รับหยีเฟยกลับมาอยู่ที่จวนอ๋องอี้หรือ?
ทุกคนตกตะลึงยิ่งนัก
ประกายแห่งความประหลาดใจเผยขึ้นในแววตาของกู้โม่หาน
การที่เสด็จแม่ยังอยู่ในวัง ก็จะถูกเสด็จพ่อมองว่าเป็นจุดอ่อนของเขา และมักใช้มาบีบบังคับ เขาเองก็รู้สึกเป็นกังวลใจ หากสามารถรับเสด็จแม่กลับไปอยู่ด้วยกันได้ สำหรับเขามีแต่ข้อดีมิมีข้อเสีย
หนานหว่านเยียนเอ่ยเงื่อนไขนี้ออกมา หรือว่านางคิด......
เฟิ่งกงกงรู้สึกว่าบรรยากาศ ณ ที่นั้นแทบจะหยุดนิ่งลง
หนานหว่านเยียนรู้หรือไม่ว่าการที่จะรับหยีเฟยออกไปจากพระราชวัง นั่นหมายความว่าอย่างไร?
นางกำลังล้อเล่นกับอำนาจล้ำฟ้า!
กู้จิ่งซานกำมือแน่น สีหน้าของเขาดูน่ากลัวเยือกเย็น “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะรับหยีเฟยออกไปนอกวัง?”
การจะให้หยีเฟยเดินทางออกนอกพระราชวัง แน่นอนว่าเขาไม่ยินดีเลย
แต่หนานหว่านเยียนกลับกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “ลูกแน่ใจเพคะ เมื่อครู่เสด็จพ่อเองก็กล่าวว่าอยากจะให้ความสัมพันธ์ของลูกกับท่านอ๋องแน่นแฟ้น”
“หากว่าลูกสามารถรับเสด็จแม่กลับไปที่จวนอ๋องได้ คาดว่าท่านอ๋องคงจะมีความสุขนัก เมื่อเป็นเช่นนี้เชื่อว่าหนทางในอนาคตของลูกกับท่านอ๋องคงจะก้าวไปได้อย่างราบรื่น”
ในใจของกู้จิ่งซานชัดเจนแน่แท้ หากให้หยีเฟยเดินทางออกจากราชวัง นั้นก็เท่ากับหนานหว่านเยียนตบหน้าเขา ดูเหมือนนางจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว
แต่จากที่เขามองดู หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานร่วมมือกันได้อย่างแยบยล คงจะไม่เอ่ยเรื่องจลาจลออกมาแน่ ไม่ว่าเขาจะกล่าวหรือไม่กล่าว ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นเรื่องที่ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมองใครได้
กู้โม่หานเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหนานหว่านเยียนจะพยายามจนสุดความสามารถเช่นนี้
สองคนนี้คาดว่าหัวใจคงจะเชื่อมโยงกันแล้วก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็ทำให้รู้ว่าจะปล่อยไว้ไม่ได้
เขาเงยหน้าขึ้นมองสายตาแหลมคม อ้าปากกล่าวขึ้นว่า “ข้าอนุญาต”
แม้ว่าจะตอบตกลงแล้วแต่ใครก็ตามรู้ดีถึงเรื่องนี้ว่าหมายถึงสิ่งใด
เพียงแต่ไม่มีใครกล่าวออกมาตามตรงเท่านั้น
บรรยากาศภายในห้องทรงพระอักษรดูตึงเครียด
ทันใดนั้น ที่หน้าประตูก็มีขันทีคนหนึ่งรายงานขึ้น ขัดบรรยากาศภายในห้องนี้ทันที
“ทูลฝ่าบาท ฮองเฮาส่งคนมากำชับว่าวันเทศกาลดอกไม้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เชิญฝ่าบาทเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”
กู้จิ่งซานเหลือบมองดูหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “เรื่องของหยีเฟย ประเดี๋ยวค่อยกลับมาคุยกันต่อหลังจากงานเลี้ยงจบสิ้น บัดนี้เราไปที่อุทยานหลวงกันเถิด”
