เธอหมุนตัวกลับมาอย่างเก้อเขิน ทว่าคนคนนั้นเพียงแค่ไอ แต่เขายังคงนอนหลับใหลต่อไป
เกรงว่าคงไม่ได้สติภายในสองสามชั่วโมงนี้
ฉินซูยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ วางโทรศัพท์ลงและเอนกายลงบนเตียงผู้ป่วยอีกเตียง จากนั้นก็หลับตาพักผ่อน
ภายในห้องแยกโรค อาหารสามมื้อถูกส่งตรงเวลาทุกวัน โดยวางไว้หน้าประตูห้อง เธอเพียงแค่ต้องยกมันเข้ามา
นอกจากเธอต้องดูแลรักษาผู้ชายคนนี้ทุกวัน ตรวจดูอาการติดเชื้อไวรัสในร่างกายของเขา ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในห้อง เธอยังวัดอุณหภูมิของตนเอง ใส่ใจกับสภาพร่างกายของเธอ เพื่อวินิจฉัยว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่
ระยะฝักตัวของไวรัสชนิดนี้คือหนึ่งสัปดาห์ และสามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ก็ต่อเมื่อมีอาการเท่านั้น
ดังนั้นในหนึ่งสัปดาห์นี้ ไม่ว่าเธอจะติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม เธอก็ทำได้เพียงอยู่ในห้องแยกโรคร่วมกันกับชายคนนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้ต้องการการดูแลและการรักษา นอกจากเธอ ก็ไม่มีคนอื่นที่เหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
หลังผ่าตัด ผู้ชายที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงบึกบึนคนนี้นอนหลับเต็มที่ และรู้สึกตัวในคืนถัดมา
ในเวลานั้นฉินซูกำลังนอนหลับสนิท เธอได้ยินเสียงฝีเท้าลาง ๆ
เธอลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ และเห็นเงาดำ ๆ เดินไปทางประตู
เธอตกใจ จากนั้นเมื่อสติกลับมาเธอก็คาดเดาว่าความตั้งใจของอีกฝ่ายคือจะออกไป เธอเด้งตัวกระโดดลุกขึ้นจากเตียงและพุ่งไป
“คุณไปไม่ได้นะ!”
เธอดึงเข้าไว้แน่นท่ามกลางความมืด และไม่รู้ว่ากอดไว้ตรงจุดไหน เธอพูดเตือนอย่างเคร่งขรึม “ไวรัสในร่างกายคุณยังไม่หมดไป ออกไปตอนนี้จะเป็นการแพร่เชื้อนะ! กว่าฉันจะช่วยชีวิตคุณไว้ได้ ไม่ใช่เพื่อให้คุณไปเป็นอันตรายต่อสังคม!”
มีเสียงอู้อี้ดังออกมาจากชายคนนั้น เพราะฉินซูเพิ่งจะกอดบาดแผลบนเอวของเขา
เขาอดทนต่อความเจ็บปวด กัดฟันและพูดออกไปอย่างยากลำบาก “ผมเพียงแค่ลงจากเตียงแล้วเดิน…”
พูดจบก็ยกมือขึ้นไปกดสวิตซ์ไฟ หลอดไฟสีขาวสว่างจ้าขึ้น เผยให้เห็นฉากที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าเหลือบมองผู้หญิงคนนี้ นึกถึงชื่อเรียกนั้นที่ได้ยินก่อนจะหมดสติ เขาเปิดปากลองหยั่งเชิงพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “คุณหมอฉิน?”
“คะ” ฉินซูตอบรับอย่างนิ่งเฉย
ชายหนุ่มมองเธออย่างคิดใคร่ครวญ “คุณไม่ควรอยู่ด้วยกันกับผม ไวรัสนี้แพร่กระจายรุนแรงมาก…”
ในตอนที่เขาดำเนินการทำภารกิจแฝง ในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่สองนาทีที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่ระวัง หนึ่งสัปดาห์ต่อมาผลปรากฏว่าเขาติดเชื้อ
แต่ผู้หญิงคนนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าร่างกายของตนเองติดเชื้อไวรัส เธอยังกล้าที่จะอยู่ในห้องเดียวกันกับเขาอีก
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นหมอ แต่ก็ต้องพูดว่าช่างกล้าหาญมากเกินไปจริง ๆ
“โชคไม่ดี เป็นเพราะฉันไม่ระวังในตอนที่ทำการผ่าตัด จึงอาจจะติดเชื้อไปแล้ว การกักตัวอยู่ในห้องเดียวกันกับคุณ หนึ่งคือ สะดวกต่อการดูแลรักษาคุณอย่างต่อเนื่อง สองคือ ไม่นำความเสี่ยงไปสู่คนอื่น” ฉินซูพูดอย่างไม่หวาดหวั่น
คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...