หวังอี้หลินมีปฏิกิริยาทันที เธอคิดว่าการที่เธอปรากฏตัวอยู่ที่นี่เวลานี้จะทำให้คนสงสัยได้ง่าย
เธอกระพริบตาและพูดว่า “ฉันกับหยุนซีนัดดื่มกาแฟกันแถว ๆ นี้ เห็นพวกคุณผ่านมาพอดี”
โชคดีที่ฉู่หลินเฉินเชื่อเธอและไม่สงสัยอะไร แถมยังถามอย่างครุ่นคิดว่า “เธอกับหยุนซีเข้ากันได้ดีใช่ไหม?”
หวังอี้หลินไม่พูดแน่ว่าเธอจงใจประจบฉู่หยุนซี
เธอพยักหน้าและพูดเบา ๆ “หยุนซีดีกับฉันมาก”
ได้ยินเช่นนั้นฉู่หลินเฉินก็กระตุกมุมปาก
เขายังคงคิดว่าเด็กคนนั้นปฏิบัติเหมือนกันกับทุก ๆ คน แต่ดูเหมือนว่าเพราะตัวตนปลอม ๆ ของฉินซู ทำให้พยายามคิดอคติกับเธอ
เมื่อนึกถึงว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่ตนเองต้องการแต่งงานด้วย ภายในใจของฉู่หลินเฉินก็กระตุกและพูดขึ้นมาว่า “เธอจะไปไหน? ฉันไปส่ง”
หวังอี้หลินอดใจรอไม่ไหวที่จะตอบตกลงออกไป แต่จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนความคิด และมีเหตุผลอื่นที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนคำพูด “ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้ ถ้าถูกนักข่าวถ่ายรูปไว้เดี๋ยวจะแย่เอา ยิ่งไปกว่านั้นคุณ... ยังต้องจัดการเรื่องของฉินซู”
ฉู่หลินเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า “งั้นก้ได้ ระวังตัวด้วย”
“อืม” หวังอี้หลินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ภายในใจกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขาเปลี่ยนคำพูดเร็วมาก... คิดว่าเขาจะยังยืนกรานที่จะไปส่งเธอที่บ้าน
เธอจากไปด้วยความผิดหวัง
เว่ยเหอขับรถไปอย่างสงบ เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้วจึงพูดขึ้น “คุณชายฉู่ เมื่อกี้คุณอี้หลินอาจจะอยากให้คุณไปส่งเธอ”
สายของของฉู่หลินเฉินจ้องไปยังร่างกายของฉินซูที่ไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ เขา ริมฝีปากบางเม้มสนิท ไม่ได้พูดอะไรออกไป
…
ฉินซูตื่นขึ้น รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไร้เรี่ยวแรง
มองดูโคมไฟคริสตัลที่อยู่เหนือศีรษะ ก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา จึงลองคิดอย่างถี่ถ้วน แล้วก็ตระหนักได้ว่าตนเองนอนอยู่บนโซฟาที่บ้านพักตากอากาศ
สายตานิ่งลึกที่ไม่อาจละไปได้จ้องมองมาที่เธอ
ฉินซูเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังข้างหน้าต่าง
“ตื่นแล้วเหรอ” ฉู่หลินเฉินยืนอยู่ข้างหน้าต่าง รูปร่างสูงโปร่ง แสงจันทร์สาดส่องไปที่เงาของเขา
“ฉลาดจริง ๆ แม้แต่ตัวเองถูกคิดร้ายก็ไม่รู้อะไรเลย?” น้ำเสียงของฉู่หลินเฉินเต็มไปด้วยถึงการเยาะเย้ย
ฉินซูเม้มปากไม่พูดอะไร แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลินเมิ่งฟาน แต่เธอกลับไม่รู้ว่าตนเองถูกโจมตีตอนไหน และอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น เธอเชื่อว่าถึงแม้ฉู่หลินเฉินจะถามแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้นักหรอก
เป็นไปตามคาด เขาลุกขึ้นจากโซฟาและมองลงมาที่เธอ จากนั้นพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอารองไม่รู้สถานะที่แท้จริงของพวกเราแล้วบอกฉันทันที ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องมันจะจบลงยังไง หลังจากนี้เธอก็ระวังตัวไว้หน่อย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว”
ฉินซูดึงริมฝีปาก เธอพยักหน้าและพูดว่า “เข้าใจแล้ว”
แต่หลังจากนั้นเธอก็ตกใจ
อารอง?
หรือว่าคนที่เธอโผเข้าหาในตอนนั้นไม่ใช่ฉู่หลินเฉินแต่เป็นอารอง?
ฉินซูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไม่นานก็นึกถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...