เมื่อกล่าวจบเขาก็เดินตรงออกไปข้างนอก โดยมีเฟิ่งกงกงเดินตามติดไป กู้โม่หานและหนานหว่านเยียนถอยหลังออกมาด้วยความนอบน้อมแล้วเดินตามหลังไปเช่นกัน
สองสามีภรรยาสบตากัน สายตาทั้งคู่ประสานกันอย่างมีเลศนัย
หนานหว่านเยียนจับชีพจรของกู้โม่หานอย่างลับๆ แล้วใช้น้ำเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนกล่าวว่า “สุราเมื่อครู่ที่เจ้าดื่มลงไปนั่นคือสุราพิษระยะยาว มันจะยังไม่ออกฤทธิ์เสียตอนนี้”
แท้จริงแล้วตอนที่หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานปรากฏตัว สายตาของทุกคนก็ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อ๋องเฉิงเลิกคิ้วขึ้น มองไปยังสีหน้าซีดเสียวของกู้โม่หาน ในใจก็รู้สึกซับซ้อน
จากครั้งก่อนที่หนานหว่านเยียนได้เอ่ยเตือน เมื่อเขากลับไปยังจวนอ๋องแล้วก็ได้ให้คนออกไปแอบสืบดู
เขาได้พบเรื่องราวผิดปกติเกี่ยวกับการลอบสังหารในครั้งนั้น แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ไม่ได้เชื่อจนหมดใจว่าการลอบสังหารครั้งนั้นไม่ใช่ฝีมือของกู้โม่หาน
ข้างกายของกู้โม่เฟิง หนานชิงชิงอุ้มเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้ สายตามองไปยังหนานหว่านเยียน แฝงไปด้วยความเยือกเย็นเล็กน้อย
นางได้ยินมาว่ากู้โม่หานที่ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัสยากจะช่วยให้หายได้ กลับถูกหนานหว่านเยียนช่วยจนฟื้นขึ้นมา นางก็รู้สึกราวกับมีคนเอาน้ำเย็นมาสาดหน้า
นางคิดว่ากู้โม่หานคงจะต้องตายอย่างแน่แท้ และเริ่มคิดถึงเรื่องตอนที่อ๋องเฉิงได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท คาดไม่ถึงว่ากู้โม่หานได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้แล้วยังสามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมามีชีวิตได้ดังเดิม
นี่ยังไม่เท่าไร แต่กู้โม่หานกลับโชคดีเพราะอาการบาดเจ็บครั้งนี้ เขาได้รับหัวใจจากชาวบ้านประชาชนและทหารมากมาย ทางด้านของกู้โม่เฟิงเองก็ดูผิดปกติไป ไม่รู้ว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง ทำให้นางโมโหยิ่งนัก
ขณะนั้นเอง ไทเฮาทอดพระเนตรเห็นกู้โม่หานสามารถลุกขึ้นเดินได้ก็ดีใจจนไม่อาจหุบยิ้ม รีบตรัสถามว่า “อ๋องอี้ ร่างกายเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ดีขึ้นมากแล้วหรือไม่?”
แววตาลึกล้ำของกู้โม่หานไม่ได้เคลื่อนไหวสักเล็กน้อย แต่เขากลับลุกขึ้นยกมือคารวะไทเฮาแล้วตอบว่า “ทูลเสด็จย่า อาการบาดเจ็บของหลานยังไม่หายดี แต่ก็ดีขึ้นมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
คิ้วของฮองเฮาก็แฝงความหมายอันลึกซึ้ง แต่เมื่อนึกขึ้นว่าเมื่อสักครู่กู้โม่หานและพระชายาถูกพามาโดยฮ่องเต้ นางก็รู้สึกอยากจะลองเชิงดู
“หายดีก็ดีแล้ว แต่เพื่อไม่ให้ฝ่าบาททรงกังวลพระทัย ก็ยังคงต้องดูบาดแผลของเจ้าด้วยตนเองสักหน่อย......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...