ฉินซูไม่มองหน้าเธออีกเลย แต่กลับกวาดสายตามองสมาชิกตระกูลฉู่อีกครั้ง สุดท้ายก็มองไปที่ฉู่หลินเฉินและพูดขึ้น "คุณชายฉู่ เราเซ็นเอกสารข้อตกลงการหย่าที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว และก็พูดคุยกันชัดเจนแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่อีก ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องการ ไม่ใช่คำพูดขอโทษ แต่คือการที่พวกเราจะไม่ยุ่งหรือเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันอีก"
ฉู่หลินเฉินขยับปาก แต่กลับไม่มีอะไรจะพูดออกมา
ฉินซูเองก็ไม่มีความสนใจที่จะฟังเขาพูดอะไร วันนี้เธอเหนื่อยมามากพอแล้ว
เธอพูดขึ้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า "ฉันอยากอยู่เงียบ ๆ กับคุณย่าสักพัก ขอเชิญทุกคนกลับไปเถอะค่ะ"
ฉู่หยุนซีกัดฟัน หันตัวเดินกลับไปด้วยสีหน้าไม่ยินยอมนัก
ซ่งจิ่นหรงและคนอื่น ๆ มองฉินซูอย่างลังเลใจ
ฉู่สวี่ครุ่นคิดและพูดขึ้น "ฉินซู พวกเราเสียใจกับเรื่องของคุณย่าเธอจริง ๆ เรื่องนี้ถ้าตระกูลฉู่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย คงไม่ถูกต้องนัก ถ้ามีอะไรให้พวกเราช่วย..."
ไม่รอให้เขาพูดจบ หลิวเหวยลู่ก็ดึงเขาเอาไว้ เธอส่ายหัวเบา ๆ
ฉู่สวี่นึกถึงสิ่งที่ฉินซูเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ จึงได้แต่กลืนคำพูดสุดท้ายกลับเข้าไป และแก้เป็น "เสียใจกับเธอด้วยนะ"
“เด็กน้อย อย่าทุกข์ใจไปเลยนะ” ซ่งจิ่นหรงมีใบหน้าเศร้า เธอถอนหายใจและแอบเช็ดน้ำตา
หลังจากที่คนอื่นกลับไปหมดแล้ว ฉินซูเห็นฉู่หลินเฉินยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้ยินเสี่ยงทุ้มของเขา
"งานศพของคุณย่าเธอ เธอจะจัดการเองคนเดียวเหรอ?"
"ไม่ต้องเป็นห่วง"
พูดจบฉินซูก็หันหลังกลับอย่างเฉยชา เดินเข้าห้องเก็บศพไป
เธอสำหรับเขานั้น กลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปแล้ว
จู่ ๆ ความรู้สึกของฉู่หลินเฉินก็ดำดิ่งเป็นอย่างมาก เขาหันตัวเดินกลับอย่างช้า ๆ
ในห้องเก็บศพนั้นเงียบงัน
โจวซือฉินสะกิดแขนของจงจื้อหย่วน "เหล่าจง ที่พูดเมื่อครู่นี้ คุณจำได้หมดแล้วใช่ไหม ตอนนี้แม่คุณก็ไม่อยู่แล้ว ฉินซูก็เป็นเพียงคนนอกคนหนึ่ง บ้านที่ชนบทของแม่คุณ ก็ควรจะกลายเป็นของคุณนะ จะตกเป็นของฉินซูไปไม่ได้ กลับไปคุณรีบติดต่อคนที่จะซื้อบ้านเลย รีบถือโอกาสขายไปซะ"
"คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เธอจะเอาสิทธิ์อะไรมาแย่งบ้านฉันไปได้"
"มันก็พูดยาก ตอนนี้เธอโดนตระกูลฉู่ไล่ออกมาแล้ว คงไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าพวกเราสักเท่าไหร่ คนน่ะพอมันถึงคราวจน ของอะไรก็อยากได้ พอความอยากมันเยอะเข้า ก็อยากจะใช้วิธีผิด ๆ เพื่อให้ได้มันมา แถมยัยเด็กคนนี้ ยังมีความคิดและวิธีการมากมาย ใครจะรู้ว่าเธอแอบอะไรเอาไว้บ้าง?"
จงจื้อหย่วนพยักหน้าเย็นด้วย "ถ้าเกิดเธอแอบหลอกแม่ของเรา ให้เขียนพินัยกรรมยกบ้านให้เธอ เราคงจะจัดการได้ยากจริง ๆ..."
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ประตูรถก็เปิดออก
"ไปได้แล้ว"
เสียงเย็นชาของฉินซูดังขึ้น
เธอถือโกศอัฐิเอาไว้ และนั่งลงที่เบาะหลัง
จงจื้อหย่วนและโจวซือฉินตกใจ พวกเขามองตากันและหันไปมองฉินซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...