ฉู่หลินเฉินเจ้าเด็กคนนี้ก็บอกว่าเขาจะสืบทอดธุรกิจการแพทย์ของตระกูลฉู่ คุณคงไม่รู้สึกไม่สบายใจใช่ไหม?"
ฉู่โจวตกใจเล็กน้อย เขาเข้าใจสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อทันที
เธอสงสัยว่าเขาเป็นคนทำเหรอ?
ฉู่โจวตอบกลับอย่างเรียบเรียบง่าย "จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร หลินเฉินก็เป็นหลานของฉันนะ และเป็นคนที่ได้รับสิทธิ์ดูแลตระกูลฉู่อย่างชอบธรรมด้วย ที่ฉันทำไปก่อนหน้านี้ ก็เพื่อนำธุรกิจการแพทย์ของตระกูลฉู่ที่ดียิ่งขึ้นส่งต่อให้เขา ตอนนี้เขาตั้งใจจะทำเรื่องนี้แล้ว ฉันก็ยินดีจริง ๆ"
ด้วยคำพูดที่ไม่มีหลุดความน่าสงสัยออกมานี้ ทำให้หลิวเหวยลู่ไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าเขาจริงใจหรือเสแสร้ง
เธอได้แต่ตอบกลับอย่างอึดอัดใจว่า "คุณท่านรองมีความตั้งใจแบบนี้นี่เอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...