เมื่อคิดว่าเวินหลีจะต้องใช้เวลาผ่านคืนที่ยากลำบากในห้องขังอีกคืนหนึ่ง ฉินซูก็ทำได้เพียงจัดการความรู้สึก และซื้อของกินของใช้จำนวนหนึ่งไปให้เวินหลี
เมื่อเธอมาถึงสถานีตำรวจ เวินหลีก็ออกมาจากด้านในพอดี ทั้งสองคนบังเอิญเจอกันตรงประตูใหญ่
เธอผงะ เมื่อได้สติก็รีบก้าวไปข้างหน้าด้วยความดีใจและแปลกใจทันที “เสี่ยวหลี พวกเขาปล่อยเธอออกมาเหรอ?”
เวินหลีพยักหน้า “ค่ะ”
ฉินซูอ้าปากค้าง จิตใต้สำนึกของเธอต้องการถามสถานการณ์ให้ชัดเจน แต่เมื่อเห็นสภาพของเวินหลีแล้ว น้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไป เธอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ฉันไปส่งเธอกลับก่อน เราเดินไปด้วยคุยไปด้วยแล้วกัน”
“ค่ะ” เวินหลีตอบรับ เธอก็อยากจะออกไปจากที่นี่เร็ว ๆ เช่นกัน
ถูกขังมาหนึ่งวันหนึ่งคืน อาจารย์ต้องเป็นห่วงแทบแย่แน่ ๆ
ระหว่างทาง ฉินซูถามเธอว่าทำไมจู่ ๆ ก็ถูกปล่อยออกมา
เวินหลีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อืม ดูเหมือนว่าหัวหน้าของพวกเขากลับมา หลังจากถามคดีของฉันแล้ว ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตำหนิคนนั้นที่ขังฉัน ว่าไม่ดำเนินการตามกฎ ของไม่ได้หายก็ไม่ควรขังฉันแบบนี้ จากนั้นก็ให้ฉันดำเนินการตามขั้นตอนแล้วก็ออกมา”
“หัวหน้าคนนั้นที่เธอพูดคือเหลียงจวี๋?” ฉินซูถาม
“รู้สึกว่าพวกเขาจะเรียกเขาแบบนี้ พี่เสี่ยวซูรู้จักด้วยเหรอ?” เวินหลีกะพริบตามองฉินซู “พี่ไปหาเขามาใช่ไหม?”
“ก็ไปหามา แต่ว่า…” ในใจของฉินซูก็เต็มไปด้วยความสับสนเช่นเดียวกัน
เดิมทีเธอกับเหลียงจวี๋ยังไม่ได้คุยกันเรียบร้อย และเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะปล่อยเวินหลีเลย
แต่... ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสองชั่วโมง เวินหลีก็ถูกปล่อยตัวออกมา
ทันใดนั้นฉินซูก็ชะงัก จากนั้นมุมปากของเธอก็ขดขึ้นจนโค้ง
ดูเหมือนว่าความคิดของเธอก่อนหน้านี้ตื้นเขินเกินไป ไม่ใช่ทุกคนบนโลกนี้ ที่จะยอมก้มหัวให้กับอำนาจ ยังมีบางคนที่ยึดมั่นในความยุติธรรมและศีลธรรมอยู่เสมอ
เห็นได้ชัดว่าเหลียงจวี๋เป็นคนเช่นนี้ คนที่น่ายำเกรง รู้ผิดรู้ชอบ
ทันใดนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นแล้ว
เวินหลีกลับมาถึงบ้านของตระกูลจาง พร้อมกันฉินซูที่กลับมาเป็นเพื่อน
ยกโทษให้ไม่ได้!
เธอโทรไปแจ้งที่อยู่บ้านพักตากอากาศของหวังอี้หลิน
ในเวลานี้ที่ห้องรับแขกห้องบ้านตระกูลหวัง หวังเจิ้นฮวา สองสามีภรรยากำลังล้อมดูหยกกวนอิมที่คุณท่านตระกูลฉู่ส่งมาให้ ชื่นชมอย่างระมัดระวัง ส่งเสียงจุ๊ ๆ แสดงความประหลาดใจ
“หยกนี่วิเศษจริง ๆ เป็นของล้ำค่าที่ล้ำค่ามาก!” หวังเจิ้นฮวาพูดอย่างตื่นเต้น พร้อมกับถูฝ่ามือไปมา
จางเหวินมองเขาอย่างดูถูก “มีค่ามากแล้วเอาไปขายได้ไหม? สิ่งสำคัญที่สุด คือความหมายแฝงของหยกกวนอิมนี่ต่างหาก! คุณท่านตระกูลฉู่ส่งของขิ้นนี้มาให้อี้หลินของเรา ช่างน่าสนใจจริง ๆ!”
พูดจบเธอก็หันไปมองหวังอี้หลินที่เล่นโทรศัพท์มือถือยู่บนโซฟา และพูดเร่งด้วยความจริงใจ “ลูก นี่คือคุณท่านแสดงออกอย่างชัดเจน ว่าลูกกับคุณชายฉู่สามารถเตรียมพร้อมที่จะมีลูกได้ พูดถึงเรื่องพวกลูกสองคนตอนนี้ คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? แม่รับประกันเลย ว่าถ้ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในท้องของลูก ฝ่ายตระกูลฉู่จะต้องรับลูกแต่งงานเข้าบ้านทันที!”
“แม่ หนูรู้แล้วนา ไม่ต้องให้แม่สอนหรอก” หวังอี้หลินตอบกลับอย่างเหนื่อยหน่าย เธอไม่ได้ไม่อยากเข้าใกล้คุณชายฉู่มากกว่านี้สักหน่อย
บางทีหลังจากงานหมั้นจบ แล้วเธอกลายเป็นคู่หมั้นที่ชอบธรรมของเขา เรื่องนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ สุกงอม เรื่องทั้งหมดก็จะบรรลุผล
เมื่อหวังอี้หลินคิดจะพูดอีก โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...