ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 269

เฟิ่งจงฉวนหรือ?

ดูท่าฮ่องเต้จะลงมือแล้ว

หนานหว่านเยียนหรี่ตาลง สายตาที่สดใสล้ำลึกทิ้งร่องรอยของความเย็นชาไว้ “เฟิ่งกงกงเชิญเข้ามาในเรือนเถิด”

ทันทีที่คําพูดจบ เฟิ่งจงฉวนก็ผลักประตูเข้ามา สายตาที่แหลมคมของเขามองไปบนร่างกายอันอ่อนแอของกู้โม่หานที่นอนอยู่บนเตียงก่อนเป็นอันดับแรก

ต่อจากนั้นเขาก็โค้งคํานับให้หนานหว่านเยียน และเอ่ยว่า “ข้าน้อยคารวะพระชายาอี้ ฮ่องเต้ได้ยินว่าอ๋องอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งพิเศษให้ข้าน้อยมาเยี่ยมเยียน คงไม่เป็นการรบกวนพระชายาใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ขณะพูด เขาเหลือบมองหนานว่านหยานด้วยเจตนาบางอย่าง

เฟิ่งจงฉวนเป็นบุคคลสนิทที่ฮ่องเต้ทรงวางพระทัย เป็นตัวแทนของอํานาจของจักรพรรดิที่น่าเกรงขาม ทุกคนล้วนให้ความเคารพ

ขณะนี้หยุนอี่ว์โหรวกําลังคุกเข่าอยู่ข้างนอก อากาศที่หนาวเหน็บ ลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนสวมเสื้อหนาๆ มีเพียงนางเท่านั้นที่รีบร้อนออกมา คลุมผ้าบางๆ ไว้เพียงชิ้นเดียว นั่งตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นที่แข็งและเย็นยะเยือก

 นางมองไปในห้อง หนานหว่านเยียนและเฟิ่งกงกงกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข แต่นางกลับต้องตกระกำลำบากนั่งคุกเข่าอยู่ที่นี่ เฟิ่งกงกงไม่แม้แต่จะมองนางด้วยซ้ำ

จิตใจที่หวาดกลัวของหยุนอี่ว์โหรวกําลังถูกเผาไหม้ด้วยความแค้นและความริษยาอย่างรุนแรง นางทนกัดฟันข่มความเคียดแค้นที่นางไม่สามารถนำทั้งหมดมาระบายกับหนานหว่านเยียนได้

ทว่าตั้งแต่เมื่อใดกันที่หนานหว่านเยียนสนิทกับคนในวัง มีความสัมพันธ์อันดีกับคนสนิทข้างกายฮ่องเต้ขนาดนี้?

เสิ่นอี่ว์ปิดประตูจวน ขัดขวางสายตาที่สอดรู้สอดเห็นของหยุนอี่ว์โหรว

หนานหว่านเยียนมองไปยังเฟิ่งกงกง ใบหน้าก็ไม่ได้มีความสุขมากนัก เพียงกล่าวอย่างสุภาพว่า “ท่านอ๋องเสร็จสิ้นการผ่าตัดแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงสังเกตอาการ เฟิ่งกงกงไปดูสักหน่อยเถิด หลังจากกลับไปก็จะได้รายงานให้กับฮ่องเต้ตามความเป็นจริง”

เฟิ่งจงฉวนเลิกคิ้วขึ้น กวาดสายตาไปมองหนานหว่านเยียน

“ข้าน้อยได้เห็นแล้ว ทว่าตอนนี้อ๋องอี้ก็ยังไม่ฟื้น ข้าน้อยก็ไม่เข้าใจทักษะทางการแพทย์ พระชายาโปรดบอกข้าน้อยด้วย ข้าน้อยกลับไป ก็จะรายงานให้ฮ่องเต้ทรงทราบ อธิบายให้แบบไม่มีตกหล่นเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?

