ฉู่หลินเฉินเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่พอใจ
วางปากกาหมึกซึมในมือตึงตังด้วยสีหน้าเยือกเย็น จากนั้นหยิบเสื้อสูทตัวนอกแล้วเดินออกไป
เว่ยเหอไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาพูดอะไรผิดไป ได้แต่ลูบจมูกด้วยใบหน้าเหยเก
ยืนอยู่ด้านนอกของบ้านพักตากอากาศ
ทันทีที่ฉู่หลินเฉินนึกถึงเรื่องเมื่อคืน จิตใจของเขาก็ยุ่งเหยิงอุตลุด แต่ในที่สุดก็เดินเข้าไปด้วยความลังเล
ฉินซูเพิ่งจะเตรียมตัวที่จะทานมื้อค่ำ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเธอก็เงยหน้าขึ้น
เพียงแค่เหลือบมองครั้งเดียว เธอก็รีบก้มหน้าลง แล้วทานข้าวโดยไม่หันไปมอง
เมื่อเห็นท่าทีที่เฉยเมยของเธอ ในใจของฉู่หลินเฉินก็ยิ่งรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
ทำไมเมื่อคืนเขาถึงเกิดความรู้สึกที่รุนแรงแบบนั้นกับเธอ เพียงแค่เพราะยาเหรอ?
เมื่อคิดแบบนี้ ฝีเท้าของเขาก็เดินเข้าไปหาฉินซูโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดูเหมือนว่าฉินซูจะก้มหน้าทานข้าวอย่างนิ่งเฉย แต่จริง ๆ แล้วภายในใจกลับลุกลี้ลุกลนและหวาดกลัว
ท่าทางของผู้ชายคนนี้ที่ดุร้ายเหมือนสัตว์ป่าเมื่อคืน ยังคงฝังอยู่ในหัวของเธอ การเข้าใกล้ของเขาทำให้เธอมีปฏิกิริยาเตือนภัยตัวเองไปทั่วทั้งตัว ร่างกายของเธอแข็งทื่อ
ในตอนที่ฉู่หลินเฉินเกือบจะเดินถึงด้านหน้าของเธอ ฉินซูสูดหายใจเข้าลึก ๆ วางตะเกียบลงแล้วเงยหน้าขึ้น
ดูเหมือนว่าเธอจะเชิญชวนแต่ความจริงเธอพูดขึ้นอย่างปฏิเสธ “คุณชายฉู่ ถ้าคุณอยากจะนั่งลงทานข้าว ในหม้อยังมีอยู่”
เพราะจริง ๆ แล้วผู้ชายคนนี้ไม่เคยทานข้าวด้วยกันกับเธอเลย
คิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนทิศทางเดินไปยังห้องครัว
ผ่านไปไม่นานก็ถือชามข้าวออกมา นั่งลงตรงข้ามกับฉินซู
ฉินซู: ...
“อาหารน่าจะไม่พอ” เธอก้มลงดูเนื้อและผักตรงหน้าแล้วพูดขึ้น
“พอแล้ว ฉันไม่ได้อยากอาหาร”
ฉู่หลินเฉินเหมือนจงใจจะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร ดูท่าทางเขาอยากจะทานอาหารมื้อนี้กับเธอจริง ๆ!
ฉินซูบังคับตัวเองไม่ให้สนใจเขาอย่างเด็ดขาด เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาทานข้าวอีกครั้ง
ฉินซูเม้มปากไม่พูดอะไร มองเขาด้วยความพร้อมที่จะป้องกันตัวเอง
เมื่อเจอกับสายตาของเธอ ฉู่หลินเฉินก็นึกถึงตัวเองที่ยั้งสติไม่อยู่เมื่อคืน จากนั้นเขาก็ระงับการแสดงออกด้วยความรำคาญ
เขาถอนตัวกลับออกมา ใช้น้ำเสียงที่ไม่พอใจและทะนงตัวพูดขึ้นว่า “อย่าคิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรกับเธอ เมื่อคืนมันเป็นแค่อุบัติเหตุ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไหล่ที่กระชับแน่นของฉินซูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ริมฝีปากของเธอขดเล็กน้อยและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันดื่มเหล้าจนเมา แล้วก็ทำพฤติกรรมที่ขาดสติ งั้นเราก็หายกันนะ หวังว่าคุณชายฉู่จะไม่ใส่ใจ”
ฉู่หลินเฉินขยับริมฝีปากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาหมุนตัวเดินขึ้นชั้นบน
ณ บ้านตระกูลหวัง
จางเหวินได้จัดเตรียมเสื้อผ้า สำหรับไปทานอาหารที่บ้านตระกูลฉู่ในอีกสองวันข้างหน้าสำหรับหวังอี้หลินไว้แต่เนิ่น ๆ
“คุณผู้หญิงฉู่เชิญลูกด้วยตัวเอง แสดงว่าคุณเขายอมรับลูก ไปทานข้าวครั้งนี้เป้าหมายของลูกคือคุณท่านตระกูลฉู่”
จางเหวินเลือกเสื้อผ้าไปด้วย ชี้แนะให้หวังอี้หลินไปด้วย “อย่าไปดูถูกการแก่ตัวของหญิงชราคนนั้น ที่ตระกูลฉู่เธอเป็นคนที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุด!”
หวังอี้หลินแบะปาก “ก็เป็นเพราะยายแก่คนนี้แหละ ที่พาฉินซูเข้าบ้านตระกูลฉู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หนูก็ได้เป็นคุณหนูของตระกูลฉู่ไปตั้งนานแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...