เขาเห็นสภาพนั้นของกู้โม่หานแบบผ่านๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ใกล้จะตายเต็มที ตอนนี้ก็อยู่ที่หนานหว่านเยียนแล้วว่าจะเฉลียวฉลาดพอหรือไม่

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วที่โค้งได้รูปของนางเล็กน้อย ดวงตาก็มืดมนลง แล้วเอ่ยปากพูด

“แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของท่านอ๋องจะอันตราย แต่สมรรถภาพทางร่างกายของท่านอ๋องนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป เขาสามารถอยู่รอดได้”

เฟิ่งกงกงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร เป็นพวกเดียวกับฮ่องเต้นั่น เป็นสุนักจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เพทุบาย ที่อยากจะให้กู้โม่หานตายไวๆ

ทว่าตอนนี้กู้โม่หานยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็เป็นเหมือนดั่งที่หยุนอี่ว์โหรวกล่าวไว้ว่า เป็นเพราะช่วยนางเขาจึงได้รับบาดเจ็บ

นางยังรู้หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับฮ่องเต้ วันใดหากกู้โม่หานตายไป ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า ฮ่องเต้ที่ตีสองหน้าผู้นั้น ที่จะใช้วิธีกล่าวโทษเหยื่อ เพื่อลงโทษประหารชีวิตนางหรือไม่

เฟิ่งกงกงเลิกคิ้วขึ้น เสียงที่แหลมเล็กของเขาไม่พอใจเล็กน้อย “โอ้ ท่านอ๋องจะผ่านมันไปได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดี”

เขาเหลือบมองเสิ่นอี่ว์ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยยังมีธุระอีกเรื่องหนึ่ง ต้องการคุยกับพระชายาตามลำพัง นี่เป็นพระประสงค์ของฮ่องเต้ คนอื่นๆ ออกไปก่อนเถิด”

นี่ไม่ได้เป็นการที่ฮ่องเต้มอบความตายให้แก่กู้โม่หานโดยอ้อม ด้วยการต้องการยึดอํานาจทางทหารในมือของเขาไปงั้นหรือ?

และเห็นได้ชัดว่าเฟิ่งกงกงกำลังขู่นาง ต้องการทำให้กู้โม่หานกลายเป็นคนพิการ...

หนานหว่านเยียนพยายามกดความหนาวเหน็บในก้นบึ้งของหัวใจนางไว้ กล่าวออกไปว่า:“เฟิ่งกงกง เกรงว่าจะรีบร้อนขนาดนั้นไม่ได้”

เฟิ่งกงกงหรี่ตาลงมอง ด้วยดวงตาคมกริบที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวถึงขีดสุด“พระชายานี่หมายความว่าอย่างไรกัน?”

หนานหว่านเยียนโค้งคํานับเล็กน้อย“อย่าพูดถึงอาการบาดเจ็บของท่านอ๋องก่อนเลยว่าเป็นอย่างไร อันดับแรกเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวใจ ทุกคนก็รู้แล้ว จู่ๆ จะมาประกาศว่าเขากลายเป็นคนพิการไปแล้วในช่วงหัวแล้วหัวต่อเช่นนี้ ความจริงแล้วก็จะแปลกๆ หน่อย และก็จะไม่ได้รับการยอมรับด้วย”

“ส่วนคําป้ายเทพสงครามของกองเกราะเสวียน สิ่งนี้อยู่ในมือของท่านอ๋องมาโดยตลอด ท่านน่ารอเขาตื่นขึ้นมา แล้วขอเขาด้วยตัวเองดีหรือไม่?”

หากเอาป้ายเทพสงครามจากอ๋องอี้ได้ ยังต้องมาฟังคำพูดไร้สาระจากหนานหว่านเยียนงั้นหรือ?!

เฟิ่งจงฉวนหรี่ตาจ้องมองตรวจสอบหนานหว่านเยียน เขาตีหน้าขรึม กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นขา

“ท่านอ๋องได้รับบาด ในจวนแห่งนี้พระชายามีอำนาจมากที่สุด หากท่านอยากได้ป้ายเทพสงคราม ใครจะกล้าไม่เอามันมาให้ท่านงั้นหรือ?!เพราะพระชายาเชื่อฟังคำสั่งฮ่องเต้ ชีวิตนี้จึงถูกบีบอยู่ในกำมือฮ่องเต้”

“เรื่องนี้ต้องจัดการให้เรียบร้อยหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฮ่องเต้ทรงกริ้ว มิเช่นนั้นก็...”

กล่าวจบ เขาใช้มือทำท่าทางบริเวณต้นคอ แสดงออกถึงความข่มขู่——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้